วอลโว่ เอ็กซ์ซี 60 ที 8เอสยูวี แรงตามใจสั่ง
คอลัมน์... ยานยนต์ โดย... สินธุ์ชัย ภมรพล
แนวทางการออกแบบใหม่ของวอลโว่ ปรับเปลี่ยนมาพักใหญ่ ดูร่วมสมัยขึ้น และที่สำคัญดูลดอายุลงไปจากเดิมลงไปพอควรทีเดียว และให้อารมณ์ทั้งความหรูหรา สปอร์ต บึกบึน เข้าไว้ด้วยกัน
เอ็กซ์ซี 60 เอสยูวีขนาดกลาง เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่สร้างออกมาแล้วดูจะโดนใจผู้บริโภคไม่น้อยทีเดียว และในบ้านเราวางจำหน่าย 4 รุ่นย่อย ประกอบด้วยรุ่นดี 4 AWD Momentum เครื่องยนต์ดีเซล ค่าตัว 3.19 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเบนซิน คือ ที 8 Twin Engine AWD Momentum 3.29 ล้านบาท ที 8 Twin Engine AWD R-Design3.59 ล้านบาท และ T8 Twin Engine AWD Inscription 3.69 ล้านบาท
คันที่นำมาฝากวันนี้เป็นรุ่น T8 R Design รถปลั๊กอิน ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ไดรฟ์-อี ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ ซูเปอร์ชาร์จ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 87 แรงม้า เมื่อทำงานรวมกันได้กำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.3 วินาทีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
สมรรถนะที่ทำได้ถือว่าเด่นมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง มาเหนือกว่า แต่ราคาต่ำกว่าไม่น้อยประมาณ 1-3 แสนบาทเลยทีเดียว เป็นเรื่องที่น่าสนใจหากใครจะมองหารถเอสยูวีขนาดกลางไว้ใช้งานสักคัน แต่ก็เข้าใจได้ว่าวอลโว่ยังต้องแข่งกับตัวเองในเรื่องการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคด้านเครือข่ายการบริการและราคาอะไหล่ ซึ่งที่ผ่านมาวอลโว่ก็พยายามเต็มที่ และยืนยันว่าไม่ได้แพงกว่าแต่อย่างใด
สมรรถนะถ่ายทอดไปที่การขับขี่แค่ไหน ไปดูกัน
ช่วงแรกที่รับรถมา ชาร์จไฟไว้เต็ม ซึ่งตามสเปกหากใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวจะขับขี่ได้ไกลสุด 40 กม. แต่ผมใช้งานปกติ เลือกโหมดไฮบริด ไม่ได้เลือกอีวี การใช้งานช่วงประมาณ 60 กม. แรก ได้อัตราเฉลี่ยประมาณ 20 กม./ลิตร แต่จากนั้นเป็นการขับขี่ออกต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าจะใช้กำลังจากเครื่องยนต์เป็นหลัก อัตราสิ้นเปลืองตกอยู่ประมาณ 11 กม./ลิตรซึ่งผมพอใจครับ หากเทียบกับรูปแบบการขับขี่ที่เน้นการตอบสนองของสมรรถนะของระบบไฮบริด เพราะดีเกินกว่าที่จะขับกินลมชมวิว การตอบสนองของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำได้อย่างทันอก แต่ถ้าหากว่ายังไม่พอใจปรับไปโหมดเพาเวอร์ การกระชากกระชั้นเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
ขุมพลังช่วยให้ที 8 ขับได้สนุกจริง ขณะที่ช่วงล่างแม้จะดูนุ่มๆ ไปสักหน่อย แต่ก็รองรับการขับขี่แบบนี้ได้เพียงพอ รถนิ่งที่ความเร็วสูง การเข้าออกโค้งก็เชื่อใจได้
ช่วงล่างนิ่ง เครื่องยนต์แรงจริงจัง ทำให้นอกจากพร้อมโลดแล่นในเส้นทางโล่งๆ แล้ว ก็ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองที่การจราจรหนาแน่น เพราะความกระฉับกระเฉงของรถ ความตื่นตัวตลอดเวลาของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้านั่นเอง
น้ำหนักพวงมาลัยเบาไปสักหน่อย ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่เพราะเบามือ หมุนง่ายสบายๆ น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเมื่อความเร็วสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงใจคนที่ชอบอารมณ์สปอร์ต ซึ่งก็คงต้องกลับไปที่โหมดเพาเวอร์ที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมา
ความเงียบในห้องโดยสารเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของเอ็กซ์ซี 60 แม้จะขับขี่ที่ความเร็วสูงแต่เสียงที่เล็ดลอดเข้ามาน้อยมาก ทำให้เครื่องเสียงและลำโพง Bowers&Wilkins ทำงานได้อย่างเต็มที่
ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย โปร่งโล่งไม่อึดอัด หากมีจังหวะเปิดม่านบังแดดหลังคาปล่อยให้แสงทะลุผ่านหลังคาแก้วพาโนรามิกก็ยิ่งช่วยให้ดูโปร่งสบายยิ่งขึ้น
ระบบต่างๆ ใส่เข้ามาเต็มที่ รวมถึงระบบ HUD หรือ Head up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บริเวณกระจกบังลมหน้า ทำให้ไม่ต้องก้มลงดูที่หน้าปัด หรือมอนิเตอร์ ช่วยให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน ข้อมูลที่แสดงก็ชัดเจนและยังมีการเตือนเกี่ยวกับข้อมูลจราจรตามจริง ทั้งข้อกำหนดความเร็ว หรือเขตบริเวณโรงเรียน การเตือนก็เตือนเป็นภาพเหมือนจริง เช่น ป้ายความเร็ว หรือป้ายเหลืองๆ รูปผู้ใหญ่จูงมือเด็กที่เราพบเห็นได้บริเวณโรงเรียน พร้อมกับเสียงเตือนทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนแปลง หลายคนอาจจะไม่ชอบ รำคาญ แต่ผมว่าก็ดีนะเพื่อความปลอดภัยและเมื่อใช้ไปสักพักก็จะชิน
ระบบความปลอดภัยก็ใส่มาเต็มที่ เข็มขัดพร้อมจะรัดให้กระชับมากขึ้น หากคุณปล่อยให้รถไหลเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป เช่นเดียวกับระบบเตือนทั้งสัญลักษณ์และเสียง หรือถ้ามัวแต่เพลินกับพละกำลังเหลือเฟือ โดยลืมไปว่านี่เป็นถนนเมืองไทย ไม่ใช่ออโต้บาห์นที่ไม่มีคอสะพานชัน ทำให้รถโดดเล็กน้อยจนล้อเสียแรงเสียดทานกับพื้นถนน ถึงตรงนั้นคุณจะรู้ได้ทันทีว่าไม่ความปรานีจากเข็มขัดที่จะรัดแน่นอย่างรวดเร็ว เพราะระบบประเมินว่ารถอาจเกิดอุบัติเหตุได้
โดยรวมเอ็กซ์ซี 60 เป็นรถที่ขับง่าย เครื่องแรง นั่งสบาย ช่วงล่างนุ่มนวล ทัศนวิสัยดี และใช้งานได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นใช้งานกับครอบครัว เดินทางท่องเที่ยว หรือใช้ในชีวิตประจำวันครับ