แปลงโกดังเก่าเป็นร้านหรูกลิ่นไอจีน "นายห้าง"
หากมีโอกาสแวะเวียนไปที่โครงการ “ล้ง 1919” ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากสักการะ “เจ้าแม่หม่าโจ้ว” ที่ขึ้นชื่อทางด้านความศักดิ์สิทธิ์ ต่อด้วยเดินเก็บภาพสวยๆ ตามมุมต่างๆ แล้ว ภายในโครงการยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกอีกหลายร้านด้วย และหนึ่งในนั้นคือ “ร้านนายห้าง” แบรนด์น้องใหม่ในเครือ เอสแอนด์พี จำกัด (มหาชน) เริ่มเปิดบริการเมื่อปลายปี 60 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อที่ทุกคนเรียก คุณพ่อสุริยน ไรวา ต้นตระกูลไรวา ประกอบกับเรื่องราวในวัยเยาว์ของครอบครัวที่ผูกพันกับการใช้ชีวิตและการทำงานในละแวกนี้ ซึ่งเดิมเคยเป็นท่าเรือค้าขายข้าวมาก่อน และสำคัญที่สุดคือความรักความห่วงใยของพ่อที่กลายเป็นคำพูดติดหูทุกคน เช่น “กินข้าวหรือยัง?” ได้ถูกถ่ายทอดเข้าไปเป็นรายละเอียดของร้าน
แวบแรกที่ก้าวเท้าเข้าไปในร้าน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นจีน นั่นเพราะสไตล์ร้านอิงบรรยากาศมาจากย่านเยาวราชในอดีตราวปี 2510 ที่มีความครึกครื้นเป็นกันเอง โครงร้านเป็นโกดังเก่าโดยนำเอกลักษณ์ไฟนีออนดัดมาตกแต่งร้านรวมถึงโลโก้ด้านหน้า ทั้งยังประดับด้วยภาพวาดจำลองจากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “เศรษฐีอนาถา” และโคมสีแดงสื่อถึงความเป็นจีนแนวสตรีท ขณะที่โต๊ะ-เก้าอี้ทำจากไม้ มีหมอนอิงลวดลายดอกไม้จีนสีสันสดใสวางให้พิงหลังเพื่อความสบายขณะนั่งกินอาหาร นอกจากนี้ทางร้านยังนำเครื่องใช้สำนักงานที่เคยใช้งานจริงสมัยก่อน รวมถึงกระสอบข้าวสารมาวางในร้าน เพื่อเพิ่มบรรยากาศความหลังให้ดูสนุกสนานยิ่งขึ้น
มัลลิกา ปันทะโชติ โชว์เมนูปลากะพงพริกไทยดำ
ขลุ่ยปู
จีหมี่ปูกับหมูแฮม
หลังจากชมร้านและเลือกมุมนั่งได้แล้วก็ถึงเวลาสั่งอาหารมาชิมกันล่ะ มัลลิกา ปันทะโชติ ผู้จัดการร้าน บอกว่า นายห้างมีบริการอาหารมากมายทีเดียว แต่เมนูเด็ดๆ ที่มาแล้วต้องลองขอเริ่มต้นที่อาหารกินเล่นอย่าง ขลุ่ยปู ด้านในเป็นไส้ปูและหมูห่อด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะ ม้วนกลมๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ กินคู่กับน้ำจิ้มหวานเพลินลิ้นทีเดียว หลังจากน้ำย่อยเริ่มทำงานก็เป็นทีของอาหารจานหลัก เมนูแนะนำแรกเป็น จีหมี่ปูกับหมูแฮม สูตรพิเศษที่ทางร้านคิดขึ้นเอง ทำจากเส้นบะหมี่ไข่ปรุงรสชาตินิดหน่อย ก่อนนำไปทอดในน้ำมันน้อยๆ ให้ได้อารมณ์แบบกรอบนอกนุ่มใน โรยหน้าด้วยกรรเชียงปูนึ่ง แฮม และพริกไทย ก่อนกินแนะนำให้ใส่จิ๊กโฉ่และน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
ปลากะพงพริกไทยดำ
หอยนางรมชมวัง
ถั่วแขกผัดหมูสับสไตล์เสฉวน
จานถัดมาเป็น ปลากะพงพริกไทยดำ เขาจะแล่ปลาเป็นชิ้นพอดีคำ ราดด้วยพริกหวาน 3 สีผัดกับกระเทียม พริกไทยดำป่น และพริกไทยดำแบบเม็ด จะได้ความอร่อยแบบครบรสโดยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูแนะนำอย่าง หอยนางรมชมวัง ทางร้านเลือกใช้หอยนางรมไซส์ใหญ่ปรุงรสแบบออส่วน ใส่ลงในกระทงแป้งกรอบ แถมด้วยหมี่กรอบรองด้านล่าง กินกับซอสพริกเข้ากันดีทีเดียว อีกเมนูที่ดูธรรมดาแต่ ถั่วแขกผัดหมูสับสไตล์เสฉวน ของที่นี่รับรองว่าไม่ธรรมดา เพราะลูกค้าสั่งกันเยอะจนกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูขายดี นั่นเพราะเชฟเลือกใช้ถั่วแขกกรอบๆ มาผัดกับพริกหอมซวงเจีย นำเข้าจากประเทศจีน กินแล้วจะรู้สึกเผ็ดๆ และชาลิ้น ขณะเดียวกันก็มีความหอมในตัว
ข้าวผัดนายห้างกุ้งแม่น้ำ
บะกุดเต๋
จานนี้ถ้าพลาดรับรองต้องเสียดาย เพราะ ข้าวผัดนายห้างกุ้งแม่น้ำ ถือเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน จุดเด่นอยู่ที่กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่ที่วางมาคู่กับข้าวผัดใส่หมูแดงรสกลมกล่อม แต่ถ้าจะดีลองสั่ง บะกุดเต๋ ร้อนๆ มาซดให้คล่องคอ ที่นี่เขาใช้ซี่โครงหมูตุ๋นกับยาจีนนานหลายชั่วโมง จึงเปื่อยนุ่มแถมยังหอมเครื่องยาจีน ทั้งยังเพิ่มเติมความอร่อยด้วยเห็ดหอมและเก๋ากี้ เสิร์ฟมาพร้อมกับปาท่องโก๋ทอดให้กินคู่กันด้วย และนอกจากอาหารแล้วทางร้านยังมีเครื่องดื่มหลายชนิดไว้บริการ ที่อยากแนะนำให้ลองก็อย่าง อัญชันกาแฟเย็น อัญชันมะนาวโซดา กาแฟยกล้อเสิร์ฟพร้อมชามะลิร้อนๆ
อัญชันกาแฟเย็น-กาแฟยกล้อเสิร์ฟคู่ชามะลิร้อน-อัญชันมะนาวโซดา
นอกจากนี้ บริเวณเอาท์ดอร์ด้านหน้าร้านยังมีรถเข็นขายอาหารกินเล่น อาทิ กล้วยทอด ขนมครก ขนมเบื้อง หมูสะเต๊ะ ซาลาเปา ชานมไข่มุก น้ำสมุนไพร ฯลฯ ไว้บริการด้วย จะเลือกแบบกินเล่นหรือกินจริงจังก็แวะเวียนไปเยี่ยมเยียน “นายห้าง” กันได้ทุกวันตั้งแต่ 11 โมงไปจนถึง 3 ทุ่ม หรือจะยกหูไปนัดแนะก่อนก็ได้ที่ 0-2408-4710 และ 08-4438-1726
ข่าวที่เกี่ยวข้อง