พลังแห่งงานดีไซน์กระฉูดบนรันเวย์

          ในแวดวงแฟชั่น ณ จุดนี้ เรียกว่า อยู่ในห้วงเวลาแห่งการปล่อยของ และคราวนี้ก็ทีของ สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ นำผลงานเหล่าดีไซเนอร์รุ่นใหม่ มาโชว์บนรันเวย์แฟชั่นระดับประเทศในงาน “บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล แฟชั่น วีค 2018” (Bangkok International Fashion Week 2018) หรือ BIFW 2018 ภายใต้แนวคิด “อีฟ ไลฟ์ อีส ดีไซน์!” โชว์แฟชั่นคอลเลกชั่นพิเศษที่มีความหลากหลายแห่งจินตนาการของบรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน สร้างความตื่นตา ตื่นใจ และความประทับใจให้กับผู้ชมรอบรันเวย์ ที่สยามเซ็นเตอร์ เมื่อวันก่อน

อาจารย์เบียงก้า เชียร์

          อาจารย์เบียงก้า เชียร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ กล่าวถึง  คอนเซ็ปต์  “อีฟ ไลฟ์ อีส ดีไซน์!!” ของซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ ที่นำเสนอบนเวที BIFW ครั้งนี้ว่าเป็นเรื่องราวของการเติมเต็มความฝันของเหล่าดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ที่ต้องการใช้แฟชั่นสะท้อนตัวตน สร้างสรรค์ผลงานออกมาตามจินตนาการ ในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งดีไซเนอร์รุ่นใหม่กลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของผลผลิตจากสถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ที่ดำเนินการด้วยวัตถุประสงค์ต้องการสร้างนักออกแบบที่มีคุณภาพระดับสากลด้วยหลักสูตรการเรียนการสอนจากอิตาลี เน้นพัฒนาทักษะตั้งแต่พื้นฐานการวาดรูปหุ่นแฟชั่น การเลือกวัสดุ การสร้างแพทเทิร์น และเทคนิคต่างๆ จนมาสู่การนำแรงบันดาลใจมาสร้างเป็นคอลเลกชั่นของตัวเองและสามารถร่วมแสดงแฟชั่นโชว์ระดับนานาชาติได้

          ครั้งนี้บนรันเวย์ BIFW 2018 ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ ได้นำเสนอแฟชั่นโชว์รวม 74 ชุด จาก 12 แบรนด์ไอเดียสร้างสรรค์ ของทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน อาทิ ธนกร สิทธิวงศ์วณิช แบรนด์ซามู (SAA-MU) กับผลงาน “Cosmopolitan Street” เน้นการใช้วัตถุดิบจากไทย โดยการเลือกใช้ผ้าคอตตอนแท้ ที่มีความทนทาน สวมใส่สบาย ซึ่งคอลเลคชั่นนี้เน้นการใช้สีสันสดใส อาทิ สีเหลือง สีเขียว สีแดง ผนวกกับลวดลายแปลกใหม่สะดุดตา ทำให้ช่วยสร้างความสนุกสนานให้กับชิ้นงานมากขึ้น พร้อมส่งต่ออารมณ์จากเสื้อผ้าไปถึงผู้ที่สวมใส่ได้อย่างลงตัว 

         ต่อด้วย จิตราภรณ์ แย้มปลื้ม แบรนด์จิตะ สตูดิโอ (Jità Studio) โชว์คอลเลกชั่น “Art It On” ผลงาน Handmade ที่ผลิตจากผ้าและเส้นใยธรรมชาติ นำมาเพ้นท์และพิมพ์ลายด้วยสีสันสดใส โดยผู้สวมใส่สามารถได้สัมผัสถึงความลุ่มลึกของศิลปะ เป็นงานที่ประดับประดาไปด้วยจินตนาการ และความประณีตในการสร้างชิ้นงานของศิลปิน ให้ความรู้สึกแตกต่างจากงานผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมอย่างสิ้นเชิง

         และ นิพนธ์ พิลา แบรนด์พิลา สตูดิโอ (PILA Studio) กับผลงาน “Family Portrait : Timeless Tailored Memory” โดยคอลเลกชั่นนี้จะเน้นไปที่การตัดเย็บแบบเทเลอร์ด้วยฝีมือช่างไทยทั้งสิ้น พร้อมกับการผสมผสานกันระหว่างเนื้อผ้าวูลสําหรับสูทและผ้ายีนส์ ซึ่งเน้นการใช้สีสันสดใส แต่ยังแฝงความเป็นสไตล์วินเทจของแบรนด์เอาไว้ ทำให้สามารถสวมใส่ได้ง่ายในทุกเพศวัย ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่

        ปิดท้ายด้วย ณรงค์ เกตุแก้ว แบรนด์ณรงค์ (Narong) นำเสนอคอลเลกชั่น “Clouds Bursting” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปรัชญาอันสวยงามตามธรรมชาติของท้องฟ้ายามค่ำคืนในแต่ละช่วงเวลา ที่มีความแตกต่างกันของสีสัน โดยเน้นการใช้โทนสีดำ, เทา, ม่วง, น้ำเงิน, เงิน, ทอง นำมาปักตกแต่งด้วยผ้าตาข่าย และ ลูกไม้ สร้างลวดลายเสมือนดวงดาวบนท้องฟ้า แสดงให้เห็นถึงความประณีต เย้ายวน น่าค้นหา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว