ปาฏิหาริย์พระหลวงปู่มหาเจิม'นุ นครปฐม'

              “คำร่ำลือเรื่องพุทธคุณของเหรียญหลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล โดยเฉพาะในแวดวงตำรวจมีผู้ต้องหาหลายรายในเขต จ.นครปฐม และใกล้เคียง โดยเฉพาะผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกัน เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายรายเสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นไร และไม่ใช่ครั้งเดียวแต่มีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลาย สน.”

              นี่เป็นเหตุผลแรกและเหตุผลเดียวที่ทำให้นายพิษณุ ภาณุมาศ หรือเจ้าของฉายา “นุ นครปฐม” สายตรงหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล กล้าที่จะเก็บและไล่เช่าบูชาพระเครื่องและเหรียญของพระครูภาวนาปัญญาดิลก หรือหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล ประธานสงฆ์วัดสระมงคล บ้านหนองโพธิ์ ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

              “นุ นครปฐม” บอกว่า มีผู้ต้องหาหลายรายในเขต จ.นครปฐม และใกล้เคียง หลายครั้งที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายรายเสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นไร โดยในคอแขวนเหรียญหลวงปู่มหาเจิมเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น

              ทั้งนี้มีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลาย สน. คดีหนึ่งที่ทำให้เหรียญรุ่นนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ คือ คดีของ สน.บางกอกน้อย หรือ สส.บก.น.๗ เป็นคดีที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมนายบุญฤทธิ์ หรือ คิว ด้วงไพร อายุ ๒๒ ปี สมาชิกแก๊งโอรส แล้วเกิดมีการยิงต่อสู้กันถึงกับตำรวจตาย ใครจะคิดว่าหลังจากตำรวจจับกุมคิว ด้วงไพร ได้แล้ว ปรากฏว่ามีตำรวจจาก สน.ดังกล่าวเดินทางไปเช่าเหรียญหันข้างหลวงปู่มหาเจิม

              อย่างกรณีล่าสุดประสบการณ์ตรงจากเพื่อนบ้าน คือ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๗.๐๐ น. พลทหารฉัตรชัย บุญช่วย ชาว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ถูกปืนขนาด ๙ มม. จ่อยิงบริเวณท้อง แต่สภาพบาดแผลเป็นเพียงแค่รอยถลอกเท่านั้น ทันทีที่ทราบเหตุ ได้เดินทางไปพบ และสิ่งแรกที่ทำ คือ ขอดูพระว่ามีพระอะไรดี ปรากฏว่าพลทหารฉัตรชัยแขวนเหรียญรูปไข่ หลวงปู่มหาเจิม หันข้าง อดีตเจ้าอาวาสวัดสระมงคล เพียงเหรียญเดียวนั้น

              พร้อมกันนี้ “นุ นครปฐม” ยังบอกด้วยว่า เหรียญหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล รุ่นปัญญาบารมี เป็นเหรียญที่ออกในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ เนื่องในงานวันเกิดครบ ๙๐ ปี ประกอบด้วย รูปเหมือนลอยองค์ เหรียญรูปไข่ เหรียญเสมา ล็อกเกต รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า และพระปิดตาเนื้อผง ทั้งนี้ท่านได้เมตตาต่อลูกศิษย์เป็นกรณีพิเศษ โดยมีข้อแม้ว่า “อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกโดยเด็ดขาด”

              หลวงปู่มหาเจิม ละสังขารแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น. วันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ด้วยโรควัยชรา สิริอายุ ๙๕ พรรษา ๗๔ หลังจากประกอบพิธีเผาศพแล้ว เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่ง อัฐิได้กลายเป็นพระธาตุ

              ปัจจุบัน “นุ นครปฐม” เปิดศูนย์พระเครื่องอยู่ที่ตลาดน้ำวัดลำพญา ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม ใครอยากรู้เรื่องประสบการณ์อันเหลือเชื่อของพระหลวงปู่มหาเจิม รวมทั้งพระที่มีประสบการณ์อื่นๆ ใน จ.นครปฐม สอบถามข้อมูลได้ที่โทร.๐๙-๒๙๑๙-๕๖๐๙

ค่านิยมจาก ๙๙ บาท กลายเป็นหลักพัน

              เหรียญหลวงปู่มหาเจิม รุ่นปัญญาบารมี ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย, หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์

              หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย, หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก, หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด และหลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญ เป็นต้น

              ด้วยเหตุที่เป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวในปีที่ออกนั้นกรรมการวัดได้ตั้งราคาวัตถุมงคลทุกรายการไว้เพียง ๙๙ บาทเท่านั้น เพื่อให้ลูกศิษย์ได้เช่าหากันอย่างทั่วถึง แต่ปัจจุบันด้วยคำร่ำลือเรื่องพุทธคุณและประสบการณ์ด้านมหาอุด และแคล้วคลาด

              หลังจากท่านละสังขารรวมทั้งวัตถุมงคลได้หมดจากวัดสระมงคล ทำให้วัตถุมงคลราคาสูงขึ้นทุกรายการ

              “นุ นครปฐม” ให้ข้อมูลว่า รูปเหมือนลอยองค์ ค่านิยม ๓,๐๐๐ บาท เหรียญรูปไข่ ค่านิยม ๒,๕๐๐ บาท แต่ถ้าเป็นสีปีกแมลงทับ ซึ่งหายากมากจะมีราคาสูงถึง ๕,๐๐๐ บาท เหรียญเสมา ค่านิยม ๓,๐๐๐ บาท แต่ถ้าเป็นสีปีกแมลงทับ ซึ่งหายากมากจะมีราคาสูงถึง ๕,๐๐๐ บาท ล็อกเกตใหญ่ ค่านิยม ๕๐,๐๐๐ บาท รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า ค่านิยม ๕๐,๐๐๐ บาท และพระปิดตาเนื้อผง ค่านิยม ๒,๕๐๐ บาท

              อย่างไรก็ตาม “นุ นครปฐม” พูดไว้อย่างน่าคิดว่า “พระสร้างใหม่หลายรุ่นหลายวัดเป็นพระที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพระมีประสบการณ์ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้พระเป็นที่ต้องการและมีราคาสูงขึ้นตามลำดับ อย่าดูถูกพุทธคุณพระสร้างใหม่ และพระใหม่ในวันนี้จะเป็นพระเก่าในวันหน้า พระเก่าที่เราเล่นอยู่ทุกวันนี้สมัยหนึ่งเคยเป็นพระใหม่มาก่อนทุกองค์ทุกรุ่น”

พระหลวงปู่มหาเจิมช่วยสร้างสถานปฏิบัติธรรม

              วัดลำพญา สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ๒๔๐๔ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยศรัทธาของชาวบ้านได้ช่วยกันพัฒนามาตามลำดับ จากกุฏิหลังคามุงจาก พื้นวัดลาดลุ่ม รกชัฏไปด้วยหญ้าคา ป่าไผ่ ป่าสะแกและกอลำเจียก ก็เปลี่ยนเป็นกุฏิที่สร้างถาวรงดงาม เปลี่ยนป่ารกชัฏเป็นความสงบเยือกเย็น เป็นสวนหย่อม สวนพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดลำพญา” ซึ่งปัจจุบันมีพระอธิการชิด สุจิตโต เป็นเจ้าอาวาส

              พระอธิการชิด เป็นพระนักพัฒนา โดยร่วมกับชาวบ้านช่วยกันพัฒนาตลาดน้ำขึ้นมา โดยการสร้างแพ มีหลังคาอย่างดีทีแรกก็สร้างไว้ ๔ หลัง พอเขียนเล่าไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก็ต้องสร้างแพเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ดูเหมือนจะมีสัก ๖-๗ หลังแล้ว ในแพมีร้านอาหาร มีโต๊ะเก้าอี้เป็นส่วนกลางทุกแพ จะนั่งตรงไหน สั่งอาหารที่ไหนก็ได้ ส่วนรอบๆ แพก็มีเรือมาขายอาหารขายผัก ขายผลไม้ ขายขนมหวาน

              สำหรับที่มาของวัตถุมงคลของหลวงปู่มหาเจิมนั้น พระอธิการชิด บอกว่า ด้วยเหตุที่เป็นพระพรรษาน้อยไม่ใช่เป็นพระเกจิอาจารย์ จงต้องพึ่งบารมีพระเกจิรูปอื่นๆ โดยปกติแล้วจะเช่าพระจากวัดต่างๆ มามอบเป็นที่ระลึกกับญาติโยมเนื่องในโอกาสต่างๆ เมื่อวัดสระมงคลมีการจัดสร้างพระหลวงปู่มหาเจิม มีพระเกจิอาจารย์สายป่ามาร่วมปลุกเสกจำนวนมากจึงเช่าเก็บไว้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าพระที่เช่าไว้จะได้รับความนิยม

              “เมื่อญาติโยมทราบข่าวว่ามีวัตถุมงคลของหลวงปู่มหาเจิมจำนวนมากจึงมาขอแบ่งเช่า ขณะเดียวกันอาตมภาพก็มีโครงการซื้อที่ดินเพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมจึงนำวัตถุมงคลออกมาให้เช่าบูชา ซึ่งถือว่าเป็นบารมีอย่างหนึ่งของหลวงปู่มหาเจิมแม้ว่าจะละสังขารแล้วท่านก็ยังช่วยสร้างสถานปฏิบัติธรรม” พระอธิการชิด กล่าว