วัดดอนเมืองกับ...หลวงพ่อแคล้ว

               วัดดอนเมือง เป็นวัดที่ได้ตั้งชื่อกันมาแต่ดั้งเดิม  เพราะพื้นที่ในบริเวณนี้เป็นที่ราบสูง เดิมเรียกกันว่า  “ดอนอีเหยี่ยว” เพราะมีฝูงเหยี่ยวบินมารวมตัวกัน  เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ต่อมาเมื่อมีกองบินทหารบกมาตั้ง (กองทัพอากาศปัจจุบันนี้) จึงเรียกว่า “ดอนเมือง” วัดนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “วัดดอนเมือง” มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ และถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ช่วงสมัยรัชกาลที่ ๖ ที่ดินของวัดนี้เป็นที่ของเศรษฐีคนหนึ่ง ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็น หมื่นอาจหาญ ในสมัยนั้น ประชาชนเรียกกันว่า “เสมียนภู่” เป็นผู้ที่มีที่ดินมากในคราวนั้น ได้ยกที่ดินแปลงนี้ให้เป็นที่สร้างวัด
 
                ในราวปี พ.ศ.๒๔๓๘ วัดดอนเมืองได้เริ่มสร้างขึ้นโดยพระอาจารย์จ๊ะ ท่านเป็นชาวรามัญ และเป็นพระที่เดินทางมาด้วยเรือมาจอดพักอาศัยในคลองเปรมประชากร ในสมัยนั้นชาวบ้านมีไม่มากนักเมื่อเห็นพระมาจอดเรือพักอยู่ ต่างก็นำอาหารมาถวาย ต่อมาเมื่อมีจิตศรัทธาเลื่อมใส ก็ได้ช่วยกันปลูกสร้างกุฏิให้เป็นที่อยู่ โดยใช้ไม้ไผ่ทำเป็นโครงสร้าง พื้นใช้ไม้ไผ่สับเป็นฟากหลังคาและฝามุงด้วยปรือ ถวาย ๑ หลัง ต่อมาก็ได้ช่วยกันปลูกศาลาทำบุญขึ้นอีก ๑ หลัง ยกพื้นสูงเป็นอาสนสงฆ์ สำหรับพระนั่ง ส่วนชาวบ้านที่มาทำบุญคงนั่งกับพื้นเหมือนกับการทำบุญกับพระธุดงค์กลางทุ่งนา หลังคาก็มุงด้วยปรือเช่นเดียวกัน
 
                เพราะว่าในสมัยนั้นทุ่งนาเต็มไปด้วยป่าปรือและป่าแขมต้นอ้อสูงท่วมศีรษะ ทำให้มีช้างมากมายเข้ามาอาละวาด และเหยียบผู้หญิงตายไป ๑ คน สาเหตุเนื่องจากหญิงคนนั้นปากไม่ดี ด่าช้างต่างๆ นานา เมื่อช้างมากินต้นข้าวเล็กๆ น้อยๆ ของตน ช้างจึงมาเหยียบเสียตายในโอกาสต่อมา นอกจากนั้นยังลุกลามไปพังกุฏิพระเข้าอีก ๑ หลัง เป็นเหตุให้พระต้องหนีทำให้วัดร้างไปชั่วระยะหนึ่ง 
  
                ถาวรวัตถุและสิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่ พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธสิหิงค์หน้าตักกว้าง ๖๙ นิ้ว พุทธลักษณะงดงาม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเป็นประธานเททองหล่อ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๖  ในการเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์พระประธานในพระอุโบสถวัดดอนเมืองนี้ พล.อ.อ.วรนาถ อภิจารี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(สมัยนั้น)เป็นผู้ริเริ่ม และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาทรงเป็นประธานเททอง ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์
 
                พระเจดีย์ ลักษณะระฆังคว่ำแปดเหลี่ยม สูง ๒๙ เมตร ซึ่งพระเจดีย์องค์นี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑  เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สมเด็จพระสังฆราชได้ประทานให้เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๒ และพระวิหารหลวงปู่พร ลักษณะแบบทรงไทย ขนาดกว้าง ๗ เมตร ยาว  ๑๐ เมตร หลังคามุงกระเบื้องเคลือบกาบกล้วย ก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ ภายในประดิษฐานพระพุทธชินราช และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ และยังมีรูปจิตรกรรมฝาผนังซึ่งแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธประวัติที่สวยงาม
 
                วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของวัดดอนเมือง คือ เหรียญหลวงพ่อพร พุทธสโร และที่นิยมแพร่หลายมากที่สุดก็คือ “เหรียญปั๊มรูปเหมือนรุ่นแรก” ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นรุ่นเดียวที่สร้างขึ้นเพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคปัจจัยสร้างโบสถ์ เมื่อประมาณปี ๒๔๖๐-๒๔๖๕ เป็นเหรียญหลักของย่านหลักสี่-ดอนเมือง ที่คนท้องถิ่นหวงแหนยิ่งนัก เพราะสร้างจำนวนน้อย แถมมีประสบการณ์ดีทั้งด้านแคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย โชคลาภเป็นเยี่ยม
 
                ส่วนการจัดสร้างวัตถุมงคลในยุคปัจจุบันนั้น พระราชวิสุทธิมงคล หรือหลวงพ่อแคล้ว สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดดอนเมือง พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ และ ที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตดอนเมือง ท่านจัดสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๕ จนถึงปัจจุบัน ทุกๆ วันประชาชนทั่วไปมักเดินทางมากราบไหว้ขอพรจากท่านกันมากมายเพราะชื่อท่านเป็นมงคลว่า "แคล้ว" เมื่อมากราบไหว้แล้วก็มักจะแคล้วคลาดปลอดภัยตามชื่อของท่าน
 
                คณะกรรมการ โดย ร.อ.ปรีชา อ่อนละม้าย ได้ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อแคล้ว รุ่นปลอดภัย โดยมีพระครูวิสุทธิกิจจาภรณ์ เป็นที่ปรึกษา เพื่อนำรายได้บูรณะหน้าบันและหลังคาพระอุโบสถซึ่งทรุดโทรมมาก รวมทั้งนำรายได้ส่งเสริมการศึกษาพระภิกษุ สามเณร ทั้งแผนธรรม-บาลี และมอบเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนเรียนดีแต่ยากจนในเขตดอนเมือง ทั้งนี้ ได้จัดพิธีเททองหล่อพระกริ่ง และรูปเหมือนเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๕ โดยได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕
 
                วันนี้สนามบินดอนเมืองได้กลับมาเปิดใช้อย่างเป็นทางการและเต็มรูปแบบอีกครั้ง สำหรับผู้ที่จะเดินทางไกล หากมีเวลาแวะขอพร "หลวงพ่อแคล้ว" เมื่อมากราบไหว้แล้วก็มักจะแคล้วคลาดปลอดภัยตามชื่อของท่าน โดยกุฏิของท่านเปิดต้อนรับญาติโยมอยู่ตลอดเวลา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วัดดอนเมือง โทร.๐๘-๙๑๖๕-๗๒๘๒ และ ๐๘-๐๒๕๘-๖๔๘๐                     

พระนักเผยแผ่แห่งดอนเมือง

                แม้วัยจะล่วงเลยมาถึง อายุ ๘๕ ปี พรรษาที่ ๖๔ แต่หลวงพ่อแคล้วไม่เคยละทิ้งงานเผยแผ่เลย ท่านทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยทำมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๔ เมื่อครั้งยังเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดดอนเมือง ได้แก่
 
                ๑.มีการทำบุญ แสดงธรรมในวันสำคัญต่างๆ ทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันมาฆบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา เป็นต้น และยังทำบุญในวันสำคัญต่างๆ อีกเช่น วันแม่แห่งชาติ วันพ่อแห่งชาติ วันลอยกระทง และวันสงกรานต์ เป็นต้น ๒.แสดงพระธรรมเทศนาในวันธรรมสวนะตลอดพรรษา ๓ เดือน มีประชาชนร่วมทำบุญ และรับฟังพระธรรมเทศนา จำนวน ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ คน ๓.แสดงพระธรรมเทศนา อบรมศีลธรรมแก่ทหารอากาศ ตามหน่วยงานราชการต่างๆ ในกองทัพอากาศ
 
                ๔.แสดงพระธรรมเทศนาอบรมศีลธรรมแก่นักเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตามโรงเรียนต่างๆ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เช่น โรงเรียนวัดดอนเมือง (ทหารอากาศอุทิศ) โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง โรงเรียนสีกัน(วัฒนานันท์อุปถัมภ์) และโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เป็นต้น
 
                ๕.แสดงพระธรรมเทศนา อบรมคนไข้ติดยาเสพติด  ในสถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี ๖.แสดงพระธรรมเทศนาแก่ลูกเสือชาวบ้านตามค่ายลูกเสือชาวบ้าน กรุงเทพมหานคร ๗.จัดให้มีการอบรมส่งเสริมความรู้ แก่พระนวกะในคณะเขตดอนเมืองเป็นประจำทุกๆ ปี ๘.แสดงพระธรรมเทศนา อบรมศีลธรรมแก่ผู้ต้องขัง ในเรือนจำกองทัพอากาศ เรือนจำกลางคลองเปรมลาดยาว ทัณฑสถานวัยหนุ่มบางเขน ๙.แสดงพระธรรมเทศนาแก่อุบาสก อุบาสิกา ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ปีละ ๓-๔ ครั้ง และ ๑๐.เทศน์มหาชาติ “กัณฑ์ทศพร” ที่พุทธมณฑลเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ ถึงปัจจุบัน โดยในปี ๒๕๕๕ นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ ตุลาคม