พระเครื่อง

ร่วมบุญสร้างศาลาวัดน้อยแสงจันทร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ร่วมบุญสร้างศาลาวัดน้อยแสงจันทร์

              วัดน้อยแสงจันทร์ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ ๕ (พ.ศ.๒๔๔๔) ในครั้งนั้นได้มีคหบดี ๔ ราย บริจาคที่ให้สร้างวัด คือ นายน้อย นางแสง นายจันทร์ และนายเหม็น วัดนี้จึงได้รับการตั้งชื่อตามผู้บริจาคที่ดิน เพียงแต่รายที่ ๔ ซึ่งมีนามว่านายเหม็นนั้นเจ้าตัวเห็นว่าชื่ออาจจะไม่เป็นมงคลนัก จึงให้ใช้ชื่อเพียง ๓ รายว่า “น้อยแสงจันทร์” เป็นชื่อวัด
 
              ในอดีตนั้นพระครูสุธรรมธาดา หรือ หลวงพ่อรักษ์ ฐิตธรรมโม อดีตเจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์  จัดเป็นเกจิขลังอาจารย์ดังผู้มี “ดี” อย่างแท้จริง ท่านจะปลุกเสกวัตถุมงคลทุกรุ่นด้วยตัวท่านเองเพียงลำพัง ไม่มีการจัดพิธีพุทธาภิเษกแต่อย่างใด แม้ท่านจะจากไปในปี ๒๕๓๘ ด้วยวัย ๘๖ ปี แต่ลูกศิษย์ลูกหาของท่านยังเหนียวแน่น ในจำนวนวัตถุมงคลของท่านหลายรุ่นหลายแบบทั้งเนื้อผง รูปหล่อ และเหรียญ หลายรุ่นหลายวาระ ตั้งแต่เหรียญรุ่นแรก ปี ๒๕๐๖ ด้านหลังเป็นพระพุทธชินราชเนื้ออัลปาก้า อันเป็นที่นิยมและแสวงหาด้วยสูงประสบการณ์อย่างครบถ้วนทั้งแคล้วคลาดคงกระพัน
 
              หลวงพ่อรักษ์เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อช้างที่วัดเขียนเขต และเรียนกรรมฐานเพิ่มเติมจากท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ (เจิม คุณาบุตร) ที่วัดเกตมวดีศรีวราราม ต.บางโทรัด อ.สมุทรสาครเมื่อท่านกลับมาอยู่ที่วัดน้อยแสงจันทร์เพื่อโปรดโยมมารดาที่ชราภาพ ในขณะนั้นหลวงพ่อพูนเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เมื่อหลวงพ่อพูนมรณภาพท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสต่อ เพราะท่านมีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยอายุพรรษากาล เป็นพระนักพัฒนาและมีความรู้ทางด้านเวทวิทยาอาคม อีกทั้งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพร้อมด้วยศีลจริยาวัตร ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาควรแก่การกราบไหว้เป็นอย่างยิ่งวัดน้อยแสงจันทร์ ปัจจุบันที่วัดยังมีวัตถุมงคลรุ่นเก่าที่หลวงพ่อได้ปลุกเสกตกค้างอยู่ควร
 
              อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนของวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เวลาประมาณ ๔.๓๐ น ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ศาลาการเปรียญวัดน้อยแสงจันทร์ ทำให้ได้รับความเสียหายหมดทั้งหลัง เป็นศาลาที่มีอายุยาวนานนับร้อยปี รถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม และเทศบาลใกล้เคียง ระดมรถน้ำเกือบ ๑๐ คัน เข้าฉีดน้ำดับไฟไม่ให้ลุกลามไปยังกุฏิสงฆ์ที่อยู่ใกล้กัน โดยใช้เวลานานกว่า ๑ ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการสำรวจความเสียหายในเช้าวันรุ่งขึ้นปรากฏว่าศาลาเสียหายทั้งหลัง
 
              ทั้งนี้ เพื่อให้การก่อสร้างศาลาแล้วเสร็จ นายอรรถภูมิ บุณยเกียรติ ผู้อำนวยการ สถาบันโบราณศิลป์ ได้มีจิตศรัทธารับเป็นเจ้าภาพกฐินในปีนี้ เพื่อนำปัจจัยไปสมทบทุนสร้างศาลาหลังใหม่ซึ่งต้องใช้งบประมาณกว่า ๒๐ ล้านบาท พุทธศาสนิกชนรวมบุญตั้งองค์กฐินได้ที่ สถาบันโบราณศิลป์ โทร.๐-๒๘๗๙-๕๗๘๘ , ๐๘-๔๐๙-๗๕๐๒ และ ๐๘-๖๓๐๗-๕๖๑๖

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ