หลวงพ่อทรงโปรดพระพุทธรูปลอยน้ำ

             วัดใหม่ผดุงเขต หรือบางครั้งชาวบ้านมักเรียกว่า วัดใหม่บน วัดใหม่ตาเข้ม วัดใหม่ขุนผดุง ตั้งอยู่เลขที่ ๓๖ หมู่ ๓ ถนนผดุงสวัสดิ์ ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ปัจจุบันมี พระครูนิมิตกิจโสภณ หรือหลวงพ่อเก๊า เป็นเจ้าอาวาส และมีพระมหาพรนราย สุวณฺณรํสี หรือพระมหาตุ้ย พระนักเทศน์ชื่อดังของ จ.นนทบุรี รูปหนึ่ง เป็นรองเจ้าอาวาส
   
              พื้นที่ของวัดใหม่ผดุงเขตแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ บริเวณวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาสนสถานต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งคือที่ตั้งของโรงเรียนวัดใหม่ผดุงเขต ซึ่งในปัจจุบันมีนักเรียนอยู่ ๕๐๐ คน  ซึ่งวัดกับโรงเรียนมีความสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในสมัยก่อนเป็นโรงเรียนประชาบาล เปิดรับลูกหลานของชาวบ้านในเขตบางกรวยและใกล้เคียง ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนวัดใหม่ผดุงเขตได้ทำการขยายโอกาส เปิดสอนถึงชั้น ม.๓ เป็นโรงเรียนดีใกล้บ้านของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นได้รับรางวัลทั้งในด้านกิจกรรมและด้านวิชาการ หรือแม้กระทั่งในด้านคุณธรรมจริยธรรม ก็ได้รับรางวัลมากมาย
 
              พระมหาตุ้ย เล่าให้ฟังว่า แรกเริ่มกำนันตำบลศาลากลาง สมัยนั้นชื่อ ขุนผดุงเขต ได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัด แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ โดยมีพระสงวน ถาโม เป็นผู้ดูแล แต่ด้วยความศรัทธาของสาธุชน และความมุ่งมั่นอุตสาหะของท่านพระสงวน ถาโม จึงได้ตั้งวัดขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๐ และกระทรวงศึกษาธิการยกให้เป็นวัดเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๐  
 
              ในครั้งนั้น กำนันเข้ม ด้สร้างสำนักจึงได้อาราธนาพระครูนนทกิจโกศล หรือหลวงพ่อสงวน ถาโม จากวัดตะคียน นนทบุรี มาปกครองดูแล พ.ศ.๒๔๗๗ เหตุที่ท่านกำนันเข้มนิมนต์ท่านนั้น ก็ด้วยจริยาวัตรที่งดงามมีสมณสารูปที่เรียบร้อย และที่สำคัญท่านยังเป็นผู้ทรงวิทยาคุณในหลายๆ ด้าน ทั่งเวทย์มนต์คาถา เรื่องยาแผนโบราณ จึงทำให้มีผู้คนมาอาศัยบารมีจากท่านอย่างไม่ขาดสาย และในเรื่องอภินิหารประสบการณ์ต่างๆ จากวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้าง โดยเฉพาะพระผงสมเด็จรุ่นแรก และเหรียญรูปเหมือนปี๑๕ ซึ่งเป็นที่แสวงหาของลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างมาก เพราะมีประสบการณ์มากในเรื่องของคงกระพันและแคล้วคลาด
 
              ช่วงแรกๆ คนทั่วไปมักจะเรียกชื่อวัดตามผู้สร้าง คือ วัดใหม่ตาเข้มบ้าง วัดขุนผดุงบ้าง  จนในที่สุดได้ตั้งชื่อวัดอย่างเป็นทางการ คือ วัดใหม่ผดุงเขต และตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  วัดแห่งนี้เป็นที่รวมจิตใจของชาวบ้านไว้เป็นจำนวนมาก โดยที่วัดมีพระศักดิ์สิทธิ์ คือ “หลวงพ่อทรงโปรด” ซึ่งจะจัดงานนมัสการปิดทองเป็นประจำในกลางเดือนสามของทุกๆ ปี 
   
              ทั้งนี้ พระมหาตุ้ยได้เล่าถึงประวัติของหลวงพ่อทรงโปรดว่า จากการบอกเล่าของคนรุ่นเก่า หลวงพ่อทรงโปรดเป็นพระพุทธรูปที่ลอยน้ำมา ได้ลอยมาอยู่ที่โคนต้นไทรริมน้ำ บริเวณหลังอุโบสถ ซึ่งชาวบ้านและลูกศิษย์วัด ต่างช่วยกันนำขึ้นมาจากน้ำแต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดไม่ใหญ่ ซึ่งคนเพียงแค่สามสี่คนก็สามารถยกได้ ชาวบ้านจึงได้นำเรื่องไปเรียนกับหลวงพ่อสงวน โดยได้เดินทางมาอัญเชิญด้วยตนเอง
 
              ขณะที่หลวงพ่อสงวนกำลังจุดเทียนธูปที่จะอาราธนาพระพุทธรูปขึ้นนั้น สภาพอากาศที่กำลังร้อนจ้าซึ่งเป็นหน้าแล้ง กลับมาเมฆครึ้มและฝนตกนำความชุ่มฉ่ำมาสู่คณะสงฆ์และชาวบ้านในบริเวณนั้น ชาวบ้านซึ่งกำลังลำบากด้วยน้ำที่แห้งผากกลับมีฝนตกในฤดูร้อน จึงได้กล่าวขานไปต่างๆ ว่า “เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะหลวงพ่อที่ลอยน้ำมาท่านมาโปรดชาวบ้าน จึงได้อัญเชิญขึ้นจากน้ำโดยง่ายดายและขนานนามว่าหลวงพ่อทรงโปรดตั้งแต่นั้นมา”
  
              “ผู้ที่จะมาขอพึ่งบารมีหลวงพ่อในการบนบานต่างๆ มักจะไม่ผิดหวัง จะมีของมาแก้บนอยู่ในวิหารเกือบทุกๆ วัน โดยเฉพาะดอกไม้เจ็ดสี กับไข่ต้ม ซึ่งชาวบ้านบอกว่าถ้าบนบานด้วยสิ่งนี้แล้วมักจะสมหวังทุกครั้งไป” พระมหาตุ้ยกล่าว

งานบุญฝังลูกนิมิต
 
              หลวงพ่อเก๊าเป็นศิษย์คนสำคัญของหลวงพ่อสงวน ท่านได้สืบสานสรรพวิชาจากหลวงพ่อสงวนมาทั้งหมดเลยทีเดียว ท่านจึงเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีงานออกปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่ตลอด แต่ด้วยความสันโดษและทรงสมณสารูปที่เรียบร้อย ท่านจึงไม่ค่อยได้สร้างวัตถุมงคลใดๆ จะมีก็เสียแต่มีชาวบ้านและลูกศิษย์นำแผ่นทองแดงบ้างตะกั่วบ้างผ้าบ้างมาให้หลวงพ่อท่านจารอักขระแล้วนำไปบูชากัน ซึ่งก็เป็นที่อัศจรรย์เกิดปาฏิหาริย์เป็นจำนวนมาก
 
              นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ได้ปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างและเสนาสนะในวัดตลอดมาจนเป็นวัดนำร่องในย่านนี้ ไม่ว่าวิหาร มณฑปเก็บพระไตรปิฎก เมรุเผาศพ ให้มีสภาพดีใช้งานได้ หากแต่อุโบสถหลังเก่าตั้งอยู่ในที่ลุ่มต่ำมากน้ำท่วมทุกปีทำให้ทรุดโทรมมาก ได้ใช้ในการปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์มาเป็นเวลา ๖๗ ปี ปัจจุบันเกิดความชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก เนื่องจากประสบภาวะน้ำท่วมมาโดยตลอด ครั้งล่าสุดน้ำท่วมถึงฐานองค์พระประธาน ทางวัดและคณะกรรมการได้บูรณะครั้งใหญ่ถึง ๒ วาระด้วยกัน คณะกรรมการวัดพร้อมคณะสงฆ์ จึงมีมติให้ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น และเมื่อวันเสาร์ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๔๙ จึงได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เริ่มการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ โดยมีพระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานวางศิลาฤกษ์ ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ
 
              อย่างไรก็ตาม เดิมทีวัดได้กำหนดงานทองฝังลูกนิมิตระหว่างวันที่ ๑๗-๒๕ มกราคม ๒๕๕๕  แต่วัดถูกน้ำท่วมอย่างหนัก โดยในช่วงที่ถูกน้ำท่วมนั้นทางวัดได้เปิดเป็นศูนย์อพยพ โดยวัดได้เลื่อนงานกำหนดงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิตของวัด เป็นระหว่างวันที่ ๑๗-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๕

              ทางเข้าวัดที่๑ เส้นสุพรรณ-บางบัวทอง (ซอยทางเข้าวัดศรีประวัติ, ซอยทางเข้าวัดส้มเกลี้ยง, ซอยกันตนา) ทางเข้าวัดที่ ๒ ถนนสายพุทธมณฑล ปิ่นเกล้า-นครปฐม (ตรงแยกพุทธมณฑลสาย ๓, และแยกศาลายา) ทางเข้าวัดที่ ๓ ถนนสาย ศาลายา-บางภาษี หรือ สอบถามเส้นทางไปวัดได้ที่วัดใหม่ผดุงเขต โทร.๐๘-๙๔๘๙-๒๘๖๗ และ ๐๘-๕๓๕๓-๓๖๓๙