Lifestyle

ตาบอด เพราะต้อกระจก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดิฉันเข้ารับการรักษา "ต้อกระจก" ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อ 3 ปีก่อน โดยใช้สิทธิ์บัตรทอง หลังผ่าตัดแล้ว แค่ข้ามคืน ดิฉันมีอาการมองไม่เห็น เป็นฝ้าๆ แต่หมอให้กลับบ้าน และนัดตรวจอีกครั้ง

หลังนัดตรวจ แพทย์แจ้งว่า ต้องผ่าตัดอีกครั้ง ก่อนผ่าตัดดิฉันสอบถามแพทย์ก่อนแล้วว่าจะมองเห็นหรือไม่ แพทย์ที่รักษาบอกว่า จะมองเห็นหรือไม่นั้น ต้องลองผ่าตัดดู
 แพทย์ที่ทำการรักษาดิฉัน ทำเหมือนดิฉันเป็นหนูลองยา เพราะใช้สิทธิ์บัตรทอง เลยไม่ให้ความสำคัญ และมีคำพูดว่า "หมอทำเต็มที่แล้ว และที่ทำให้ หมอก็ไม่ได้อะไร ถ้าผ่าตัดกันจริงๆ ค่ารักษาเป็นแสน"
 หลังผ่าตัด ตาดิฉันก็บอดสนิท มองไม่เห็นอีกเลย จากที่พิการตามองไม่เห็นตั้งแต่เกิดอยู่ข้างหนึ่งแล้ว กลายเป็นว่าบอดสนิททั้งสองข้าง หลังจากนั้นก็หยุดการรักษาไปเลย โรงพยาบาลและแพทย์ ก็ไม่รับผิดชอบใดๆ
 ปัจจุบันดิฉันอายุ 49 ปี ไม่มีญาติพี่น้อง พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีงานทำ เดิมทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่กรุงเทพฯ ตอนนี้มีเพียงเพื่อนบ้านที่ยังพอให้ความช่วยเหลือบ้าง และมีเพียงเงินเบี้ยยังชีพผู้พิการจากเทศบาลหนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี ประทังชีวิตไปในแต่ละเดือน
 ตอนนี้ดิฉันลำบากมาก ขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ
เล็ก / สระบุรี
ตอบ
 โรงพยาบาลศิริราช ชี้แจงว่า ผู้ป่วยมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดของตาทั้งสองข้าง เรียกว่า "Peters Anomaly" โดยเป็นความผิดปกติในช่องหน้าของลูกตา ซึ่งตาซ้ายมีความผิดปกติมาก จนสายตาบอดสนิท ส่วนตาขวามีต้อกระจก เลนส์ตาขุ่น ร่วมกับเลนส์ตาเคลื่อน ความสามารถในการมองเห็นของตาขวาเพียงแค่นับนิ้วในระยะไม่เกิน 1 ฟุต ซึ่งถือว่าเป็นสายตาพิการทางกฎหมาย (Legal blindness)
 ภาวะต้อกระจกที่ตาขวานั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้การมองเห็นของผู้ป่วยจะมัวขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ดังนั้นผู้ป่วยจึงมาพบจักษุแพทย์และได้ปรึกษากับจักษุแพทย์มาเป็นระยะเวลาหลายปี เพื่อตัดสินใจร่วมกันว่าจะผ่าตัดหรือไม่ แพทย์ได้แนะนำแล้วว่า จากการที่ผู้ป่วยมีลูกตาที่ผิดปกติ การผ่าตัดจะมีอัตราเสี่ยงมากกว่าคนไข้ทั่วไป อาจเกิดผลข้างเคียง และการมองเห็นหลังผ่าตัดอาจได้ผลไม่ดี ผู้ป่วยได้ใช้ระยะเวลาหลายปีในการคิดทบทวนและตัดสินใจผ่าตัด
 จักษุแพทย์ให้คำแนะนำซ้ำอีกครั้งกับผู้ป่วย ถึงผลที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยต้องยอมรับความเสี่ยงและความผิดปกติของลูกตาที่เป็นอยู่ ในขณะผ่าตัดต้อกระจก เพื่อนำเลนส์แก้วตาออก ได้พบความผิดปกติของจอประสาทตา และมีจอประสาทตาลอกร่วมด้วย จึงได้ปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตา ถึงภาวะจอประสาทตาเสื่อม และจอประสาทตาลอกที่ตาข้างขวาของผู้ป่วย ได้มีการอธิบายถึงภาวะของโรค และความจำเป็นในการผ่าตัดเพื่อแก้ไขจอประสาทตาลอก
 ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดอีกครั้งเรื่องจอประสาทลอก และต้องฉีดสาร silicone oil เข้าไปในลูกตา เพื่อกดจอประสาทตาที่ลอกให้ราบลง หลังการผ่าตัดผู้ป่วยมีสายตาการมองเห็นดีขึ้นบ้าง โดยปกติสาร silicone oil ที่อยู่ในลูกตา ถ้าทิ้งไว้นาน สาร silicone oil จะเหลวลง อาจเกิดต้อหินหรือกระจกตาขุ่นได้ ทำให้ผู้ป่วยตามัวลงได้จึงมักจะผ่าตัดเอา silicone oil ออกจากลูกตาหลังการผ่าตัดประมาณ 6 เดือน เพื่อลดปัญหาเรื่องต้อหินและกระจกตาเสื่อม
 จักษุแพทย์อธิบายเหตุผลความจำเป็นและอัตราเสี่ยงให้ผู้ป่วยทราบแล้ว ผู้ป่วยตัดสินใจรับการผ่าตัดอีก แต่หลังจากนำ silicone oil ออก ผู้ป่วยเกิดมีจอประสาทตาลอกซ้ำ ทำให้การมองเห็นแย่ลงกว่าเดิม หลังจากนั้นได้ติดตามรักษาและแนะนำผู้ป่วยถึงการใช้ชีวิตประจำวัน โดยการเข้าฝึกในคลินิกสายตาเลือนราง และประสานการส่งต่อเพื่อดูแลต่อเนื่องที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลหนองโดน
ลุงแจ่ม

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ