Lifestyle

คมเลนส์ส่องพระประจำวันอาทิตย์21มี.ค.2553

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

*** ติดต่อกันมาถึงสัปดาห์ที่ ๒ แล้ว ที่การชุมนุมของ คนเสื้อแดง ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งเสียที จนเป็นที่เดือดร้อนรำคาญของชาวบ้านทั่วทุกมุมเมือง โดยเฉพาะคนในกรุงเทพฯ ที่มีแต่เสียงสาปแช่งตลอดเวลา แม้ว่าหนทางที่ คนเสื้อแดง จะเอาชนะนั้นริบรี่ลงเต็มทีก็ตาม รว

ก็ออกไปเพ่นพ่านกับเขาด้วย จดจำเอาไว้ คนห่มเหลือง พวกนี้อาศัยอยู่วัดไหน เมืองไหน จะได้ไม่ต้องไปทำบุญวัดนั้น...ต้องยอมรับว่า ชั่วโมงนี้คนที่ติดตามข่าวสารทุกวัน ส่วนใหญ่จะพากัน เครียด ไปตามๆ กัน เพราะคนเพียงคนเดียวที่สร้างปัญหาให้ประเทศชาติ...เนรคุณแท้ๆ

** ความเงียบเหงา ยังปรากฏอยู่ตามสนามพระทุกแห่ง เพราะคนไม่กล้าออกจากบ้าน ข่าวสารวงการพระที่นำมาเสนอนี้ ก็เป็นเรื่องของสัปดาห์ก่อนโน้น แต่ก็ยังทันเหตุการณ์อยู่เสมอ วันนี้ขอเริ่มกันที่ พระชัยวัฒน์ หรือ พระชัย ที่สร้างคู่กันมากับ พระกริ่ง โดยมีคติความเชื่อที่ว่า พระกริ่ง เป็นรูปเคารพของ พระไภษัชคุรุพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในลัทธิมหายาน (พระหมอ) ที่ทรงถือเครื่องบำบัดโรคาพยาธิ  บาตรน้ำมนต์ หรือผลสมอ สำหรับไว้บูชาเพื่อแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมทั้งขจัดเรื่องอัปมงคลทั้งหลาย พระกริ่ง จึงเป็นพระเครื่องสำหรับการอาราธนาทำน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อดื่มกินแก้โรคภัยไข้เจ็บ ป้องกันสิ่งอัปมงคลโดยเฉพาะ ไม่นิยมใช้บูชาติดตัว ส่วน พระชัยวัฒน์ เป็นพระเครื่องขนาดเล็ก สำหรับบูชาติดตัว ในการเดินทางไปไหนมาไหน ให้เกิดความปลอดภัย และเป็นสิริมงคลตลอดเวลา

** พระชัยวัฒน์ ในวงการพระที่นิยมกันสุดๆ หายากสุดๆ และแพงสุดๆ อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์  ผู้ชำนาญพระกริ่งพระชัยวัฒน์ บอกว่า มี ๕ องค์ คือ ๑.พระชัยวัฒน์มงคลวราภรณ์ ที่ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างขึ้น เพื่อพระราชทานแก่พระราชโอรส พระราชธิดา โดยสร้างครั้งแรกที่วัดพระแก้ว และครั้งที่ ๒ ที่พระราชวังบางปะอิน โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นประธาน ๒.พระชัยวัฒน์นิรันตราย วัดบวรนิเวศวิหาร สมัยรัชกาลที่ ๔ สร้างโดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ๓.พระชัยวัฒน์ห่มคลุม วัดบวรนิเวศวิหาร คาดว่าสร้างหลังจาก พระกริ่งปวเรศ ไม่นานนัก ตามพระประวัติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ผู้ทรงสร้าง พระกริ่งปวเรศ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๔๓๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ฉะนั้น พระชัยวัฒน์ห่มคลุม จึงน่าจะสร้างหลังจากนั้นไม่นานนัก นับถึงวันนี้มีอายุประมาณ ๑๐๐ ปี นับว่ามีความเก่าพอสมควร

เนื่องจากมีจำนวนสร้างน้อย จึงพบเห็นได้ยาก ราคาเช่าหาย่อมสูงถึงหลักแสนขึ้นไป (ห่มคลุม หมายถึงการห่มจีวรแบบคลุม ซึ่งเป็นลักษณะการห่มจีวรของพระสงฆ์สายธรรมยุต ส่วนสายมหานิกายใช้วิธีแบบห่มดอง) ๔.พระชัยวัฒน์สิงหเสนี เป็นพระชัยวัฒน์ที่ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ผู้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสามปลื้ม เป็นผู้ขออนุญาต ท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม จัดสร้างขึ้น ในช่วงเวลาเดียวกับที่ท่านเจ้ามาได้จัดสร้างพระชัยวัฒน์ พิมพ์ต่างๆ ขึ้น ประมาณปี ๒๔๔๒ นับถึงวันนี้มีอายุกว่า ๑๐๐ ปี นับเป็นพระชัยวัฒน์ที่พบเห็นได้ยาก เข้าใจว่ามีจำนวนสร้างน้อย และ ๕.พระชัยวัฒน์เขมรน้อย สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ ทรงสร้างขึ้นในช่วงที่ครองสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี (ประมาณ พ.ศ.๒๔๕๖-๒๔๕๘) จำนวนประมาณ ๕๐ องค์

** พระชัยวัฒน์ ที่ได้รับภาพมาให้ชมเป็นวิทยาทานในวันนี้ คือ พระชัยวัฒน์ห่มคลุม และ พระชัยวัฒน์สิงหเสนี ทั้ง ๒ องค์นี้เป็นพระของ อ.เกี๊ยก ทวีทรัพย์ ได้ฝากย้ำมาว่าเป็น พระโชว์ ไม่ได้เปิดราคาไว้แต่ประการใด ** นอกจากนี้ วันนี้ยังมี พระชัยหุ้มก้น สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนฯ ปางสมาธิ มาให้ชมกันอีกองค์หนึ่ง เป็นพระของ อู๊ด สุพรรณ เช่ามาเป็นเงินล้าน ** พระชัยหุ้มก้น องค์นี้ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงสร้างขึ้นในช่วงที่ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี (ปี ๒๔๕๘-๒๔๖๐) เนื้อนวโลหะ โดยใช้ชนวนที่ได้จากการหล่อ พระพุทธชินราช วัดเบญจมบพิตร ตรงใต้ฐานได้เจาะรูเพื่อบรรจุผงพุทธคุณสีดำ (ที่เรียกว่า "ผงดำ") จากนั้นช่างได้ใช้แผ่นทองแดงบางๆ หุ้มใต้ฐาน เพื่อมิให้ผงพุทธคุณหลุดออกมาได้ จากนั้นจึงได้ลงเหล็กจารบนแผ่นทองแดงนั้น ด้วยตัวอักขระขอม อันเป็นพระนามคุณในแต่ละองค์ซึ่งไม่ซ้ำกัน พร้อมกับตอกหมายเลขกำกับเอาไว้ด้วย (องค์นี้หมายเลข ๑๔) เป็นพระองค์เดียวกับที่มีภาพอยู่ในหนังสือ มรดกล้ำค่า ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ของ บุญเหลือ ออประเสริฐ สำหรับ พระชัยหุ้มก้น สมเด็จฯ (แพ) มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์สมาธิ สร้างจำนวน ๓๐๐ องค์ กับ พิมพ์มารวิชัย สร้างประมาณ ๕๐ องค์ (พิมพ์มารวิชัยราคาแพงกว่า เพราะสร้างน้อยกว่า) แต่ละพิมพ์เช่าหากันทีหลักแสนปลายๆ ขึ้นไปถึงหลักล้าน [ในบางตำรากล่าวว่า พระชัยวัฒน์หุ้มก้น เป็นการขออนุญาตจัดสร้างโดย พระยาศุภกรบรรณสาร (นุ่ม วสุธาร) ข้าราชการผู้ใหญ่ในสมัย รัชกาลที่ ๖ ผู้เป็นศิษย์ใกล้ชิดใน สมเด็จพระสังฆราช (แพ)] ** ต่อไปเป็นเรื่องของ พระสมเด็จ ก่อนหน้าปี ๒๕๐๐ เจดีย์ใหญ่องค์ใน วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม มีผู้ไปลักขุดหา พระสมเด็จ ที่บรรจุไว้ภายใน ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ได้ปลุกเสกให้ไว้เมื่อปี ๒๔๑๓ แม้ทางวัดจะให้พระเณรไปเฝ้าดู คนร้ายก็ยังแอบขุดเจาะองค์เจดีย์อยู่เสมอ จนไม่สามารถจะปล่อยไว้ได้ ทางวัดจึงได้ทำพิธีเปิดกรุ เอาพระสมเด็จทั้งหมดที่มีอยู่ในเจดีย์ออกมาให้ชาวบ้านทำบุญ เอาเงินบูรณะวัดต่อไป

** พระสมเด็จ ที่มีการแอบขุดก่อนหน้านี้ เรียกว่า พระกรุเก่า ส่วนพระสมเด็จที่ทางวัดเปิดกรุอย่างเป็นทางการในปี ๒๕๐๐ เรียกว่า พระกรุใหม่ ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นพระที่สร้างในคราวเดียวกัน ** พระสมเด็จ กรุใหม่ ส่วนมากชำรุดเสียหายไปมาก ที่เหลือสมบูรณ์จริงๆ มีน้อย ทางวัดได้คัดพระตามสภาพต่างๆ แล้วแยกออกใส่ซองให้ทำบุญ ในราคาที่แตกต่างกัน องค์สมบูรณ์ก็ราคาสูงหน่อย แล้วลดหลั่นลงตามลำดับ ที่ได้ใส่ซองไว้ก็เพื่อไม่ให้มีการเลือก พระส่วนหนึ่งได้ประทับตรายางเป็นตัวหนังสือชื่อวัด บางองค์ก็ไม่มี

** พระสมเด็จ กรุใหม่ บางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร เป็นอีกพิมพ์หนึ่ง ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะที่ วัดใหม่อมตรส เท่านั้น ทางฝั่งวัดระฆัง ไม่มีพระพิมพ์นี้ ที่เรียกว่า พิมพ์อกครุฑ เศียรบาตร มาจากพิมพ์ทรงองค์พระที่พบเห็น คือ พระพิมพ์นี้เศียรจะใหญ่ รูปทรงคล้าย บาตรพระ ในขณะที่ อกนูนหนา ยื่นแอ่นไปข้างหน้าอย่างสง่าผ่าเผย เหมือนกับ อกครุฑ นั่นเอง ** พระสมเด็จ พิมพ์อกครุฑ เศียรบาตร กรุใหม่ หลังประทับตรายาง (ชื่อวัด) ที่เห็นในภาพนี้ เป็นพระที่สวยสมบูรณ์มาก ไม่มีรอยอุดซ่อม หรือชำรุดแต่ประการใด พระองค์นี้ ป๋อง สุพรรณ เพิ่งได้มาเมื่อต้น มี.ค.นี้เอง สนนราคาอยู่ที่หลักล้านต้นๆ  หากสนใจอยากดูองค์จริง ติดต่อไปได้ที่โทร.๐-๒๙๕๒-๕๙๙๗

** อ.สมเกียรติ โล่ห์เพชรัตน์ นักวิชาการ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธรูปในเมืองไทยหลายเล่ม ได้กล่าวถึงเรื่อง พระปางซุ้มเรือนแก้ว ว่า เป็นปางหนึ่งที่อยู่ในพระพิมพ์ตระกูล พระยอดขุนพล ความหมายของพระปางนี้ คือ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หรือปางมารวิชัย อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว มีแท่นและซุ้มเรือนแก้วอยู่ด้านหลัง หรือรอบพระกาย ตามพุทธตำนานกล่าวไว้ว่า หลังจากพระองค์เสร็จจากการเดินจงกรมแก้วแล้ว ทรงกลับมาประทับในซุ้มเรือนแก้ว ที่เทวดาเนรมิตถวาย ทรงพิจารณาธรรมอยู่ในเรือนแก้วถึง ๗ วัน แต่มีบางตำนานกล่าวว่า การสร้างพระพุทธรูปพร้อมกับซุ้มเรือนแก้ว หมายถึง เป็นการยกย่องพระองค์ให้เป็นถึงองค์จักรวาลทินกร ผู้ครอบครองอาณาเขตแห่งจักรวาล”...ในวงการพระเครื่อง พระยอดขุนพล ที่ได้รับการยกย่องว่า มีความสวยงามอลังการที่สุดคือ พระยอดขุนพล กรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างโดย เจ้าสามพระยา โดยล้อพิมพ์ พระยอดขุนพล เมืองลพบุรี ซึ่งถือว่าเป็นองค์ต้นแบบของตระกูล พระยอดขุนพล อีกเมืองหนึ่งที่มีการสร้าง พระยอดขุนพล คือ เมืองกำแพงเพชร

** พระยอดขุนพล กรุวัดราชบูรณะ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระเนื้อชินเงิน มีปรอทขาวเคลือบผิวพระตลอดทั้งองค์ เสริมสร้างความงดงามยิ่งขึ้น ขนาดองค์พระค่อนข้างเขื่อง คือ กว้างประมาณ ๓.๕ ซม. สูงประมาณ ๕ ซม. ราคาเช่าหาอยู่ที่หลักแสนขึ้นไป องค์ในภาพนี้เป็นพระของ ท่านสมเกียรติ ภู่ธงชัยฤทธิ์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ผู้สนใจสะสมพระเครื่อง ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ที่ จ.ชัยนาท จนถึงทุกวันนี้

** ดีใจด้วยกับ นพ.ภาณุเมศ ศรีสว่าง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (สวนดอก) ที่ได้ พระกริ่งไพรีพินาศ พิมพ์บัวเหลี่ยม วัดบวรนิเวศวิหาร ปี ๒๔๙๕ มาด้วยความสมหวังสุดๆ หลังจากรอคอยมานานพอสมควร เพราะพระกริ่งองค์นี้เจ้าของเดิมหวงมาก เนื่องเพราะสวยสมบูรณ์เป็นพิเศษ น้ำทองเต็มองค์ ดูแล้วงดงามไปทั่วทุกซอกมุม โดยเฉพาะพระพักตร์พระองค์นี้ดูอิ่มเอิบมาก

** หากจะพูดถึงพุทธคุณของ พระกริ่งไพรีพินาศ กันแล้ว พรรคพวกเพื่อนฝูงของ แล่ม จันท์พิศาโล มีประสบการณ์มาแล้วมากมาย โดยเฉพาะกรณีของ บุญเปี่ยม พึ่งรัศมี เพื่อนร่วมรุ่นแสงทองหาดใหญ่ ปี ๒๕๐๕ สมัยที่ยังเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งที่ จ.ปัตตานี ถูกผู้ใหญ่กลั่นแกล้งตลอดเวลา เมื่อได้ พระกริ่งไพรีพินาศ จากเพื่อนคนนี้ไปบูชา ไม่ถึง ๒ เดือน ผู้ใหญ่คนนั้นก็ถูกสั่งย้ายไปที่อื่น ขณะที่ บุญเปี่ยม ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และไต่เต้าจนได้เป็นผู้จัดการสาขา และผู้จัดการภาคในเวลาต่อมา ฯลฯ ด้วยประสบการณ์อันนี้ ทำให้ ผู้การฯเปี่ยม สั่งให้เพื่อนคนนี้หา พระกริ่งไพรีพินาศ ส่งไปให้ที่ปัตตานีอยู่เสมอๆ จากองค์ละ ๑,๕๐๐ บาท จนถึงองค์ละ ๒,๐๐๐ บาท ได้ไปกว่า ๑๕ องค์ ผู้การฯเปี่ยม บอกว่า...พอแล้ว แพงกว่านี้ไม่เอาแล้ว...ใบสั่งจาก ผู้การฯเปี่ยม จึงยุติเพียงนั้น ที่เล่ามานี้เป็นเรื่องจริง หากผ่านไปปัตตานี สอบถาม ผู้การฯเปี่ยม ได้เลย รับรอง...ไม่กล้าปฏิเสธ !!!

** อย่างไรก็ตาม พระกริ่งไพรีพินาศ ก็ใช่ว่าจะดีทางด้านขจัดศัตรูให้หมดไป หากแต่ยังมีอานุภาพทางด้าน เมตตามหานิยม อีกด้วย ตั้งจิตอธิษฐานแผ่เมตตา ด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็จะบังเกิด มหานิยม มาสู่ตัวเองอย่างแน่นอน  ** วางตลาดแล้ว นิตยสาร พุทธคยา ฉบับใหม่ของ ป๋อง สุพรรณ อ่านเรื่องจากนักเขียนกิตติมศักดิ์ พระร่วงยืน กรุวัดไผ่แหลม พระปิดตาหลวงปู่เกิด วัดบางเดื่อ เหรียญพระอาจารย์สิงห์ เนื้อทองคำ และภาพพระเครื่องแท้ ที่เปิดราคาให้เช่าอย่างกันเอง ** นิตยสาร ศึกษาและสะสม ฉบับใหม่ เน้นภาพใหญ่ๆ สวยคมชัด พระสมเด็จ วัดระฆัง องค์สวยสมบูรณ์สุดๆ ในฉบับอ่านเรื่อง พระวัดพลับ เหรียญพระครูจิ่น วัดวังยาวบน หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ เหรียญเม็ดแตง หลวงพ่อทวด พิมพ์ ณ แตก หนังสือเลยหู ฯลฯ

** นิตยสาร อาร์ต ออฟ สยาม ฉบับที่ ๑๒ แม้จะออกล่าช้าไปบ้าง เนื่องเพราะการย้ายสำนักงาน แต่เนื้อหาภายในก็ยังเข้มข้นเหมือนเดิม อาทิ พระพุทธธรรมทิฐิศาสดา เจาะลึก พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เปิดใจ พ.ท.ศุภชัย ศรีแพทย์ กูรูพระเครื่องผู้มีแต่ให้ อ.ยู่กิม บางลี่อาร์ต เล่าเรื่อง พระถ้ำเสือ หนุมาน หลวงพ่อสุ่น ลูกเป้ง คือ อะไร ??? ฯลฯ ติดต่อสมัครเป็นสมาชิกประจำ โทร.๐-๒๕๒๑-๙๑๘๑-๓

 ** อย่าลืม...วันนี้มีงานประกวดพระที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ศาลาประชาคมทุ่งนาเชย) จ.จันทบุรี รางวัลพระชนะเลิศแต่ละรายการ หนังสือ รวมพระเครื่องจังหวัดจันทบุรี งานนี้ สรรค์ จันทบุรี เพื่อนพ้องของเรา กำลังรอต้อนรับทุกท่านอยู่ด้วยความยินดี และขอบคุณยิ่ง....นะมัสเต ***

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ