Lifestyle

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

องค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

        ก่อนที่คนไทยจะได้ร่วมรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดแสดงนิทรรศการ “องค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ตลอดจนเพื่อเผยแพร่ อนุรักษ์ สืบทอดและต่อยอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโดยมี อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ ท้องสนามหลวง เมื่อวันก่อน

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

แสดงภาพประวัติศาสตร์ เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครทางสถลมารค

        ภายในงานนิทรรศการ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 “เถลิงถวัลย์ราชสมบัติ สยามรัฐสีมา” มีรูปแบบการจัดแสดงแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ได้แก่ ห้องที่ 1 “มหามงคลสมัยพระขวัญไผทเถลิงรัช” จัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในสมัยรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาและภาพพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์และการแสดงมหรสพสมโภชทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผ่านจอแอลอีดีและแท่นอักษรเบรลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา รวมทั้งห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ E-book สำหรับสืบค้นและศึกษาข้อมูล ภาษาไทยและอังกฤษ

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

          ห้องที่ 2 “นิรมิตเรืองนทีเถลิงหล้า” จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความสุขของคนไทยใต้ร่มพระบารมีผ่านจอแอลอีดีในรูปแบบ 3 มิติ ประกอบการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียง และการแสดงขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค เรือพระราชพิธีจำลอง 52 ลำ พร้อมกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

          ห้องที่ 3 “ขบวนนาวาอารยศิลป์แผ่นดินสยาม” จัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับขบวนพระยุหยาตราทางชลมารคตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนำเสนอภาพขบวนเรือจากอดีตถึงปัจจุบันผ่านจอแอลอีดี รวมทั้งกาพย์เห่เรือ จำลองภาพเรือ 52 ลำ ประกอบคำบรรยาย พร้อมทั้งจัดแสดงเครื่องดนตรีประกอบการเห่เรือและหุ่นแสดงเครื่องแต่งกายของพนักงานประจำเรือ ทั้งนี้ ภายในพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ทั้ง 3 ห้อง จัดทำอารยสถาปัตย์และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุอีกด้วย

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

        ส่วนที่ 2 “ศรีศุภยาตรา ปวงประชารวมใจถวายพระพร” จัดแสดงเรือพระที่นั่งจำลอง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ประกอบการแสดงเห่เรือจากกองทัพเรือ รวมทั้ง มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจาก 4 ภูมิภาค และการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ การแสดงละครนอก ละครใน โดยนักแสดงจากกรมศิลปากรและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

         ส่วนที่ 3 “ม่านธาราลือขจรเฉลิมราชย์องค์ราชัน” จัดแสดงม่านน้ำประกอบแสง สี เสียง เฉลิมพระเกียรติ นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตคนไทยกับสายน้ำที่ผูกพันมาอย่างยาวนาน และความวิจิตรตระการตาของโขนเรือขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รวมทั้งพระราชกรณียกิจต่างๆ ผ่านเทคนิคม่านน้ำ

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

          ส่วนที่ 4 “เอมอิ่มสุขสันต์ครบครันสำรับไทย” จำหน่ายสุดยอดอาหารไทยเลิศรสจากร้านที่มีชื่อเสียง

ล้่ำค่า นิทรรศการ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค"

          ด้านนอกอาคารนิทรรศการ มีโซน “ศรีศุภยาตรา ปวงประชารวมใจถวายพระพร” ซึ่งกรมศิลปากรสร้างเรือพระราชพิธีจำลอง จำนวน 4 ลำ ขนาดครึ่งของลำจริง ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และ เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ทั้ง 4 ลำเคยสร้างความประทับใจในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ประดับดอกไม้งดงาม ทั้งสาธิตการเห่เรือโดยกองทัพเรือ

         นิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครฯ เปิดให้ชมแล้วตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ณ ท้องสนามหลวง
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ