Lifestyle

แกะรอย...พระนาคปรกใบมะขามสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... ตามรอย...ตำนานแผ่นดิน  โดย...  เอก อัคคี (facebook.com/Akeakkee Ake)

 

 

 


          ในแวดวงนักสะสมพระเครื่องนั้น ต่างยอมรับกันมานมนานแล้วว่า “พระนาคปรก” เป็นหนึ่งในพระเครื่องยอดนิยมที่ผู้คนนิยมแสวงหาไว้สักการบูชา เพราะมีพุทธลักษณะที่งดงาม แลดูเข้มขลัง และมีนัยแสดงความหมายสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาลในทางพุทธศาสนา เพราะเกี่ยวเนื่องกับพญานาคผู้มากฤทธิ์ที่ชื่อ “พญานาคมุจรินทน์” ซึ่งมาแผ่พังพานปกป้องพระพุทธองค์ และเมื่อมีการจัดพระพุทธรูปประจำวัน “พระพุทธรูปปางนาคปรก” ก็ได้รับการจัดสรรให้เป็นปางประจำวันเสาร์

 

 

          ส่วนการจัดสร้าง “พระเครื่องปางนาคปรก” นั้นจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่ามีการจัดสร้างกันมาตั้งแต่โบราณกาล ย้อนกลับไปถึงยุคขอมโบราณ เลยทีเดียว โดยมีการค้นพบ “พระปางนาคปรก” จากกรุพระสำคัญๆ ทั่วประเทศ อย่างเช่น พระนาคปรก กรุนาดูน และพระนาคปรก บ้านพลูหลวง เป็นต้น

 

แกะรอย...พระนาคปรกใบมะขามสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐

พระนาคปรกใบมะขาม ครบชุดเนื้อสามกษัติย์ ออกปี ๒๕๕๘

 

 


          ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ สำนักต่างๆ รวมถึงแวดวงพระเครื่อง ก็มักนิยมสร้าง “พระปางนาคปรก” เป็นหนึ่งประเภทของการจัดสร้างวัตถุมงคลในแต่ละรุ่นเสมอมา ซึ่งจะมีขนาดแตกต่างกันไป ที่นิยมมากจะเป็น “พระนาคปรกใบมะขาม” เพราะมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการพกพา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปรกใบมะขามเจ้าคุณสนิทสมณคุณ วัดท้ายตลาด ถือว่าเป็นสุดยอดพระชุดจิ๋ว เบอร์หนึ่งของวงการ, พระนาคปรกใบมะขามหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, พระนาคปรกใบมะขามหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่, พระนาคปรกใบมะขามพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ฯลฯ


          แต่ในทำเนียบสุดยอดพระปรกใบมะขามที่ได้รับความนิยมในวงการฯก็ต้องจัดว่าของ วัดท้ายตลาด ปี ๒๔๕๖ เป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ ปรกวัดมะขามเฒ่า สร้างปี ๒๔๖๓ (สร้างที่วัดอนงคาราม แต่หลวงปู่ศุขเสก) ปรกอันดับสามคือ ปรกวัดกัลยาณมิตร ๒๔๗๔-๒๔๗๖ อันดับสี่คือ ปรกวัดอนงคาราม ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) และอันดับห้าคือ พระนาคปรกใบมะขามเนื้อเมฆพัด หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ สมุทรสงคราม

 

 

 

 

แกะรอย...พระนาคปรกใบมะขามสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐

พระนาคปรกใบมะขามขนาดเท่ากับใบมะขามจริงหน้าพระอุโบสถ์วัดราชบพิธ

 


          กล่าวสำหรับ พระนาคปรกใบมะขามวัดท้ายตลาด นั้นตามประวัติมีการบันทึกไว้ว่า เจ้าคุณสนิทสมณคุณ ซึ่งเป็นพระเขมร มาจากพระตะบอง (สมัยนั้นยังเป็นดินแดนไทย) สร้างขึ้นหลังจากเข้ามาอยู่ในกรุงสยาม ในสมัย รัชกาลที่ ๕ เพราะท่านไม่สมัครใจจะอยู่กับฝรั่งเศส ที่บังคับไทยให้ยกพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ให้ตอนอพยพมาสยาม เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๐ เจ้าคุณสนิท ได้ขนทรัพย์สมบัติมาหลายเล่มเกวียน โดยมี หลวงพ่อคง วัดซำป่างาม คุมขบวนมาด้วยกัน แต่เมื่อถึงไทยแล้ว หลวงพ่อคง ซึ่งเป็นพระวัดป่า ได้จำพรรษาอยู่ ฉะเชิงเทรา


          ส่วน เจ้าคุณสนิท เข้ามาอยู่ในเมืองที่วัดโมล-บีโลกยาราม หรือวัดท้ายตลาด และได้สร้างพระปรกใบมะขามขึ้นเมื่อปี ๒๔๕๖ เพื่อแจกลูกศิษย์เป็นที่ระลึกบูชา ในโอกาสที่ท่านมีอายุ ๖๐ ปี โดยปลดตะกรุดทองคำที่ท่านนำ ติดตัวมาจากพระตะบองใส่เบ้าหลอมพระด้วย และเพื่อให้ได้เนื้อโลหะมากๆ จึงใส่ ทองแดง ผสม ทำให้ พระปรกใบมะขาม วัดท้ายตลาด ที่นิยมเรียกกันว่า ทองคำ แต่ความจริงแล้วคือ เนื้อทองผสม หรือที่ฝรั่งเรียก ทองเคไงล่ะครับ


          และเมื่อครั้งที่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระสังฆราชองค์แรกในรัชกาลปัจจุบัน สมัยยังดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม


          พระองค์ทรงเมตตาให้คณะศิษย์ได้จัดสร้างพระปรกใบมะขามเป็นที่ระลึกแก่ศิษยานุศิษย์ในวันคล้ายวันอายุวัฒนมงคล ๘๘ ปี ในวันศุกร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ โดยจัดสร้างเป็นเป็นเนื้อทองคำ-นาก-เงิน ๓๐ ชุด เนื้อเงิน ๓๙๙ องค์ เนื้อนวโลหะ ๕๐๐ องค์ เนื้อทองแดง ๒๐,๐๐๐ องค์


          โดยสมเด็จฯ ทรงอนุญาตให้ นายยอดชาย ชาญช่าง ทหารเป็นผู้จัดสร้างถวาย พระชุดนี้สมเด็จฯ ท่านอธิษฐานจิต นานถึง ๖ เดือน และยังนำเข้าปลุกเสกอีกหลายวาระ


          พระปรกใบมะขามของพระองค์น่าสนใจมาก เพราะสมเด็จฯ ท่านดำริให้นำใบมะขามที่หน้าพระอุโบสถไปเป็นต้นแบบ นับได้ว่าเป็นของดีที่แจกฟรี น่าเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่มีจำหน่ายและแจกหมดไปนานแล้ว


          วันนี้...จึงอย่าถามว่า ให้คนถามปวดหัวใจเองว่า..หาได้ง่ายไหม?


          และพระนาคปรกใบมะขามอีกรุ่นตามมาติดๆ ที่น่าสนใจมาก ซึ่งเพจศิษย์เก่าวัดราชบพิธนำมาเผยแพร่ข่าวคือ รุ่นที่จัดสร้างโดย คณะศิษย์เก่า โรงเรียนวัดราชบพิธ รุ่น ๑๐๒ ปี


          เป็น พระนาคปรก ใบมะขาม เนื้อทองแดง จำนวน ๑๐,๐๐๐ องค์ เนื่องในโอกาสเจริญอายุวัฒนมงคล ครบ ๘๙ ปี คือเมื่อปีที่แล้ว ๒ มิถุนายน ๒๕๕๙ นี่เอง


          และโปรดอย่าถามให้ปวดหัวใจตัวเองอีกเช่นกันว่า หาง่ายไหม?


          เพราะถือว่าเป็น รุ่นสุดท้ายที่สร้างขณะดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อัมพโร) เพราะถัดจากนี้ไปก็จะเป็นวัตถุมงคลของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๒๐ ซึ่งวัตถุมงคลรุ่นแรกในสมณศักดิ์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช คือ เหรียญตราสัญลักษณ์ ออป. นั่นเอง!!!!


          และขอร้องอีกครั้งว่า อย่าถามว่า ผมมีไหม?


          และมีกี่เหรียญ?


          ท่านจะเจ็บหัวใจเองเพราะผมไม่บอก...ฮา

 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ