รถสวมทะเบียน ปิดเต็นท์หนี เป็นหนี้ทั้งที่ไม่มีรถ

          จากกรณีผู้เสียหายแจ้งเรื่องราวที่คับข้องใจมากว่า 9 ปี ที่ได้ซื้อรถที่เต็นท์รถชื่อ JD AUTOGEN จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2553 แล้วผู้เสียหายมีการซื้อรถในราคาคันละ 950,000 บาท เป็นจำนวนสองคัน ได้มัดจำค่ารถไว้คันละ 10,000 บาท รถตู้หมายเลขทะเบียน ฮจ-1366 กรุงเทพมหานคร ในส่วนของจำนวนเงินที่เหลือ 940,000 บาท ทางเต็นท์รถได้เก็บเงินกับไฟแนนซ์ และในตอนนั้นก็อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทำป้ายเหลือง เมื่อได้ป้ายเหลืองผมและเพื่อนก็นำป้ายเหลืองเข้าไปตรวจสภาพที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เพื่อสวมป้ายเหลือง รถทั้งสองคันตรวจสภาพไม่ผ่าน และหัวหน้าช่างบอกว่ารถมีปัญหา เขาบอกว่าเลขคัสซีดัดแปลงมา รถสวมทะเบียนมา ทางขนส่งเลยอายัดเอาไว้ และส่วนอีกคันของเพื่อนเพิ่งจะตรวจปีแรกก็ผ่านและได้ป้ายเหลือง แต่พอมาปีที่ 2 ไปตรวจเพื่อที่จะต่อภาษี ก็ตรวจไม่ผ่านเหมือนคันของผม โดนขนส่งอายัดเหมือนกัน 

          ผมสองคนไปคุยกับไฟแนนซ์ว่า ถ้ารถมีปัญหาตรวจสภาพไม่ผ่านจะนำรถมาคืนให้ไฟแนนซ์ แต่เขาบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับรถคืน เขาได้เรียกเต็นท์รถเพื่อมาซื้อคืนในราคาดาวน์ 190,000 บาท และผ่อนชำระต่อไปเป็นงวดๆ โดยจ่ายงวดละ 17,655 บาท แต่ไม่ได้เปลี่ยนสัญญา โดยเต็นท์บอกว่าขอเวลาสัก 4-5 เดือน เขาจะมาเปลี่ยนสัญญาให้ 3-4 เดือนเต็นท์เขาก็ผ่อนให้ปกติ แต่แล้วเต็นท์ก็ปิดหนีไป โดยนำเอารถทั้งสองคันไปด้วย และในส่วนของเรื่องค่างวดรถทั้งสองคันก็ไม่มีการส่งค่างวดให้แต่อย่างใด ตั้งแต่ตอนนั้นมาก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหนจนปัญญา ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายด้วยก็เลยปล่อยปละละเลยมาหลายปี แต่มาวันหนึ่งก็มีหมายศาลมาฟ้องผมทั้งสองคน ตอนจดไฟแนนซ์ผมเป็นคนค้ำให้เพื่อนและเพื่อนค้ำประกันให้ผม ตอนนี้โดนฟ้องคดีผิดสัญญาไม่ยอมผ่อนชำระงวด ศาลตัดสินคดีของเพื่อนผมต้องจ่ายเงินชดใช้ให้บริษัทไฟแนนท์ประมาณห้าแสนกว่าบาท 

          แต่เนื่องจากเพื่อนผมไม่ได้ไปคุยกับบริษัทไฟแนนท์และจ่ายให้บริษัทเลยไม่ได้ไปประนอมหนี้ ตอนนี้ทั้งต้นและดอกขึ้นไปที่แปดแสนกว่า แล้วถึงขั้นบังคับคดีแล้ว เขาเช็กทรัพย์สินเพื่อนผม ไม่มีอะไร แต่พอมาเจอทรัพย์สินของผมซึ่งเป็นบ้านเอื้ออาทรทาวน์เฮ้าส์สองชั้นติดจำนองอยู่กับทางธนาคารออมสิน โดนบังคับคดีให้ยึดของผมไปแล้วตอนนี้และคดีของผมก็โดนบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้องมาเหมือนกัน ศาลตัดสินให้ผมจ่ายให้ไฟแนนซ์เป็นจำนวนเงิน 540,000 บาท ตอนนี้ผมกำลังเจรจากันว่าจะเอายังไง จะสามารถประนอมหนี้หรือจะปิดสดถ้ามีเงินปิดสดก็จ่ายสด 470,000 บาท แต่ผมก็ไม่มีหนทางที่จะหาเงินมาใช้หนี้ ค่าผ่อนเขาก็ให้จ่ายก่อน 30% ที่เหลือต้องผ่อนให้หมดภายใน 24 งวด และในกรณีนี้ทำให้ผู้ร้องได้เข้ามาเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้ลุงแจ่มเพื่อหาทางออกให้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาเนิ่นนานถึงเกือบ 10 ปี
สุระ

ตอบ
          ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า ทางกฎหมาย ศาลมีคำพิพากษาออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงเดือน พฤษภาคม 2561 ธนาคารมีสิทธิที่จะบังคับให้ชำระหนี้ในจุดนี้ โดยที่ธนาคารมีนโยบายการรองรับกรณีลูกค้าที่เป็นกรณีพิเศษแบบนี้อยู่แล้ว 

          ธนาคารจึงเรียกลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีปัญหาเข้ามาพูดคุยและลดหย่อนตรงส่วนของดอกเบี้ยในบางส่วนให้ได้ ธนาคารก็จะมีการไกล่เกลี่ย ประนีประนอม ซึ่งในทางของผู้เกี่ยวข้องจะติดต่อไปทางลูกค้าโดยตรงเพื่อคุยกันว่าจะสามารถลดตรงส่วนไหนได้บ้าง ธนาคารเข้าใจว่าลูกค้าต้องไปเจอกรณีต่างๆ มากมาย และได้รับความเดือดร้อนในส่วนนี้

          ด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ตามหลักของการที่ผู้เสียหายซื้อของมาแล้วของมีปัญหา ผู้ขายต้องรับผิดชอบ กรณีดังกล่าวควรรีบแจ้งความข้อหาฉ้อโกง และตอนซื้อต้องดูเล่ม ดูหมายเลขเครื่องยนต์ให้ตรงกัน ถ้าเป็นรถที่ขโมยมาผู้ซื้อรู้แล้วว่าเล่มไม่ตรงกับเลขเครื่องยนต์ ผู้ซื้ออาจมีความผิดด้วย ฐานรับของโจรตามมาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท  และในส่วนของเรื่องการดำเนินคดีควรรีบดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว