พระอาการดีขึ้น'ปอดอักเสบ'ทุเลาลง

(4ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนทุกหมู่เหล่ายังทยอยเดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยวันนี้นับเป็นวันที่ 14 หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อทรงรับการถวายการรักษาพระอาการประชวร ขณะที่ยอดรวมผู้ลงนามถวายพระพรสูงถึง 335,189 คน แล้ว

 ล่าสุดเย็นวันนี้ (4ต.ค.) สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 15 ความว่า วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระอาการโดยทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ เสวยพระกระยาหารได้มากขึ้น และทรงพระบรรทมได้ดี ผลการตรวจพระวรกายและเอกซเรย์พระอุระ(อก) พบว่า อาการอักเสบของพระปัปผาสะ (ปอด) ทุเลาลงมา จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยากจะขอขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยที่ได้แสดงออกถึงความสามัคคี ความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ โดยช่วงตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า พสกนิกรยังหลั่งไหลมาลงนามถวายพระพรด้วยความห่วงใยต่อพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจากแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับล่าสุดพระอาการก็ดีขึ้นโดยลำดับ คิดว่าที่พี่น้องประชาชนพสกนิกรชาวไทยสมัครสมานสามัคคี แสดงความห่วงใย และแสดงออกด้วยการมาลงนามถวายพระพร พร้อมทั้งการแสดงความคิดเห็นต่างๆนั้น สามารถยืนยันได้อีกครั้งหนึ่งว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่หลอมรวมจิตใจของพี่น้องประชาชนคนไทย เป็นสถาบันที่ทำให้บ้านเมืองของเรามีความสงบเรียบร้อย มีความสมัครสมานสามัคคี

 "การแสดงความจงใจภักดีของพสกนิกรชาวไทยทุกที่ร่วมกันนั้น แสดงถึงความสมัครสมานสามัคคีด้วยการเดินทางมาลงร่วมลงนามถวายพระพร และร่วมกันแสดงออกถึงความห่วงใยต่อพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับล่าสุดพระอาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ และการร่วมการแสดงออกในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจคนไทย ที่ทำให้สังคมไทยอยู่อย่างสุขสงบและสามัคคี" นายกรัฐมนตรีกล่าว

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ช่วงเช้าถึงเย็นมีประชาชนชาวไทยและบุคคลสำคัญจำนวนมากเดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเช้ามีบุคคล คณะบุคคลเดินทางมาเป็นครอบครัวเพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากพระอาการประ ชวรโดยเร็ว โดยประชาชนส่วนใหญ่กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันดี เพราะเป็นวันออกพรรษา พสกนิกรชาวไทยควรพร้อมใจกันร่วมทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
 
 นอกจากนี้ยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดถือโอกาสช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางมาลงนามถวายพระพรด้วย โดยนางแม้น ปุ๋ยจัตุรัส อายุ 65 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ติดตามพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วรู้สึกเป็นห่วง จึงขอให้ลูกหลานพามาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว พร้อมกันนี้ยังได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยอธิษฐานจิตให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ขณะที่บรรยากาศโดยรอบโรงพยาบาลศิริราชมีเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพรอย่างเต็มที่

 ส่วนบรรยากาศช่วงบ่าย ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ประชาชนทั่วทุกสารทิศต่างทยอยเดินทางมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีบุคคล และคณะบุคคลร่วมลงนามถวายพระพร อาทิ สมาคมพยาบาลทหารบก และคณะ นายเอกภาพ หงสกุล ส.ข.สายไหม นำชาวเขตสายไหมกว่า 100 คน ร่วมลงนาม ผู้พิการทางหูจากสมาคมศิษย์เก่าโสตศึกษา จ.ชลบุรี รวมทั้งคณะนักเรียนจากโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุฯ นำโดย พระครูวิสุทธิ์ปริยัติคุณ ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายจักรพันธ์ วรอาคาร เลขานุการจัดงาน คณะ 23 ตุลามหาราช

 จากนั้นเวลา 13.30 น. กลุ่มดาราจากรายการ“ซูเปอร์สตาร์ที่สุดแห่งดาว”ได้แก่"ออย" ธนา สุทธิกมล "อ้น" สราวุธ มาตรทอง เปรม บุษราคัมวงษ์ แมทธิว ดีน "นิกกี้" สุระ ธีระกล "กระแต" ศุภักษร "หมิง" ชาลิสา บุญครองทรัพย์ นาตาลี เดวิส ฯลฯ ร่วมลงนามถวายพระพร

 นางผาย ยะแสง อายุ 78 ปี ชาว อ.ปั๋ว จ.น่าน กล่าวว่า ป่วยเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี เข้ามารักษาอยู่โรงพยาบาลศิริราชประมาณ 1 เดือนมาแล้ว และได้รับพระราชทานพานดอกไม้ที่มีประชาชนนำมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วพระองค์พระราชทานแก่ผู้ป่วยตามตึกต่างๆของโรงพยาบาล ทำให้ซาบซึ้งในน้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ท่าน และตั้งใจว่าจะเก็บไว้บูชา ซึ่งตอนนี้อาการของตนเริ่มดีขึ้นมาก จึงขออนุญาตพยาบาลมาร่วมลงนามถวายพระพร ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ