อย.แนะนำวิธีทำ"เจลล้างมือ"กันหวัดใช้เอง

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า การล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยใช้สบู่เหลวหรือสบู่ก้อนกับน้ำก็สามารถล้างได้อย่างหมดจด สำหรับกรณีที่ไม่สะดวกใช้น้ำ เช่น เดินทาง หรือไปในที่ที่ไม่สะดวกล้างมือด้วยน้ำ ก็สามารถใช้เจลล้างมือชนิดไม่ใช้น้ำเป็นทางเลือกเสริมได้ 

นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า หากต้องการใช้เจลล้างมือชนิดไม่ใช้น้ำในปริมาณมาก เช่น สมาชิกครอบครัวขนาดใหญ่ หรือสำนักงานและโรงงานที่มีคนงานจำนวนมาก เพื่อเป็นการประหยัดก็สามารถทำเองได้ง่ายๆ โดย เตรียมอุปกรณ์ สารเคมี ดังนี้ 

อุปกรณ์ ถัง หม้อสแตนเลส หรือพลาสติก ขนาดบรรจุ 1.5 ลิตร ไม้พาย ถ้วยตวงขนาดบรรจุ 1 ลิตร (1,000 มล.) สารเคมี เอธิลแอลกอฮอล์ ปริมาณ 740 มล. กลีเซอรีน 10 มล. น้ำ 245 มล. น้ำหอม 5 มล. 

วิธีการผสม เตรียมสารละลายน้ำหอม

1. ตวงเอธิลแอลกอฮอล์ ปริมาณ 40 มล. โดยใช้ถ้วยตวงที่เตรียมไว้
2. เติมน้ำหอม ปริมาณ 5 มล. ลงไป
3. เติมกลีเซอรีน ปริมาณ 10 มล. ลงไป
4. กวนด้วยพายจนสารผสมเข้ากันดี ได้สารละลายใส

การผสมผลิตภัณฑ์นำเอธิลแอลกอฮอล์ที่เหลือ ปริมาณ 700 มล. ใส่ในถัง หม้อสแตนเลส หรือพลาสติก ขนาดบรรจุ 1.5 ลิตร เติมสารละลายน้ำหอมที่เตรียมไว้ลงไป กวนด้วยพายจนสารผสมเข้ากันดี จากนั้นเติมน้ำ ปริมาณ 245 มล. ลงไป กวนด้วยพายจนสารผสมเข้ากันได้ วิธีการง่ายๆ เท่านี้ ก็จะได้เจลล้างมือ

และมีสูตรการทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแบบง่ายๆแต่มีผลในการฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับมือนั้น มีสูตรการทำที่ไม่ยุ่งยากมีส่วนประกอบดังนี้ คือ กลีเซอรีน แอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ที่ใช้ล้างแผล และน้ำมันหอมระเหยกลุ่มต่างๆ ตามชอบ หากต้องการเจลขนาด1,000 ซีซี จะใช้กลีเซอรีน 10 ซีซี หรือขนาด 2 ช้อนชา แอลกอฮอล์ 990 ซีซี คนให้เข้ากัน และเทบรรจุในภาชนะที่มีอยู่ เช่นขวดใส่แชมพูสระผมที่หมดแล้ว และปิดฝาให้สนิท การเก็บควรให้ห่างจากเปลวไฟเนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถระเหยและติดไฟได้

"อภิสิทธิ์"รับห่วงภูมิภาครับมือหวัดใหญ่ 2009

(24ก.ค.) เมื่อเวลา 12.10น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระบาดอย่างหนักในช่วงนี้ และอาจกระทบกับภาพรวมด้านเศรษฐกิจ ว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้กระทบกับเศรษฐกิจมานานแล้ว แต่สิ่งสำคัญสุดคือการบริหารจัดการระดับภูมิภาคเพราะในกทม.และปริมณฑลนั้นสถานการณ์นี้ผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ระบบต่างๆเดินไปได้แล้ว แต่สิ่งที่ตนย้ำกับภูมิภาคโดยเฉพาะการจ่ายยาและให้ความรู้เพิ่มเติมกับประชาชน ส่วนตัวเลขการระบาดและเสียชีวิตของโรคนี้ในไทยที่พุ่งสูงมาก

 นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอย้ำอีกครั้งว่าแม้แต่องค์การอนามัยโลกยังไม่คิดว่าการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเป็นประโยชน์แต่อย่างใด เพราะมันคือการยอมรับว่าการระบาดของโรคนี้ขยายออกไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คืออยู่ที่ว่าเมื่อมีใครติดเชื้อจะปฏิบัติตัวและรับการดูแลอย่างถูกต้องหรือไม่ เมื่อถามว่า ความเชื่อมั่นของรัฐบาลในการดูแลเรื่องนี้ โพลล์ระบุว่าประชาชนไม่มั่นใจในวิธีการของรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า ก็จะทำให้คะแนนดีขึ้นแต่ตอนนี้คะแนนเกินครึ่งอยู่แล้วแต่อยากทำให้คะแนนดีกว่านี้ เมื่อถามว่าจะมีวิธีจัดการที่ทำให้ความเชื่อมั่นดีกว่านี้หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ตอนนี้ตนขอให้เครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยไปชี้แจงให้ประชาชนทราบข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมอบให้สสส.ไปวิจัยเรื่องนี้เพิ่มเติมด้านสภาพปัญหาที่แท้จริง และวัคซีนนั้นที่น่าจะเป็นปัญหาในรอบต่อไปเพราะหากวัคซีนเข้ามาในประเทศจะมีปัญหาด้านการจัดสรรและติดตามด้านผลกระทบข้างเคียง

 เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะจำกัดวงของโรคนี้ไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจ นายกฯกล่าวว่า คิดว่าตอนนี้หน่วยงานต่างๆน่าจะเห็นว่ากิจกรรมต่างๆนั้นกระทำได้ แม้แต่ต่างประเทศก็ยังเดินทางมาไทย ฟุตบอลระหว่างไทย-ลิเวอร์พูลก็ยังแข่งขันได้ เมื่อถามว่ามาตรการของไทยนั้นพียงพอแล้วหรือยัง นายกฯกล่าวว่า ตนไม่อยากใช้คำว่าเพียงพอ เพราะปัญหานี้จะพัฒนาขึ้นไป และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อปรับเปลี่ยนปัญหาที่อาจเกิดใหม่ๆได้ตลอดเวลา

ล้างทำเนียบสกัดเชื้อหวัด 2009

 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) จัดกิจกรรมทำความสะอาดใหญ่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยมีนางสาวเรณู ตังคจิวางกูร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นประธานเปิดงาน และมีข้าราชการในทำเนียบฯ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พนักงานทำความสะอาดของบริษัทเอกชน เข้าร่วมประมาณ 300 คน โดยทั้งหมดได้ช่วยกันทำความสะอาดส่วนราชการในทำเนียบฯ 5 แห่ง

 ได้แก่ สลน. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการพระราชดำริ (กปร.) ร่วมถึงร้านค้า ห้องทำงานสื่อมวลชน (รังนกกระจอก) ฯลฯ โดยมีการนำน้ำยาฆ่าเชื้อจากสำนักอนามัย กทม. มาฉีดทั่วทำเนียบฯ นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยังนำคู่มือปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือมาแจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมงานทุกคนด้วย

หมอมงคลชี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้หวัดขอ ปชช.ตั้งสติ

 นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าววันที่ 24 กรกฎาคมทุกฝ่ายมีความหวังดี ตั้งใจทำงาน แม้หลายคนอาจมองว่าการแก้ปัญหาไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังไม่ตรงจุด ทั้งการประชาสัมพันธ์หน้ากากอนามัย การปล่อยขบวนรณรงค์ที่อาจให้ความรู้ไม่ตรงจุด แต่เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่งเกิดขึ้นเพียง 6 เดือน จึงต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ขอให้กำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานทุกคน อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนตั้งสติในการรับข่าวสาร พร้อมไปกับดูแลสุขภาพ