ลาซาด้าไม่รับคืนสินค้า

 

                            ดิฉันขอเรื่องเว็บไซต์ LAZADA ช็อปปิ้งออนไลน์ หลอกลวงผู้บริโภค เนื่องจากลูกสาวดิฉันได้สั่งซื้อเครื่องหนีบผมตรง Remington จากเว็บไซต์นี้ ในราคา 499 บาท มีส่วนลดให้ 15% คงเหลือ 424.15 บาท ตามออเดอร์ เลขที่ 306573166xxxx เมื่อได้รับสินค้าประมาณวันที่ 2-3 ก.ย.2557 ก็พบว่า สินค้ามีขนาดเล็กมาก 

 

                            แต่ลูกสาวก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้หรือไม่ จึงได้ทดลองหนีบผมดู ซึ่งก็พบว่า เครื่องไม่มีความร้อนเลย ไม่สามารถหนีบผมให้ตรงได้ ดิฉันจึงรีบจัดส่งคืนให้เว็บไซต์นี้ โดย ป.ณ. EMS ตามกติกาที่เว็บไซต์แจ้งไว้ แต่ปรากฏว่า ทางเว็บไซต์นี้ไม่ยอมรับคืนสินค้าที่ดิฉันส่งคืน โดยอ้างอย่างเดียวว่า สินค้านี้ไม่ได้ชำรุด ซึ่งดิฉันก็ทราบดีว่า สินค้านี้ไม่ได้ชำรุด แต่ดิฉันจะคืนสินค้า เนื่องจากเครื่องหนีบผมนี้ไม่สามารถหนีบผมให้ตรงได้ จากวิดีโอที่เขาส่งแนบไฟล์มา ก็ยังเห็นชัดเจนว่าหนีบผมได้ แต่ผมไม่ตรง ผมยังคงชี้ฟูอยู่เหมือนเดิม แล้วดิฉันจะรับสินค้านี้ไว้ทำไม ในเมื่อมันใช้งานได้ไม่ดี ไม่ตรงกับความต้องการของลูกสาวดิฉัน

 

                            ดิฉันยืนยันว่า สินค้าไม่เป็นไปตามที่อธิบายไว้ในคู่มือสินค้า และไม่สามารถทำงานได้ตามที่ดิฉันต้องการ สินค้านี้สามารถใช้งานได้ แต่ไม่ตรงกับความต้องการ เพราะดิฉันต้องการเครื่องหนีบผมตรง แต่สินค้าชิ้นนี้ หนีบไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมก็ยังไม่ตรง เครื่องมีแต่ความอุ่น ความร้อนไม่เพียงพอ ไม่สามารถทำให้ผมตรงได้เลย

 

                            นโยบายคืนสินค้าของเว็บไซต์นี้แจ้งว่า สามารถคืนสินค้าได้ ถ้าสินค้าไม่ตรงตามความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า ดังนั้น ดิฉันขอถามหน่อยว่า ถ้าดิฉันไม่แกะมาทดลองใช้ดู ดิฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าสินค้าไม่ตรงกับความคาดหวัง ดังนั้นดิฉันก็ต้องทดลองใช้ดูอย่างน้อย 1 ครั้งแน่นอน จึงเป็นไปไม่ได้ที่สินค้าจะต้องอยู่ในสภาพที่ยังไม่เคยถูกใช้งาน เมื่อทดลองแล้ว ไม่ตรงกับความต้องการ ดิฉันก็รีบส่งคืนทันที โดยไม่ชักช้า, ดิฉันสงสัยมากว่า สินค้าชิ้นนี้ ที่มีคนให้เกรดในช่องความคิดเห็นว่าดีมากมาย คงจะต้องเป็นหน้าม้าของลาซาด้าแน่ๆ ซึ่งก็ทำให้ดิฉันหลงเชื่อ จึงสั่งสินค้านี้มา สินค้าจีนแดง เครื่องหนีบผมตรงราคา 2-3 ร้อยบาท ยังใช้ได้ดีกว่าเสียอีก

 

                            ดิฉันโทรไปร้องเรียนกับคอลเซ็นเตอร์หลายครั้งมาก (นับเป็น 10 ครั้ง) และ ยืนยันว่าดิฉันต้องการเงินคืนค่าสินค้า ไม่ต้องการรับสินค้า ที่ดิฉันไม่สามารถใช้งานได้ แต่ทางลาซาด้าก็ยืนยันไม่คืนเงินค่าสินค้าให้ดิฉัน และยังฝืนจะส่งสินค้ากลับคืนมาให้ดิฉันใช้งาน โดย เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ก็ไม่สามารถให้คำตอบดิฉันได้เลย โดยแจ้งว่าให้ดิฉันไปร้องเรียน นสพ.ได้เลย ดิฉันสงสัยว่า เว็บไซต์นี้มีเงินลงทุนทำสติกเกอร์ไลน์หลายล้านบาท แต่ นโยบายในการรับคืนสินค้าแย่จริงๆ ดิฉันไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ยังสามารถเอากลับมาทดลองใช้ที่บ้านแล้วไม่ดียังเอากลับไปคืนได้ โดยไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ในห้อง Pantip ก็มีเรื่องราวร้องเรียนของลาซาด้าอยู่มากมาย หรือว่า ทางลาซาด้า เคยชินแล้ว

 

                            จึงเรียนมาเพื่อขอให้ลุงแจ่ม ช่วยเป็นสื่อกลาง พิจารณาเรื่องร้องเรียนของดิฉันและประสานงานให้เว็บไซต์ลาซาด้าคืนเงินค่าสินค้าให้ดิฉันโดยด่วนด้วย เนื่องจากเวลาผ่านไปร่วม 1 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และตั้งแต่ที่ดิฉันโทรเข้าไปหาเว็บไซต์นี้ ก็ไม่เคยมี เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าท่านใด โทรติดต่อกลับมาหาดิฉันเลย (เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่า จะให้หัวหน้าโทรกลับ แต่ก็ไม่มีใครโทรกลับมาหาลูกสาวดิฉันเลย)

 

 

วีณา

 

 

ตอบ

 

 

                            จากกรณีร้องเรียนของคุณวรารินทร์ ที่สั่งซื้อสินค้าเครื่องหนีบผมตรง Reminton ในราคา 499 บาท เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ investigate และตรวจสอบไปยังแผนก Return Team เป็นที่เรียบร้อย ขอเรียนชี้แจงดังนี้

 

                            ลาซาด้ารับประกันการคืนสินค้าภายใน 14 วัน ทั้งนี้ภายใต้รายละเอียดภายใต้เงื่อนไขในลิงค์ http://www.lazada.co.th/return-policy/

 

                            กรณีของคุณวรารินทร์อยู่นอกเงื่อนไขของการรับประกัน เนื่องจากสินค้ายังมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดีอยู่ แต่เนื่องจากเกิดการคลาดเคลื่อนในการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้ากับคุณวรารินทร์จึงทำให้เกิดกรณีร้องเรียนนี้ขึ้น 

 

                            จากความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทางลาซาด้าจึงพิจารณากรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่ลาซาด้าได้ติดต่อคุณวรารินทร์เพื่อขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นและชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งคุณวรารินทร์พอใจในการติดต่อกลับพร้อมคำชี้แจงเพิ่มเติมในครั้งนี้

 

                            ทั้งนี้ ลาซาด้า มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้รับความพึงใจสูงสุด 

 

 

ลุงแจ่ม

 

 

 

สามี(ตัวดี)แบ่งทรัพย์สิน

 

 

                            ดิฉันมีเรื่องอยากทราบค่ะ คือว่า แต่งงานอยู่กินกับสามีมาประมาณ 10 ปี ปรากฏว่า จับได้ว่าสามีมีผู้หญิงอื่น และกำลังจะมีลูกด้วยกัน หลังจากดิฉันทราบเรื่องก็เลยทำให้ครอบครัวมีปัญหา สามีก็พาลหาเรื่องออกจากบ้าน แล้วก็ไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น นานๆ กลับมาที 

 

                            เรื่องนี้ทำให้ดิฉันอึดอัดใจมาก เพราะเวลาสามีกลับมา ก็มักจะทะเลาะกัน สงสารลูกค่ะ เรามีลูกด้วยกัน 3 คน ไม่อยากทะเลาะกันให้ลูกเห็นแล้วกลายเป็นเด็กมีปัญหา แค่พ่อหายไป ลูกถามดิฉันก็ยากต่อการสรรหาคำตอบมาอธิบายให้แก่ลูก 

 

                            สิ่งที่ดิฉันอยากทราบคือ ถ้าต้องหย่ากัน เรื่องทรัพย์สินจะทำอย่างไร แล้วถ้าไม่หย่าอยู่กันไปอย่างนี้ ผู้หญิงคนนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องในทรัพย์สินของดิฉันกับสามีไหม แล้วลูกของผู้หญิงคนนั้น จะมีสิทธิ์ในทรัพย์สินของดิฉันและลูกด้วยหรือเปล่า

 

 

ธิดา

 

 

ตอบ

 

 

                            ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ชลธิชา สมสอาด คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำว่า ในเรื่องของทรัพย์สินนั้น ถ้าคุณเป็นภรรยาจดทะเบียนถูกต้องถามกฎหมาย ก็เท่ากับว่าเป็นเหมือนบุคคลเดียวกันกับสามี ทรัพย์สินที่มีหามาได้ร่วมกันหลังจากแต่งงานแล้ว เรียกว่า เป็นสินสมรส ถ้าต้องหย่าขาดจากสามี สินสมรสที่มีทั้งหมด ก็จะต้องแบ่งคนละครึ่ง ส่วนหนึ่งคุณได้ไป อีกส่วนเป็นของสามี 

 

                            หลังจากแบ่งกันแล้ว ในส่วนของสามี สามีมีสิทธิ์ที่จะยกให้ใครก็ได้ หรือจะทำพินัยกรรมให้ใครก็ได้ แต่ถ้าสามีเสียชีวิตโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์สินที่มีอยู่นี้ก็จะกลายเป็นมรดก ผู้ที่เป็นลูกก็จะกลายเป็นผู้รับมรดก ในที่นี้ หมายถึงลูกของคุณทั้ง 3 คน ก็จะได้รับมรดกนี้ และถ้าสามีจดทะเบียนรับรองบุตรที่เกิดกับภรรยาใหม่ เด็กคนนั้น ก็จะได้รับมรดกด้วย เพราะตามกฎหมายถือว่า เด็กคนนี้ลูกถูกพ่อ  

 

                            ส่วนผู้หญิงคนนั้น ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินในส่วนของคุณ แต่ถ้าเป็นส่วนของสามี และสามียกทรัพย์สินให้เธอ เธอถึงจะมีสิทธิ์ในที่นี้ คือ มีสิทธิ์เฉพาะส่วนที่เป็นของสามีเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับส่วนของคุณ 

 

                            สำหรับเรื่องลูก ก็อย่างที่บอก ถ้าสามีเซ็นรับรองบุตร ก็เท่ากับว่า เด็กคนนี้เป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายของสามีแล้ว ดังนั้น เด็กคนนี้จึงมีสิทธิในการรับมรดกของพ่อเหมือนกับลูกของคุณทุกอย่าง แต่เป็นการได้รับสิทธิเฉพาะในส่วนของพ่อเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับของคุณ

 

 

ลุงแจ่ม