Program Online

เปิดใจทนายโนบิตะ เผย 3 เหตุผลหลังขอยุติบทบาทเป็นที่ปรึกษา ลุงพล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายการ "ถามสุดซอย" ทางช่องเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (19 มกราคม 2564) เปิดใจทนายโนบิตะ เผย 3 เหตุผลหลังขอยุติบทบาทเป็นที่ปรึกษา ลุงพล

รายการ "ถามสุดซอย" ทางช่องเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (19 มกราคม 2564) พูดคุยกับทนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ กรณีการประกาศแยกทางหรือยุติบทบาทเป็นที่ปรึกษากับ ลุงพล 

ทนายโนบิตะ เผยสาเหตุ 3 ข้อที่ทำให้ตนเองขอยุติบทบาทเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำด้านกฎหมาย ลุงพล คือ ข้อ 1.ตนรู้สึกหมดกำลังใจ เนื่องจากบรรดาเอฟซี ลุงพล เข้ามาด่าและใส่ความว่าตนเป็นนกสองหัว นิสัยไม่ดี เข้ามาสืบความลับ ลุงพล ไปให้หมอปลา อุ๊บ วิริยะ จนเกิดความท้อใจและเสียใจ

 

ซึ่งเหตุผลหลักๆ ทำให้ตัดสินใจยุติบทบาทดังกล่าวกับ ลุงพล ซึ่งย้อนกลับไปวันที่ 9 ได้เดินทางไปที่บ้านกกกอก พาน้องโอ๊ต น้องมน ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อเก็บวัตถุพยานเพิ่มเติม ซึ่งวันดังกล่าวมีการพูดคุยกับลุงพล ถามว่าเข้าเครื่องจับเท็จมาเป็นยังไงบ้าง จน ลุงพล เปิดใจว่าเขาไม่ไว้ใจหมอปลา น้ำฟ้า และทีมงาน เนื่องจาก ลุงพล เจอเครื่องดักฟังที่เกิดขึ้นบนรถ ทำให้เสียใจและไม่ไว้ใจ มีการสั่งให้เอากล้องวงจรปิดบนรถและถอดกล้องวงจรปิดที่บ้านออก

 

โดย ทนายโนบิตะ บอกว่า ตนก็ได้ให้คำแนะนำ ลุงพล ไปว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการตรวจสอบ สามารถเอาซิมการ์ดไปตรวจสอบได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทาง หมอปลา น้ำฟ้า และป๊อบปี้ (ช่างที่เอากล้องไปติด) ตนแนะนำต่อว่า เพื่อความสบายใจ ให้ไปคุยกันที่ จ.เพชรบุรี เป็นการส่วนตัว มีลุงพล ป้าแต๋น หมอปลา น้ำฟ้า คุยกันเป็นการส่วนตัว อะไรที่ติดอยู่ในใจจะได้เคลียร์กันให้จบๆ  

 

ทว่า ลุงพล ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของตน เพิกเฉย และเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 เขาดันไปให้สัมภาษณ์สื่อและ ผ่านช่องยูทูปเบอร์หลายช่องว่าเขาพบเครื่องดักฟังบนรถ ซึ่งมันผ่านมาเป็นเดือนแล้ว เมื่อคำแนะนำที่ปรึกษากฎหมาย ลุงพล เพิกเฉย ตนก็เลยไม่สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ จึงตัดสินใจยุติหน้าที่ตรงนั้น

 

เมื่อถามว่าเครื่องดักฟังมาจากใคร ซึ่งทนายโนบิตะระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งตนได้ถามหมอปลาว่าเป็นของเขาไหม  หมอปลาก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ จากนั้นตนก็ถามคุณป๊อบปี้ว่าได้ติดตั้งหรือไม่ ซึ่งป๊อบปี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนติดตั้ง ขณะที่น้ำฟ้าก็ยืนยันว่าจะทำไปทำไม มีเหตุผลอะไรต้องทำ 


ในเวลาต่อมา ตนก็เลยติดต่อไปหาป้าแต๋นเพื่อประสานอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น โทรไปช่วงเที่ยงป้าแต๋นไม่ได้รับสาย จึงไลน์ไปบอกว่าได้คุยกับทุกคนแล้ว ทุกคนบอกว่าไม่ได้เป็นคนทำ ก็ให้ป้าแต๋นไปแจ้งความ หรือพูดคุยกับหมอปลา จากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อจากลุงพล หรือป้าแต๋นใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อตนติดต่อไปแล้ว ไม่ยอมติดต่อกลับมา ผมถือว่าผมหมดหน้าที่แล้ว การประสานของตนไม่เป็นผล ก็ขอถอนตัว และประกาศตามหาเจ้าของจีพีเอสตัวจริงมาให้ได้ว่าเป็นใคร

นอกจากนี้ ทนายโนบิตะ ยังระบุด้วยว่า สำหรับเครื่องดักฟังที่ว่า ตนมองว่าไม่ใช่เครื่องดักฟัง เป็นการเอามาดูเป็นรูปภาพที่เปิดจากกูเกิล เป็นจีพีเอส ซึ่งตามความเห็นตนดูแล้วเป็นการใช้เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวสามีมากกว่า กรณีจะฟ้องหย่า จนบอกอย่างงี้กับ ลุงพล เขาก็ยังหัวเราะอยู่เลย

 

ส่วนประเด็น ลุงพล เข้าเครื่องจับเท็จ ทนายโนบิตะ ระบุว่า เป็นการเข้าเครื่องจับเท็จทุกๆ คนที่พนักงานสอบสวนคิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องในคดี มีการให้การในฐานะพยานจำนวนมาก คำให้การมีความขัดแย้งกันหลายประเด็น ตนคิดว่าพนักงานสอบสวนเลยเอาเครื่องจับเท็จมาช่วยวิเคราะห์ในเรื่องความน่าเชื่อถือ

 

ก่อนหน้านี้จำกันได้ไหมที่ ผบ.ตร.แถลงว่า มีการทำลายความน่าเชื่อถือของพยาน มีการให้การในวันนี้ๆ แล้วมีการปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือ เหมือนพยานพูดกลับไปกลับมา ทำให้พยานกลุ่มนั้นขาดความน่าเชื่อถือไประดับนึง 

 

การดึงน้ำหนักพยานกลับมาได้ ต้องอาศัยเครื่องจับเท็จและคำถามที่จะนำมาซึ่งน้ำหนักในการออกหมายจับหรือลงโทษจำเลยได้ จึงเอาความเห็นผู้เชี่ยวชาญมาประกอบ โดยลำพังเครื่องจับเท็จไม่สามารถนำมาลงโทษจำเลยได้ แต่เอามาประกอบกับพยานหลักฐานอื่นเพื่อให้ลงโทษจำเลยได้

 

ทนายโนบิตะ ยืนยันว่า ในความคิดส่วนตัวของตนเอง ตนเชื่อว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ จากการที่ตนได้ลงพื้นที่กับหมอปลา ทั้งนี้แม้สุดท้ายหวยจะไปออกที่ ลุงพล แต่เชื่อว่าเขาจะต่อสู้และเอาความบริสุทธิ์กลับมาได้ 

 

อย่าลืมว่าหมายจับเป็นแค่จุดเริ่มต้นต่อสู้คดี ถ้าหมายจับออกลุงพลไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิด ตราบใดที่ศาลไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด เขาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ดังนั้น ต้องมีการต่อสู้ในกระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป

 

อ่านข่าว : อุ๊บ วิริยะ แตกหัก ลุงพล แฉไม่ไว้หน้า ลั่นเจอกันในศาล

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ