Program Online

รพ.ชี้แจงกรณีสาวขอความเป็นธรรมพ่อตายเพราะรอหมอนาน-ถูกแซงคิว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวขอความเป็นธรรมเรื่องพ่อของตนเองที่เสียชีวิตเนื่องจากรอหมอนาน และถูกคนไข้คนอื่นแซงคิวโดยบอกว่าเคสของพ่อตนเป็นกรณีไม่เร่งด่วน

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jiratchaya Rangsaritwirachot โพสต์เล่าเรื่องพ่อของตนเองที่เสียชีวิตเนื่องจากรอหมอนาน ซึ่งเธอนำพ่อไปโรงพยาบาลแทนที่จะได้เข้าห้องฉุกเฉินเลย กลับกลายเป็นว่าต้องมาต่อคิวทั้งยังมีการปล่อยให้แซงคิวระหว่างรอ 3 คิว รวมทั้งคนไข้ที่มาทีหลังแซงอีก 1 คิว จนพ่อของเธอเสียชีวิต ซึ่งเธอได้นำเรื่องไปร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรม  จ.ยะลา  เพื่อขอรับความเป็นธรรม

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในเวลาต่อมา ทางโรงพยาบาลเบตง ได้ออกมาชี้แจงว่า หลังจากมีเรื่องราวดังกล่าวออกไปได้เรียกประชุมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อหาสาเหตุในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดความดันของผู้ป่วยที่เสียชีวิตเรียบร้อยแล้วความดันขณะนั้นอยู่ที่ 144/ 80 ซึ่งถือว่าปกติ จึงจัดเป็นผู้ป่วยในโซนสีเขียว คือเจ็บป่วยเล็กน้อย จึงได้ให้นั่งคอยตามคิว ส่วนที่ว่ามีการแซงคิว เนื่องจากมีผู้ป่วยอีกคนที่มาทีหลัง แต่ตรวจวัดความดันพบว่าความดันต่ำอยู่ที่ 75/38 ซึ่งถือว่ามีอาการหนักกว่า เป็นผู้ป่วยในโซนสีชมพู คือเจ็บป่วยรุนแรง ส่วนที่มีภาพถ่ายว่าผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีความดันระดับต่ำ อยู่ที่ 75/38 ก็ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นค่าการวัดความดันของผู้ป่วยที่เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าห้องฉุกเฉินไปก่อนหน้านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้กดรีเซตเครื่อง

ต่อมาลูกสาวของผู้ตายบอกเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ ผอ.รพ.เบตง ออกมาให้ข่าวขัดแย้งกับความจริง เพราะตอนที่พาพ่อไปเจ้าหน้าที่อยู่จุดคัดกรอง น่าจะมองเห็นว่าพ่อนั่งรถเข็นมา แต่ก็นั่งรอจนมีคนที่มาหลังแซงคิวไปก่อน จนต้องไปถาม จนท.บอกว่า เป็นหน้าที่ในการคัดกรองผู้ป่วย ว่าใครมีอาการหนัก แต่ในขณะเดียวกันตอนวัดความดัน จนท.บอกว่า ความดันของพ่อ 38 แต่ก็ได้บอกไปว่าไม่ใช่ของพ่อเป็นของคนที่แซงคิวพ่อไป เราก็บอกว่าไม่ใช่ความดันของพ่อ แต่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าใช่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็เอาเครื่องวัดความดันไปทิ้ง เพื่อที่จะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้อีก

 

 

 
คลิปจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ