อินเดีย-ปากีสถาน ยิงตอบโต้หนักหน่วงหวั่นบานปลายสู่สงครามใหญ่

ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานยังไม่สงบแม้ว่าทางด้านปากีสถานได้ปล่อยตัวนักบินของอินเดียกลับแล้ว แต่ทว่าทหารของทั้งสองประเทศยังคงยิงปืนใหญ่ตอบโต้กันจนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่อง ด้านรัสเซียเสนอเป็นคนกลางในการเจรจาเพื่อสงบศึกครั้งนี้

สถานการณ์ตามแนวเส้นควบคุม ( แอลโอซี ) ซึ่งเป็นเขตหยุดยิงในภูมิภาคแคชเมียร์กลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังกองทัพปากีสถานนำตัว น.ท.อภินันทาน วารธามัน นักบินสังกัดกองทัพอากาศอินเดีย มาส่งที่จุดผ่านแดนวากาห์ซึ่งอยู่บนแนวทางชายแดนทางเหนือระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อช่วงกลางดึกของวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังน.ท.อภินันทานถูกควบคุมตัวเป็นเชลยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เมื่อเครื่องบินถูกยิงตกในเขตแคชเมียร์ฝั่งปากีสถานหลังจากนั้นกองทัพของทั้งอินเดีย และ ปากีสถานได้ระดมยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดนตอบโต้กันหลายระลอก ตลอดเวลา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนในเขตแคชเมียร์ฝั่งปากีสถาน แบ่งเป็นทหารและพลเรือนอย่างละครึ่ง ขณะที่ในเขตแคชเมียร์ฝั่งอินเดียมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันทั้งหมด คือมารดาและบุตร 2 คนด้านพล.อ.พิพิน ราวัต ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมอินเดีย ลงพื้นที่เขตอุตมปุระ ในรัฐชัมมูร์และกัศมีร์ เพื่อเตรียมทบทวนมาตรการควบคุมพรมแดนตามแนวแอลโอซีขณะที่ทางด้านกองทัพปากีสถานออกแถลงการณ์ว่าขณะนี้ทุกเหล่าทัพของประเทศพร้อมขั้นสูงสุด

ในขณะที่ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ทั้งสองฝั่งของแนวแอลโอซีอพยพออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวาดกลัวเหตุรุนแรงรอบใหม่ขณะ ทางด้านรัสเซีย ได้เสนอเป็นคนกลาง เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างปากีสถานและอินเดีย แต่ทว่าทางด้านอินเดียยังคงเฉยกับข้อเสนอดังกล่าว ส่วนทางด้านปากีสถาน ได้ตอบรับข้อเสนอเรียบร้อยแล้วชนวนความขัดแย้งครั้งล่าสุดระหว่างอินเดียกับปากีสถานเรื่องแคชเมียร์ หลายคนที่หวั่นเกรงกันว่า มันจะนำพาไปสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่เนื่องจากว่าทั้งสองประเทศนั้นก็มีศักยภาพทางทหารไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านั้น ดังนั้นเวลานี้รัสเซียจึงได้เสนอตัวเพื่อยุติศึกครั้งนี้ไม่ให้บานปลายไปมากกว่านี้