ดูดวงประจำวัน

โหรฟองสนานทำนายดวงชะตา "คนไทยถึงอย่างไรก็เอาเจ้า"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โหรฟองสนานทำนายดวงชะตา "คนไทยถึงอย่างไรก็เอาเจ้า"

โหรฟองสนาน จามรจันทร์ ทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ กำเนิดอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2525 เวลา 06.54 น. ลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ

 

พระอาทิตย์ (๑) เป็นดาวจิตใจสถิตราศีเมษได้มาตรฐานอุจจ์กุมลัคนา

 

กรุงรัตนโกสินทร์ที่ถือกำเนิดโดยการวางเสาหลักเมืองตามพระราชพิธีพระนครฐาน เมื่อวันอาทิตย์ที่21 เมษายน 2325 เวลา06.54น.นั้นลัคนาของเมืองสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ
ตัวลัคนานี้หากเป็นดวงชะตาคนก็คือตัวตนที่เราเห็นๆ กัน แต่ทางโหรนอกจากตัวตนแล้วยังมีเกณฑ์ที่สามารถบ่งบอกถึงจิตใจ ที่เรียกกันว่าตนุเศษได้ อีกต่างหาก-ล้ำลึกขนาดนั้น
สำหรับดวงเมืองรัตนโกสินทร์นี้มีพระอาทิตย์ที่แทนด้วยเลข๑ เป็นดาวจิตใจ โดยสัญลักษณ์ที่โหรรู้กันคือมีเครื่องหมายบวก+อยู่ข้างบน (ตามรูป)

พระอาทิตย์ที่เป็นดาวจิตใจคนในเมืองนี้บอกอาการได้หลายอย่าง เช่นเป็นเมืองที่คนชอบเป็นผู้นำ รักอิสระ เป็นลูกน้องใครไม่ได้นาน ใจร้อนแต่ใจดี อีโก้จัด ทำอะไรเอาโก้เด่นหรูหราหน้าใหญ่ไว้ก่อนฯลฯ แต่วันนี้ผู้เขียนจะให้ความหมายไปอีกแนว เพื่ออธิบายปรากฎการณ์จิตใจคนไทยระหว่างพวกเอา-ไม่เอาสถาบันที่ปรากฎเร็วนี้คือ

 

1.พระอาทิตย์ (๑) ที่เป็นดาวจิตใจของเมืองนี้เป็นดาวตัวแทนคนมียศศักดิ์ ตามโฉลกที่คนเรียนโหรรู้กันคือทายยศศักดิ์ทายอาทิตย์ หรือพูดง่ายๆคือกลุ่มคนที่เป็นเจ้า-กษัตริย์-สมาชิกราชวงศ์ทั้งหลายเป็นจิตใจคนไทย โดยพื้นฐานของเมือง พูดง่ายๆคือเอาเจ้า

 

2.ผู้เขียนอ่านเป็นการส่วนตัวว่าพระอาทิตย์นี้เป็นตัวแทนภพที่ห้าปุตตะ - เด็กๆ ของเมือง - ของพระผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์คือล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 1 พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระอาทิตย์จึงเป็นพระราชสายโลหิตของ ร.1 ที่จะอยู่กับเมืองอย่างโดดเด่น เพราะพระอาทิตย์นี้กุมลัคนาเมืองที่ราศีเมษได้มาตรฐานอุจจุแปลว่าสูง ยากที่ใครจะโค่นล้มได้

 

3.เมืองถือกำเนิดวันอาทิตย์-พระอาทิตย์จึงเป็นดาวบริวารตามหลักทักษาผู้เขียนจึงอ่านว่าบริวารของเมืองจึงพากันมีเจ้าเป็นจิตใจ

 

เอาละในเมื่อการออกแบบให้จิตใจคนในเมืองผูกพันกับเจ้า-กษัตริย์-เจ้านายไว้ถึงสามชั้น แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีแรงหวั่นไหว แกว่งไกว เมื่อมีดาวร้ายมากระทำต่อจิตใจ

 

เฉกเช่นตั้งแต่มีนาคม 2559 มาแล้วที่มฤตยูจร (0) เจ้าของภัยอาเพศ การปฏิวัติ ล้มล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ ความล้ำเลิศ แต่หากมากไปก็เป็นพวกวิตถารเริ่มทับดาวจิตใจของเมือง ซ่องสุมพลังของการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยด้วยเครื่องไม้เครื่องมือล้ำสมัย

 

ครั้นสะสมพลังได้ที่แล้วรอเพียงเกณฑ์ร้ายอื่นมาผสมโรงก็ระเบิดตูมตามออกมาตั้งแต่ 18 สิงหาคม 2563 พรรคก้าวไกลหงายไพ่ขอแก้รัฐธรรมนูญหมวด 1-2 อันเป็นหมวดว่าพระมหากษัตริย์ท่ามกลางความงงงันของคนในเมืองส่วนใหญ่

 

หลังจากนั้นขบวนการปฎิรูปสถาบันก็ออกมากันแบบชวนตะลึงตามอาการของมฤตยู แยกไม่ออกว่าจะไล่นายกฯหรือปฎิรูปสถาบัน มีออกแนวก้าวร้าวรุนแรงแบบวิตถารก็มากชนิดเหลือเชื่อตั้งแต่ชูสามนิ้ว - โบว์ขาว - คณะราษฎร์ 2563 - ล้อเลียน ฯลฯ

 

แต่หลังจากหายตะลึงแล้วอีกฝ่ายที่จิตใจผูกพันกับเจ้าก็เริ่มเอาคืน - ออกพลังต้าน - รวมกันติดตั้งแต่วันที่มฤตยูจรเริ่มเดินถอยหลังคือ 15 กันยายน 2563 นำโดยอาจารย์แก้วสรร อติโพธิ และศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ตามด้วยจิตใจคนไทยที่ผู้พันกับเจ้าก็เริ่มแสดงพลัง

 

ชัดเจนที่สุดคือวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ที่ในหลวง พระราชินี เสด็จแวะเยี่ยมพสกนิกรที่เข้าเฝ้าพร้อมเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ และเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ข้างกำแพงพระนคร หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลวันปิยมหาราชที่กระหึ่มไปทั่ว ด้วยประโยคที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ชาติไทย เรียกว่ามาแบบมฤตยูเหมือนกันคือ "ในหลวงสู้ๆ"

 

และอีกหนึ่งคืนที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ เป็นข่าวไปทั่วโลกคือการที่ทรงแวะเยี่ยมพสกนิกรที่เฝ้าแหนเหลืองอร่ามงามตามากมายมหึมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ในการเสด็จฯทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกฎ ประเด็นคือระหว่างกลุ่มคนเอาเจ้า - อย่างไรก็จงรักภักดีกับคนไม่เอาเจ้าจะปฏิรูปสถาบันอะไรจะเกิดขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

ผู้เขียนคาดคะเนตามหลักที่ อ.เทพย์ สาริกบุตรให้ไว้คือการเกิดของยุคที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่เริ่มปรากฎปลายขอบฟ้าตั้งแต่ 2 มีนาคม 2562 และจะยาวนานไปอีก 20 ปีนี้ พวกเราอาจต้องยืนระยะยาวให้มั่นคงต่อสู้เพื่อรักษาสถาบันหลักของชาติไว้

 

แต่ข่าวดีคือ ไม่ว่าจิตใจคนบางกลุ่มจะผันแปรไปอย่างไร ต้องการเห็นสถาบันเป็นแบบไหนแแต่เมื่อการต่อสู้ผ่านพ้นไปแล้ว ถึงอย่างไรสถาบันพระมหากษัตริย์ก็อยู่กับดวงเมืองตลอดไป และจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ก็จะยังอยู่กับเจ้าหรือสถาบันที่ก็คงเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยตลอดไป อย่างที่เราเห็นได้ประจักษ์กับตากันแล้ว เพราะพื้นฐานดวงเดิมดวงเมืองเป็นแบบนี้ สุดท้ายก็จะกลับเป็นไปตามพื้นฐานเดิมจนกว่าจะไม่มีกรุงรัตนโกสินทร์

 

 

 

 

 

 

CR เฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ