ข่าว

'เจ้าสัวใหญ่' จอมจุ้น ขอเก้าอี้อธิบดีสรรพสามิต

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3490 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ค.2562 โดย...พรานบุญ

‘เจ้าสัวใหญ่’ จอมจุ้น

ขอเก้าอี้อธิบดีสรรพสามิต

 

            เข้าทำงานในตำแหน่ง “วายุภักษ์ 1” ไม่ทันรัย...หัวกระได “ขุนคลัง” อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่เคยแห้ง เพราะหมู่มิตรมากมายต่างขอแสดงความยินดี

            หลายคนไม่ค่อยรู้จัก ขุนคลังอุตตม รู้แต่เพียงว่าเป็น “มือทำงานให้ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีมายาวนาน บางคนรู้แต่ว่าเป็นอาจารย์ เป็นนายธนาคาร เป็นรัฐมนตรี

            ในความเป็นจริงแล้ว “อุตตม” คือทายาทสายตรง มหาอำมาตย์เอก มหาเสวกเอก เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือครูเทพ ผู้วางรากฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและอาชีวศึกษา ผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้นำกีฬาฟุตบอลมาเผยแพร่ในประเทศไทย

            เป็นพระยาธรรมศักดิ์มนตรีผู้ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง รับใช้บ้านเมืองยาวนานมาถึงวัย 47 ปีก็ลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญมาช่วยสอนในโรงเรียนสตรีจุลนาค ซึ่ง “คุณไฉไล เทพหัสดิน ณ อยุธยา” บุตรีครูเทพจัดตั้งขึ้นที่บ้านหลานหลวง

            เป็นพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ผู้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกในระบอบประชาธิปไตยระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 1 กันยายน 2475 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ช่วงหนึ่งก่อนกลับไปนั่งเป็นประธานรัฐสภาอีกครั้ง ในปี 2476

            เป็น “ครูเทพ” ผู้ก่อตั้งโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย และโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ เชียงใหม่

            ใครที่ปรามาสว่า “อุตตม” ไร้เดียงสาทางการเมือง คงต้องเปลี่ยนวิธีคิด เพราะครอบครัวนี้รู้รสชาติ ตื้นลึกหนาบางทางการเมืองของประเทศนี้มาทางสายเลือด

            ขนาด ส.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ยังต้องยกพล ข้าราชการ ทีมที่ปรึกษามาเยี่ยมเยียนเพื่อแสดงความยินดี ถึงอาคารริมคลองประปา...เพราะนี่คือทายาทคนที่ 2 ในตระกูลที่ก้าวขึ้นมาเป็นเสนาบดีอีกคน

            งานขับเคลื่อนนโยบายระยะสั้นที่ใช้งบประมาณมาดูแลเศรษฐกิจ มาตรการลดความเหลื่อมลํ้า การแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน การจัดสินเชื่อให้เอื้อต่อการเข้าถึงของประชาชน ผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการรายย่อย เติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จัดเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ เบี้ยผู้พิการ ครอบคลุมไปยังกลุ่มมารดาตั้งครรภ์ และเด็กแรกเกิด ยันเพิ่มค่าแรง ตลอดจนพิจารณาปรับลดภาษี มิใช่ปัญหา...ขุนคลังมหาอุตฯพร้อมจัดให้

            แต่ที่มหาอุตฯ ทำไม่ได้คือ เข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีไม่ทันรัย มีการร้องขอจาก “เจ้าสัวใหญ่” ให้ย้ายคน ย้ายอธิบดีเสียแล้ว....อัยหยา..อาเฮีย

            พรานฯท่องไพรในยุทธภพยังได้ยินเสียงรํ่าลือว่าบรรดาข้าราชการระดับสูงอย่างน้อย 4 คน วิ่งฝุ่นตลบเพื่อก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้อธิบดี...หึหึ

            บางคนไม่ดูตาม้าตาเรือ ขอกำลังบารมีนายทุนระดับเจ้าสัวช่วยล็อบบี้ให้รัฐมนตรีย้ายอธิบดีหนุ่มที่ก้าวขึ้นมาพรวดพราดระยะเวลา 2-3 ปี นั่งอธิบดีมาแล้วถึง 2 กรม แซงหน้าตัวเองไปหลายช่วงตัว...ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย....ในความคุ้นเคย..เขาใช้งานกันอยู่...555

            อีเก้ง นังกวาง บ่าง ชะนี ร้องโหวกเหวกว่า ปี่กลองการโยกย้ายข้าราชการยังไม่ทันเชิด รัฐมนตรีต้องง่วนอยู่กับการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ดั๊นมีคนอาศัยพลังข้างนอกดอดมาเดินเกมเรื่องโยกย้ายข้าราชการ เพื่อจัดคนของตัวเองเข้าสู่ตำแหน่งหลัก...

            เป็นการเดินเกมแต่เนิ่นๆ เพราะปีนี้จะมีข้าราชการระดับสูง และระดับอธิบดีเกษียณอายุในเดือนตุลาคมนี้ 4 คน รองปลัดกระทรวง 1 คน อธิบดีกรมใหญ่ 2 กรม ผู้ตรวจราชการอีก 1 คน ไล่เลียงไปดังนี้

            นรินทร์ กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ที่ถูกโยกมาจากกรมศุลกากร และรอเข้าสู่ตำแหน่งอธิบดีมาร่วม 5 ปี เกษียณอายุ

            สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้ก้าวพรวดขึ้นตามสายงานเป็นอธิบดีมาตั้งแต่ปี 2559 แทนที่มนัส แจ่มเวหา ต้องอำลาราชการในวัย 60 ปีบริบูรณ์

            อำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้เห็นแผนที่ราชพัสดุประดุจฝ่ามือตัวเอง เป็นลูกหม้อและเฝ้ารอเก้าอี้อธิบดีมาร่วม 7 ปี เป็นอธิบดีได้ปีเศษก็เกษียณตุลาคมนี้

            คนต่อมาคือ ญาใจ พัฒนสุขวสันต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง

            แน่นอนว่า ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลังนั้น มิมีผู้ใดพึงประสงค์ แต่ตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง ที่ทำหน้าที่เหมือนผู้ควบคุมบัญชีรายรับ รายจ่าย การเบิกงบประมาณ การกำหนดเงื่อนไขจิปาถะที่เกี่ยวกับเงินและทองของประเทศย่อมเป็นที่พึงประสงค์

            เช่นเดียวกับตำแหน่ง อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่ถือว่าเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของประเทศทั้งหมดกว่า 500,000 ไร่ ทำรายได้อยู่ที่ปีละ 9,000-10,000 ล้านบาท ถือว่ายอดเยี่ยมกระเทียมเจียว

            แต่ไม่เท่ากับความพยายามในการขอให้สลับสับเปลี่ยนเก้าอี้อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่อธิบดีหม่อง-พชร อนันตศิลป์ นั่งอยู่ เพื่อจับมือของตัวเองมาทำงาน..ไอ้หยา...

            ทำไมถึงอยากให้มีการสลับขั้วกับใครบางคน....พรานฯมาดูกรมสรรพสามิตนะครับ กรมนี้ถือว่าเป็นมือสำคัญของรัฐบาลในการจัดเก็บภาษีภายในประเทศปีละอย่างน้อย 5.9-6.22 แสนล้านบาท เก็บมาจากไหนนะหรือครับ ภาษีเหล้า เบียร์ ไวน์ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ยาสูบ เครื่องใช้ไฟฟ้า แบตเตอรี่ อาบอบนวด ยันเครื่องดื่มนํ้าหวาน

            แล้วไผที่อยู่ในโผที่จะขึ้นอธิบดีกันล่ะพ่อพรานฯ อีเก้ง อีเห็น ซักถามมาตามพงไพร

            พรานฯไปไล่ดูแล้ว ระดับรองปลัดกระทรวงที่รอนั่งอธิบดีมานาน มี 2 หน่อเท่านั้น หนึ่งคือ “รองจุ๋ม”จุมพล ริมสาคร รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้าภารกิจด้านทรัพย์สิน อดีตรองอธิบดีกรมสรรพสามิต ปัจจุบันเป็น กรรมการของธนาคารทีเอ็มบี กรรมการ ปตท. เกิด 13 ตุลาคม 2503 นั่นหมายความว่า จะเกษียณอายุราชการอีก 2 ปี รองจุ๋มนั้นมานั่งรอในเก้าอี้อธิบดีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โน่น

            พ้นจากนั้นรองจุ๋มก็มี “รองหยิม-ยุทธนา หยิมการุณ” อดีตรองอธิบดีกรมศุลกากร มือปราบด้านภาษีและมือดีด้านการจัดการ ย้ายมานั่งเป็นผู้ตรวจราชการมาหลายปี ก่อนขึ้นเก้าอี้รองปลัดกระทรวง

            2 รองปลัดกระทรวงนี้ รอมาหลายปี รุ่นน้องก้าวแซงหน้าพรวดพราดเป็นอธิบดีกันหมดแล้ว

            ที่เหลือเป็นผู้ตรวจราชการรุ่นหลัง ไม่ว่า จำเริญ โพธิยอด หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ชุณหจิต สังข์ใหม่ ผู้ตรวจราชการ ที่ก้าวขึ้นมารอ แพตริเซีย มงคลวนิช อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ผู้ตรวจราชการ วิไล ตันตินันท์ธนา ตลอดจน บุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง...

            คนเหล่านี้แหละที่มีโอกาส... แต่ใครล่ะที่เจ้าสัวใหญ่พิศวาท อยากดันก้นให้ขึ้นนั่งอธิบดีสรรพสามิต!ไปหาเอาเอง...พรานฯขอไปท่องไพรยิงนกตกปลาดีกว่าวุ้ย...เขาห้ามเขียนอ่ะ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ