
สรุปข่าวเด่น ประเด็นร้อน ปี 2568 แผ่นดินไหว น้ำท่วม เหตุปะทะชายแดน
สรุปข่าวเด่น ประเด็นร้อน ปี 2568 แผ่นดินไหว ตึกถล่ม - มหาอุทกภัยหาดใหญ่ จมบาดาล - คดี "สีกากอล์ฟ" เขย่าศรัทธาวงการสงฆ์ และเหตุปะทะชายแดน
ปีมะเส็ง 2568 ดุแรง มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คดีดังเกิดขึ้นมากมาย ทั้งในแวดวงสังคม ข่าวเหตุการณ์ภัยพิบัติ แผ่นดินไหว น้ำท่วม รวมไปถึงวงการสงฆ์ "คมชัดลึกออนไลน์" สรุปมาให้แล้ว ครบจบที่นี่
1. โศกนาฏกรรมตึก สตง. แห่งใหม่พังถล่ม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.25 น. อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังใหม่ สูง 33 ชั้น ย่านจตุจักร ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ พังถล่มลงมาทั้งหมด สาเหตุเกิดจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ขนาด 7.4-7.7
ความสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตรวม 95 ราย รอดชีวิตเพียง 9 รายเท่านั้น ปฏิบัติการกู้ภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากความสูงเดิมของอาคาร 137 เมตร กลายเป็นกองซากปรักหักพังที่อัดแน่นสูงกว่า 26 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้สุนัข K-9 ค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ เพื่อนำไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พบข้อบกพร่องหลายประการ อาทิ ค่ากำลังอัดคอนกรีตจากผนังรับแรงเฉือนต่ำกว่าเกณฑ์ ระยะฝังเหล็กเสริมบริเวณจุดต่อ Link Beam กับผนังรับแรงเฉือนน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้จุดต่อโครงสร้างอ่อนแอ และการพังถล่มเริ่มจากชั้นล่างของอาคาร
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลรวม 23 ราย โดยมีการออกหมายจับกลุ่มผู้บริหารและวิศวกรผู้ควบคุมงาน ซึ่งรวมถึงชื่อของนายเปรมชัย กรรณสูต และผู้บริหารจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิดฐานปลอมเอกสาร
ทั้งนี้ สตง.ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ให้ความร่วมมือและส่งมอบเอกสารแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งตำรวจ DSI ป.ป.ช. และกรมบัญชีกลาง ขณะที่ DSI ได้ดำเนินคดีในส่วนความผิดตามกฎหมายคนต่างด้าวและฮั้วประมูล ส่วนประเด็นทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ อยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.
2. คดี "สีกากอล์ฟ" เขย่าศรัทธาวงการสงฆ์
วิกฤตศรัทธาวงการสงฆ์ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ "ทิดอาชว์" หรือ อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ลาสิกขากะทันหันในเดือนมิถุนายน 2568 นำไปสู่การขยายผลจับกุม น.ส.วิลาวัลย์ หรือ "สีกากอล์ฟ" หญิงวัย 35 ปี ที่บ้านหรูย่านปากเกร็ด พบหลักฐานเด็ดเป็นคลิปวิดีโอและภาพถ่ายความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระผู้ใหญ่กว่า 80,000 ไฟล์ในโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง
พฤติกรรมอื้อฉาวของสีกากอล์ฟ เข้าไปมีสัมพันธ์กับพระชั้นผู้ใหญ่ จนต้องลาสิกขาถึง 13 รูป โดยเป็นพระราชาคณะ "ชั้นเทพ" ถึง 6 รูป รวมถึงอดีตเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสำคัญในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และวัดโสธรวราราม
เส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟมีความน่าตกใจอย่างยิ่ง โดยพบเงินหมุนเวียนในบัญชีสูงถึง 385 ล้านบาท ซึ่งได้รับการโอนจากพระผู้ใหญ่และคนสนิท แม้เธอจะอ้างว่าเป็นเงินที่ได้รับการ "เปย์" โดยเสน่หา แต่จากการสอบสวนพบการโอนเงินจากบัญชีของวัดเข้าบัญชีส่วนตัวของเธอด้วย
ปัจจุบันสีกากอล์ฟ ถูกคุมตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง โดยถูกแจ้งข้อหาหนัก ทั้งสนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์, สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, รับของโจร และสมคบกันฟอกเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
3. ข่าวฉาว "คุกวีไอพี" เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ปฏิบัติการ "ล้างบางคุก VIP" เริ่มต้นจากการบุกจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในเดือนพฤศจิกายน 2568 หลังได้รับการร้องเรียนจากนักโทษไทย ถึงความเหลื่อมล้ำในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้นักโทษกลุ่ม "จีนเทา" ให้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายภายในแดนขัง
สิ่งที่ตรวจพบภายในห้องขังสร้างความตกตะลึงให้กับชุดจู่โจม เนื่องจากพบสิ่งของต้องห้ามประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย ทั้งเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ ตู้เย็น และไมโครเวฟ ซึ่งถูกนำเข้ามาโดยอ้างว่าเป็นของบริจาค นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์แอบพานางแบบสาวต่างชาติเข้าพบในพื้นที่ลับภายในเรือนจำ เพื่อปรนนิบัติกลุ่มจีนเทา
จากประเด็นนี้ส่งผลให้มีคำสั่งย้ายด่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รวม 20 นาย ออกนอกพื้นที่ทันทีเพื่อเปิดทางให้สอบสวน โดยมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว 6 นาย ซึ่งรวมถึงระดับผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง ขณะที่อดีตผู้บัญชาการเรือนจำ ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ตรวจราชการกรม เนื่องจากมีส่วนรับรู้แต่ไม่ดำเนินการแก้ไข
4. มหาอุทกภัยหาดใหญ่ จมบาดาล
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 โดยมีปัจจัยหลักมาจากปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิด "ฝนตกแช่" (Stagnant Rainfall) ต่อเนื่องยาวนาน
สถานการณ์ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็วเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของหาดใหญ่ ที่เป็นแอ่งรับน้ำจากคลองอู่ตะเภา ทำให้น้ำหลากเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจและชุมชน บางจุดน้ำท่วมสูงเกิน 3 เมตร จนมิดชั้นล่างของอาคารบ้านเรือน และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 145 ราย
ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักคือความผิดพลาดในการแจ้งเตือนภัย โดยเทศบาลนครหาดใหญ่ประกาศ "ธงแดง" ล่าช้าในขณะที่น้ำเริ่มเข้าท่วมพื้นที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ประเมินความเสียหายหลังสถานการณ์น้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ กว่า 2 หมื่นล่าน และคาดว่า จะต้องใช้เวลา 3 เดือน เศรษฐกิจหาดใหญ่ถึงจะกลับมาฟื้นตัวได้
5. เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
ความตึงเครียดสะสมจากการที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดหลายครั้งจนบาดเจ็บสาหัส นำไปสู่การปะทะด้วยอาวุธหนักตลอดแนวชายแดน รอบแรกเมื่อช่วงวันที่ 24–28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ส่งผลให้ทหาร เสียชีวิต 15 นาย บาดเจ็บ 196 นาย ส่วนพลเรือน เสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บ 38 ราย
ส่วนการปะทะรอบที่ 2 เมื่อช่วงวันที่ 7 ธันวาคม 2568 กระทบต่อ 7 จังหวัด ของไทย ได้แก่ อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, สระแก้ว, จันทบุรี และตราด ซึ่งมีการสู้รบและกระทบต่อพื้นที่ชายแดนในหลายจุด ทำให้ต้องอพยพประชาชนและปิดโรงเรียนบางส่วน เพื่อความปลอดภัยจากเหตุการณ์ยิงปะทะ และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตกในพื้นที่
การปะทะครั้งที่ 2 ไทยสูญเสียกำลังพลทหาร อีก 27 นาย ประชาชนเสียชีวิต จากการโจมตีของกัมพูชา 1 ราย และบาดเจ็บ 13 ราย
กระทั่งล่าสุด 27 ธันวาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนาม "หยุดยิงทันที" ในที่ประชุมจีบีซี (GBC) โดยไทยกำหนดเงื่อนไขเฝ้าสังเกตการณ์ 72 ชั่วโมง ก่อนจะส่งคืนเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย



