
"ร.ท.หญิง" ร้องปวีณา ทหารนอกราชการ ยศ "พล.ท." ทำร้ายร่างกาย-ชำเรา
"ร.ท.หญิง" ร้องปวีณา ถูกทหารนอกราชการ ยศ "พล.ท." ทำร้ายร่างกาย อุ้มจากร้านอาหาร ไปชำเรา
26 ธ.ค. 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. ทหารหญิงยศ "ร.ท." อายุ 29 ปี เข้าร้องเรียน ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังถูกนายทหารนอกราชการ ยศ "พล.ท." อายุ 63 ปี ทำร้ายร่างกาย และชำเรา มานานกว่า 6 ปี
ร.ท.หญิง เล่าว่า เมื่อปี 2563 ตนเองยังเป็นนักศึกษาปี 4 ครอบครัวฐานะยากจน จึงต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย และได้ไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทำให้ได้พบกับ "พล.ท." ที่มาทานอาหารกับกลุ่มเพื่อน วันดังกล่าว "พล.ท." ให้ทิปหนัก 10,000 บาท ก่อนจะให้ลูกน้องมาขอไลน์ และวันต่อมามีชวนไปทานข้าว และซื้อรถเก๋งให้ตนเอง 1 คัน จากนั้น "พล.ท." ได้แอบมีความสัมพันธ์กับตน
เวลาสังสรรค์กับเพื่อนเขา จะให้ตนไปคอยชงเหล้า รับใช้ คอยสั่งการชีวิตหนูทุกอย่าง และหึงหวง ไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้คุยกับผู้ชายหรือแม้กระทั่งเพื่อนที่เป็น LGBTQ+ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนต้องเป็นทาสรับใช้ เวลาอยู่กับเขาก็ต้องทำทุกอย่างคอยเอาใจ ทำความสะอาดห้อง ซักผ้า รีดผ้า ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจก็จะถูกทุบตี เขาจะคอยบังคับให้อยู่ในกรอบ ถ้าจะไปไหนต้องบอกตลอดเวลา ถ้าเขาแชตไลน์มาแล้วไม่อ่าน หรืออ่านช้า หรือโทรมาไม่รับสายก็จะถูกด่า และเมื่อเจอหน้าก็จะตบตีทำร้าย
ร.ท.หญิง เล่าต่อว่า เคยถูก "พล.ท." ทำร้ายหลายครั้ง จนต้องเข้าโรงพยาบาล สุดท้ายเขาสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายอีก และซื้อคอนโดฯ ให้ 1 ห้อง เพื่อเป็นการปลอบใจ แต่เขาก็ผิดคำพูด เวลาไม่พอใจยังทำร้ายทุบตีเหมือนเดิม ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ตนต้องทนทุกข์ จนทนไม่ไหวขอแยกทางไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยตั้งแต่กลางปี 2568 แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย ตามคุกคามเรื่อยมา ทั้งจะพังประตูห้อง เอากุญแจมาคล้องประตู หยอดกาวกุญแจประตู และหยอดกาวประตูรถ และจะแชทไลน์มาหาอยู่บ่อยครั้ง
ต่อมาช่วงเดือน ต.ค. 2568 ก็ถูก "พล.ท." ทำร้ายอีก ซึ่งเขาบอกว่าถ้าตนโอนคืนคอนโดฯ ให้เขาแล้วจะเลิกยุ่ง ตนจึงโอนคืนไปทั้งหมด แต่เขายังตามคุกคามอีก โดยเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2568 เขามาพังประตูห้อง ตนแจ้งตำรวจ สน.เตาปูน มาระงับเหตุ เขาอับอายมาก เลยเตะตนเองอย่างแรงอีก ต่อหน้าตำรวจ และยังหันไปข่มขู่ตำรวจ อ้างว่ารู้จักตำรวจใหญ่
ครั้งล่าสุด 21 ธ.ค. 2568 เขาโทรมาหา บอกว่าหย่ากับเมียแล้วจะไปอยู่ต่างประเทศ ขอเจอเป็นครั้งสุดท้าย โดยนัดพบที่ร้านอาหารย่านบางพลัด ตนเองใจอ่อนและตั้งใจเอาพวงมาลัยไปไหว้ขอขมา จึงเดินทางไปที่ร้านอาหารพร้อมกับน้องสาว ขณะอยู่ที่ร้านอาหารเขาได้ชวนดื่มไวน์ ตนกับน้องดื่มไวน์ไป 2 แก้ว รู้สึกเมาผิดปกติ จากนั้นเขาบอกว่ามีของขวัญจะให้ เมื่อเดินไปเปิดท้ายรถ SUV ก็ถูกผลักขึ้นรถ และชกต่อยกดลงกับพื้น ใช้สายรัดเคเบิ้ลไทร์มัดมือทั้ง 2 ข้าง
ระหว่างนั้นก็เห็นชายสวมหมวก "ไอ้โม่ง" มาขับรถให้เขา ก่อนจะพาตนไป เมื่อไปถึงโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เขาจะลากตนลงจากรถ แต่ตนส่งเสียงกรีดร้องจนพนักงานต้อนรับ กลัวว่าจะมีปัญหาจึงไม่ยอมเปิดห้องให้ จากนั้นเขาก็พาตนขึ้นรถไปที่โรงแรมม่านรูดอีกแห่ง ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก กระทั่งมารู้ทีหลังว่า "ไอ้โม่ง" ที่ขับรถให้เขาคือ นายทหารยศ "ร.อ." ที่เป็นลูกน้องของเขา
ตนพยายามดื้นรนขัดขืนแต่ถูกเขา 2 คน ลากไปที่เตียงนอน โดย "ร.อ." ถอดกางเกงตนแล้วก็ยืนดู จากนั้น "พล.ท." ก็ชกต่อยใบหน้าและลำตัว ระบายความโกรธด่าตนว่า "แจ้งความใช่มั้ย" ก่อนจะลงมือกระทำชำเรา หลังก่อเหตุเสร็จ พล.ท. และ ร.อ. ขับรถมาส่งตนที่ร้านอาหาร ตนจึงรีบไปหาหมอ และไปแจ้งความทันที
เมื่อเขารู้ว่าตนไปแจ้งความ ได้โอนเงินมาให้น้องของตน 3 หมื่นบาท บอกเป็นค่ารักษาพี่สาว และโอนมาให้ตนอีก 5 หมื่นบาท บอกให้เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องนอนโรงพยาบาล ซึ่งตนไม่ต้องการ จึงได้โอนเงินคืนไปหมดแล้ว และต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม จึงมาร้องขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ หนูต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
หลังรับเรื่อง "ปวีณา" ประสาน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. นัดหมายวันที่ 26 ธ.ค.68 เวลา 14.00 น. เพื่อพา "ร.ท.หญิง" เดินทางไปที่สน.บางพลัด เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการไล่ภาพเส้นทางวันเกิดเหตุ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามความคืบหน้าคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป



