
จับตา! 22 ธ.ค. นี้ ไทย-กัมพูชา ตอบรับเข้าร่วมประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
จับตา! 22 ธ.ค. นี้ ไทย-กัมพูชา ตอบรับ "อันวาร์" เข้าร่วมประชุม รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ด้าน ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ แจงชัด จะนำไปสู่การหยุดยิงได้หรือไม่?
จากกรณี นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์ข้อความล่าสุด ว่า ได้มีโอกาสเชื่อมต่อกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับหลักสูตรที่ดีที่สุดในการลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ โดย 22 ธ.ค. นี้ เปิดเวทีให้ไทย-กัมพูชา เจรจาสร้างสันติ
21 ธ.ค. 2568 เมื่อเวลา 12.00 น. ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ตอบข้อซักถามกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
ผู้ริ่เริ่มและเสนอให้มีการประชุมครั้งนี้ คือ "ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม" นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน เสนอให้จัดการประชุม ASEAN Foreign Ministers’ Meeting เพื่อเปิดเวทีหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค. 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชา ได้ตอบรับการเข้าร่วมการประชุมเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเทศอื่น ๆ กำลังทยอยยืนยันการเข้าร่วม โดยส่วนใหญ่เป็นการเข้าร่วมในระดับรัฐมนตรี
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ประชาคมระหว่างประเทศมีความคาดหวัง ว่าเป็นโอกาสรับฟังท่าทีและความคิดเห็นของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา รวมทั้งหารือเกี่ยวกับแนวทางที่จะลดความตึงเครียดในบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา
สำหรับบทบาทของอาเซียน ยึดถือหลักการสำคัญที่จะไม่แทรกแซงในกิจการภายในของประเทศสมาชิก อย่างไรก็ดี ประเทศอาเซียนสามารถปรึกษาหารือกันได้อย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่มีความห่วงใยร่วมกัน เพื่อสนับสนุนแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ถามว่า การประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ สามารถใช้ในการกดดันไทยได้หรือไม่
ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ระบุว่า ไม่ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด
- ส่วนการประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การหยุดยิงได้หรือไม่
ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ระบุว่า การหยุดยิงจะเกิดขึ้นได้จากการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ของกองทัพไทยเป็นสำคัญ และเนื่องจากกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มการปะทะในครั้งนี้ กัมพูชาจำเป็นต้องแสดงความจริงใจในการหยุดยิงอย่างชัดเจนก่อน สำหรับฝ่ายไทย มีความปรารถนาตั้งแต่ต้นให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืน แต่สันติภาพที่ยั่งยืนต้องมาพร้อมกับความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ในการประชุมครั้งนี้ ไทยจึงต้องการเห็นความจริงใจของฝ่ายกัมพูชา เพื่อหาแนวทางที่จะนำไปสู่การลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ธ.ค. 2568 เป็นโอกาสที่ไทยจะได้แสดงจุดยืน และชี้แจงท่าทีบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและหลักฐาน รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ของหน่วยงานความมั่นคงเป็นสำคัญ ไทยปรารถนาให้เกิดสันติภาพ แต่สันติภาพที่ยั่งยืนต้องมาพร้อมกับความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน



