
ครอบครัวจ่าเริง สุดดีใจหลังได้รับการยืนยันว่าพบร่างจ่าเริง
ครอบครัวจ่าเริง ดีใจปนน้ำตาหลังได้รับการยืนยันว่าพบร่างของจ่าเริงแล้วเตรียมนำร่างส่งกลับบ้านพรุ่งนี้ พร้อมฝากขอบคุณทหารไทยที่ยึดเนิน 350 ได้สำเร็จ
วันที่ 20 ธ.ค.68 หลังจากครอบครัวของจ่าสิบเอกสำเริง หรือจ่าเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทหารสังกัด ร.23 พัน. 3 ที่เสียชีวิตจากการปะทะพร้อมกับพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัด ร.23/3 ในวันที่ 16 ธ.ค.บริเวณเนิน 350 ใกล้กับปราสาทตาควาย ต.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้เฝ้ารอรับร่างของจ่าเริง เพื่อมาทำบุญตามประเพณีที่บ้านเกิด แต่ไร้วี่แววเพราะยังมีการปะทะกันอย่างหนักบนเนิน 350 ทำให้ไม่สามารถนำร่างของทหารกล้าทั้งสองลงมาจากเนินได้
ในเวลาต่อมาพลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ อดีต รมช.กลาโหม ได้เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวจ่าเริง โดยได้ย้ำในเชิงปลอบใจว่าขอให้ปฏิหาริย์มีจริงคือ จ่าเริง อาจยังมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งครอบครัวจ่าเริง เริ่มทำใจได้เรื่องการรอเวลาเอาร่างออกจากเนิน 350 และหันไปให้กำลังใจทหารให้ยึดเนิน 350 ให้ได้โดยเร็ว ส่วนร่างของจ่าเริง จะได้ตอนไหนครอบครัวไม่ติดใจแล้ว
ล่าสุด นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของจ่าเริง พร้อมยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ร่างของจ่าเริง ได้ถูกนำลงมาจากเนิน 350 แล้ว มีกำหนดจะส่งศพมาที่วัดในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.)
ทำให้นางอุ่น คลังประโคน อายุ 79 ปี แม่ของ จ.ส.อ.สำเริง และครอบครัวหลังทราบข่าวและได้รับการยืนยันจากทหาร ต่างโอบกอดกันด้วยความดีใจที่ปะปนไปด้วยความเจ็บปวด เพราะก่อนหน้านี้ทั้งลุ้นให้เกิดปาฎิหาริย์ว่ายังรอดชีวิต ทั้งต้องรอร่างที่ไม่สามารถนำออกจากสนามรบได้
นางสาวชงโค คลังประโคน อายุ 48 ปี พี่สาวของจ่าเริงกล่าวว่า ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าได้พบร่างของน้องชายกับพลทหารที่รบด้วยกันและได้นำร่างลงมาจากเนินแล้ว ยอมรับว่าพูดอะไรไม่ออกจากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่เราเฝ้ารอก็มาถึง
ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติภารกิจนี้ได้สำเร็จตามที่น้องชายได้ตั้งปฎิภาณเอาไว้ว่าจะต้องยึดเนิน 350 ให้ได้เพราะน้องชายต้องการตรงนี้มาก ถือว่าเป็นความสำเร็จพร้อมกับนำร่างของน้องกลับมาได้ เมื่อย้อนหลังทำไมน้องชายถึงไม่ยอมมาสักที คิดว่ารอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เสร็จสิ้นแล้วน้องถึงได้ยอมลงมาซึ่งมันตรงกับที่น้องตั้งใจเอาไว้



