
แม่ช็อก! เข้า รพ. ทราบข่าวร้าย "พลทหาร ภานุพัฒน์" พลีชีพที่เนิน 350
แม่ช็อก! เข้าโรงพยาบาล หลังทราบข่าวร้าย "พลทหาร ภานุพัฒน์" พลีชีพที่เนิน 350 น้องสาวร่ำไห้ วอนขอชีวิตพี่ชายกลับคืนมา
จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านสมรภูมิเนิน 350 ใกล้กับปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 68 ส่งผลให้ฝ่ายไทยสูญเสียกำลังพลทหาร อีก 2 นาย ได้แก่ จ.ส.อ.เริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน.3)
17 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังครอบครัวทราบข่าวร้าย แม่ของพลทหาร ภานุพัฒน์ ถึงกับช็อกเข้าโรงพยาบาล ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
นางพิชญ์สินี เสาร์สา อายุ 41 ปี มารดาของพลทหารภานุพัฒน์ เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน โดยพลทหารภานุพัฒน์ เป็นลูกชายคนโต สมัครเป็นทหารผ่านระบบออนไลน์ ตอนอายุ 18 ปี ปกติลูกชายจะโทรศัพท์มาหาแม่เกือบทุกวัน แต่ครั้งนี้ขาดการติดต่อไปนานถึง 2 วัน
ล่าสุดที่ได้พูดคุยกัน ลูกบอกว่ากำลังขนระเบิดขึ้นแนวหน้า และหลังจากนี้จะมีการรบกันอย่างหนัก พร้อมพูดกับแม่เสมอว่า แม่ต้องเผื่อใจไว้ หากลูกเป็นอะไรไป แม่ต้องเข้มแข็ง
ความฝันของลูกชาย คืออยากเป็นทหารและเรียนต่อ เพื่อให้มียศมีตำแหน่งที่สูงขึ้น และหวังอยากเป็นเสาหลักหาเงินส่งเสียน้องทั้ง 2 คน ให้ได้เรียนหนังสือจนจบสูง ๆ ขณะเรียนอยู่ชั้น ม.2 ลูกชายเคยถูกเพื่อนแกล้งจนต้องออกจากโรงเรียน และไปเรียนต่อในระบบ กศน. ด้วยความหวังอยากมียศมีตำแหน่ง และอยากเป็นนายสิบ แม่จึงแนะนำให้สมัครเป็นทหารผ่านระบบออนไลน์
นิสัยของลูกชายเป็นคนดี ชอบดูแลครอบครัว ดูแลน้อง ๆ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือปัญหากับใคร ก่อนที่จะเสียชีวิตจากเหตุระเบิด ไม่ถึง 1 เดือน ลูกชายเคยฝันและมาเล่าให้แม่ฟังว่า ฝันเห็นผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้านมาหาและให้กราบเท้า พร้อมบอกให้กลับบ้าน แต่ในความฝัน ลูกชายตอบกลับไปว่า จะกลับได้อย่างไร ในเมื่อยังทำหน้าที่รับใช้ชาติอยู่
ลูกชายเคยบอกแม่ว่า จะขอรบเพื่อทวงคืนปราสาทตาควายให้คนไทย ตนเองรู้สึกว่าสิ่งที่ลูกฝันเป็นลางร้าย แต่ไม่กล้าบอกลูก ได้เพียงบอกไปว่า หากอยากกลับบ้านให้บอกแม่ได้เสมอ แต่ลูกชายตอบกลับมาว่า ไม่ได้หรอกแม่ ผมรักชาติไปแล้ว จะขอสู้และรบเพื่อชาติ หากต้องตายก็ขอตายอย่างภาคภูมิใจ จนถึงวันนี้ ลูกชายได้เสียสละชีวิตเพื่อชาติจริง ๆ ตนรู้สึกภูมิใจที่ลูกได้ทำตามคำพูดที่เคยบอกไว้กับแม่ อีกทั้งลูกชายยังสั่งเสียว่า แม่ต้องกินข้าว กินยา และพักผ่อนให้มาก จะได้มีแรงทำบุญให้ลูก
ด้าน น.ส.สุชาวดี อายุ 15 ปี น้องสาวของพลทหารภานุพัฒน์ เปิดเผยว่า ครั้งล่าสุดที่พี่ชายกลับบ้าน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการรบครั้งแรก พี่ชายได้ชวนครอบครัวไปเที่ยว และพูดว่า หากเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง แล้วพี่ไปรบและเกิดเสียชีวิตจากระเบิด ก็จะไม่ได้กลับมาพบครอบครัวอีก จะไม่ได้มานั่งคุยกันอีก
น้องสาว กล่าวทั้งน้ำตาว่า รักพี่ชายคนนี้มาก เพราะพี่สมัครเป็นทหาร ทำงานหนักเพื่อส่งเสียให้น้อง ๆ ได้เรียนหนังสือสูง ๆ รู้สึกภูมิใจในพี่ชายคนนี้มาก และหลังจากสูญเสียพี่ชายไป หากเป็นไปได้ในตอนนี้ อยากได้พี่ชายกลับคืนมาอีกครั้ง



