ข่าว

ไขข้อข้องใจ "แม่ รมว.ดีอี" โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล ของคนอื่น แต่ไม่ผิด PDPA?

ไขข้อข้องใจ "แม่ รมว.ดีอี" โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล ของคนอื่น แต่ไม่ผิด PDPA?

12 ธ.ค. 2568

"PDPC Thailand" ไขข้อข้องใจ สาเหตุ "แม่ รมว.ดีอี" โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลของคนอื่น แต่ไม่ผิด PDPA ชี้ช่อง เอาผิดอะไรได้บ้าง?

จากประเด็นร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อ "แม่ รมว.ดีอี" โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลของคนอื่นในเชิงประชดประชัน ก่อนนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) จะแจงต่อว่าไม่ผิดกฎหมาย PDPA ทำให้เกิดเป็นประเด็นสงสัยในสื่อสังคมออนไลน์ว่าการกระทำดังกล่าว "ไม่ผิด PDPA จริงหรือไม่?"


ล่าสุด 11 ธ.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล - สคส หรือ PDPC Thailand ได้ออกมาไขทุกข้อข้องใจใน 2 ประเด็นจากเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า 

 

ตามที่มีสื่อโซเชียลมีเดียบางสำนักให้ข้อมูลข่าวการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลอื่นของนางกรุณา ชิดชอบ ว่าไม่ผิดกฎหมาย PDPA ด้วยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงนั้น นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้มีความกังวลต่อประเด็นนี้ เนื่องจากต้องการให้การดำเนินการเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เป็นไปตามกระบวนการอย่างถูกต้องที่สุด ไม่ว่าบุคคลที่กระทำความผิดจะเป็นบุคคลใดก็ตาม โดยให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการ 
 

ไขข้อข้องใจ "แม่ รมว.ดีอี" โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล ของคนอื่น แต่ไม่ผิด PDPA?

พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ได้ให้ข้อมูลชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้นดังนี้

 

1.กรณีการกระทำของผู้โพสต์

 

เนื่องจากผู้โพสต์ได้โพสต์ข้อมูลส่วนตัวของคู่กรณีในเชิงประชดประชัน โดยไม่ได้เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอเพื่อกิจการใดกิจการหนึ่ง จึงเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนตน ซึ่งไม่อยู่ภายใต้บังคับตามกฎหมาย PDPA ตามมาตรา 4(1) แต่อย่างไรก็ตาม หากการโพสต์ดังกล่าวทำให้ผู้อื่นเสียหาย อาจเข้าข่ายการหมิ่นประมาท หรือมีความผิดตามกฎหมายอื่นได้ 

 

2. กรณีข้อมูลที่ถูกนำมาโพสต์เป็นข้อมูลที่รั่วไหลจากการควบคุมดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

ในส่วนนี้ต้องบังคับตามกฎหมาย PDPA โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตรวจสอบและต้องแจ้งเหตุการละเมิดมายัง สคส. ภายใน 72 ชม. ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบและแจ้งเหตุการละเมิดมายัง สคส. แล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริง โดย สคส. หากพบว่า มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพียงพอ ก็จะต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและรายงานต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาทางปกครองต่อไป

 

ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้หากคู่กรณีเห็นว่าตนได้รับความเสียหายเพราะการกระทำดังกล่าวสามารถใช้สิทธิ์ร้องเรียนมายัง สคส.เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาทางปกครองได้ โดย สคส. พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่มีละเว้น การบังคับใช้กฎหมายอย่างแน่นอน

ไขข้อข้องใจ "แม่ รมว.ดีอี" โพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล ของคนอื่น แต่ไม่ผิด PDPA?