ข่าว

ศูนย์ ACSC ช่วยเรียลไทม์ เหยื่อวัยเกษียณ ถูกแก๊งคอลฯ ดูดเงินกว่า 1.5 ล้าน

ศูนย์ ACSC ช่วยเรียลไทม์ เหยื่อวัยเกษียณ ถูกแก๊งคอลฯ ดูดเงินกว่า 1.5 ล้าน

09 ธ.ค. 2568

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ช่วยเรียลไทม์ เหยื่อวัยเกษียณ ถูกแก๊งคอลฯ ลวงติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน 1.5 ล้านบาท

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดข้อมูลการเข้าช่วยเหลือเหยื่อ ในวันที่ 8-9 ธ.ค. 68 โดยพบว่ามีเคสรับแจ้งผ่านทางศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) เกี่ยวกับแผนประทุษกรรมของคนร้ายโดยหลักๆ ยังคงเป็นเรื่องของการโทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมหลอกให้โหลดแอปฯ รีโมท เข้าควบคุมโทรศัพท์ หรือหลอกเอาข้อมูล รวมถึงให้ทำธุรกรรมโอนเงิน กว่าจะรู้ตัวเหยื่อสูญเงินไปจำนวนมาก

ศูนย์ ACSC สามารถประสานงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ประกอบกับประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าตรวจสอบพร้อมช่วยเหลือเหยื่ออย่างทันท่วงที โดยเป็นการเข้าตรวจสอบทั้งหมด 6 เคส และเราสามารถช่วยเหลือรวมทั้งระงับการโอนเงินของผู้เสียหายก่อนจะโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพได้ทั้งหมด 6 รายเช่นกัน คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 2,728,000 บาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คดี ผู้ต้องหา 2 คน สัญชาติเมียนมา ตรวจยึดเครื่องวิทยุคมนาคม STARLINK จำนวน 15 เครื่อง ในพื้นที่ สภ.แม่สอด

สำหรับเคสที่น่าสนใจ เจ้าหน้าที่ warroom ศูนย์ ACSC ประสานตำรวจภ.จว.สมุทรสงครามเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายเป็นหญิง วัยเกษียณ หลังได้รับโทรศัพท์จากคนร้าย อ้างตัวว่ามาจากกรมสรรพสามิตจังหวัดสมุทรสงคราม แจ้งว่าผู้เสียหายได้รับหนังสือกรรมสิทธิ์ทายาทแล้วหรือยัง พร้อมบอกว่าหากยังไม่ได้รับจะทำการส่งไปให้

ก่อนจะมีคนร้ายอีกรายอ้างว่ามาจากกรมสรรพสามิต สำนักงานใหญ่ ชักชวนให้ไปคุยกันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ที่ชื่อว่า "บำเหน็จ-บำนาญ" พร้อมทั้งให้ผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ "ข้าราชการ บำเหน็จ-บำนาญ" แล้วให้โหลด แอปพลิเคชัน CGD HRDS กรมบัญชีกลาง อ้างเพื่อไว้ตรวจสอบยอดเงินบำเหน็จบำนาญที่ได้รับ 

เมื่อผู้เสียหายดำเนินการติดตั้งแอปฯ ดังกล่าวเสร็จแล้ว คนร้ายหลอกลวงให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวพร้อมกับเปิดแอปพลิเคชันธนาคารออมสิน ก่อนจะให้ผู้เสียหายเปลี่ยนเมนูจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ และให้ทำธุรกรรมตามที่คนร้ายบอก

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เร่งเข้าถึงตัวเหยื่อ รีบแจ้งให้ทราบว่านั่นคือกลลวงมิจฉาชีพ และสามารถระงับยับยั้งไม่ให้กระทำการใดๆต่อ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเพิ่มมากขึ้น พร้อมแนะนำการแจ้งความดำเนินคดี 

จากนั้นผู้เสียหายมาทราบในเวลาต่อมาว่า มีเงินออกจากบัญชีธนาคารกรุงไทยจำนวน 1,578,219 บาท ชุดสืบสวนสืบทราบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนไปยัง บัญชีธนาคารชื่อ น.ส.รัชนี ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมต่อไป