ข่าว

ก่อนลาออกต้องรู้ ! วิธีลงทะเบียนรับเงินชดเชยประกันสังคม ทำที่ไหน กี่วันได้เงิน

ก่อนลาออกต้องรู้ ! วิธีลงทะเบียนรับเงินชดเชยประกันสังคม ทำที่ไหน กี่วันได้เงิน

05 ธ.ค. 2568

การตัดสินใจเดินออกจากงานประจำถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิต

สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือความกังวลเรื่องรายรับที่ขาดหายไปในช่วงรอยต่อระหว่างหางานใหม่ แต่รู้หรือไม่ว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรามีสิทธิประโยชน์ที่สะสมไว้คอยช่วยเหลืออยู่นั่นคือ เงินชดเชยประกันสังคม กรณีลาออก ซึ่งเปรียบเสมือนเบาะรองรับไม่ให้เราเจ็บตัวทางการเงินมากนัก บทความนี้จะสรุปทุกขั้นตอน ตั้งแต่ยอดเงินที่จะได้รับ วิธีลงทะเบียนออนไลน์ ไปจนถึงระยะเวลาที่เงินจะเข้าบัญชี เพื่อให้คุณวางแผนชีวิตก้าวต่อไปได้อย่างมั่นใจ และไม่พลาดสิทธิที่ควรได้รับ

 

เช็กด่วน ! ลาออกเอง ได้เงินชดเชยประกันสังคมเท่าไร ?

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ตัดสินใจลาออกเองโดยสมัครใจ หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนด คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในอัตรา 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยมีเงื่อนไขว่าทางสำนักงานประกันสังคมจะคิดจากฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท และจ่ายให้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน (หรือ 3 เดือน) ต่อปีปฏิทิน ซึ่งเงินก้อนนี้ถือเป็นสภาพคล่องสำคัญที่จะช่วยประคับประคองค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีในขณะที่คุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ

ตัวอย่างการคำนวณเงินชดเชยแบบเข้าใจง่าย

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ลองมาดูวิธีคำนวณกัน หากคุณมีเงินเดือนเฉลี่ยตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป (ซึ่งเป็นฐานสูงสุดที่ประกันสังคมกำหนด) จะคำนวณได้ดังนี้

  • นำ 15,000 บาท x 30% = 4,500 บาท
  • ดังนั้น คุณจะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 4,500 บาท
  • หากว่างงานครบ 3 เดือน จะได้รับเงินรวมทั้งสิ้น 13,500 บาท

แต่ถ้าฐานเงินเดือนของคุณต่ำกว่า 15,000 บาท ก็ให้นำเงินเดือนจริงมาคูณด้วย 30% ก็จะได้ยอดเงินที่จะได้รับต่อเดือนนั่นเอง

 

ใครบ้างมีสิทธิยื่นขอรับเงินชดเชยกรณีว่างงาน ?

ใครมีสิทธิยื่นขอรับเงินชดเชยกรณีว่างงาน

ไม่ใช่ทุกคนที่เดินออกจากบริษัทแล้วจะขอรับเงินส่วนนี้ได้ทันที เพราะสิทธินี้สงวนไว้เฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 33 เท่านั้น โดยต้องผ่านเกณฑ์สำคัญ ดังนี้

  • ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนที่จะว่างงาน
  • ต้องมีสถานะว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป
  • ต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากทำความผิดร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่
  • ต้องเป็นผู้มีความสามารถในการทำงาน และไม่ปฏิเสธงานที่เหมาะสมหากมีการจัดหาให้

 

How-to ขั้นตอนลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ รับเงินง่าย ๆ ไม่ต้องไปสำนักงาน

ปัจจุบันขั้นตอนการขอรับ เงินชดเชยประกันสังคม กรณีลาออก สะดวกมาก สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคมให้ยุ่งยาก เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้

เข้าไปที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน (e-service.doe.go.th

  • เลือกเมนู “ลงทะเบียนเข้าใช้งาน” (สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน) เพื่อรับรหัสผ่าน
  • เมื่อเข้าระบบได้แล้ว ให้เลือกเมนู “ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน”
  • กรอกข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรประชาชน และข้อมูลการออกจากงานให้ครบถ้วน
  • แนบรูปหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (ออมทรัพย์) ที่มีชื่อของคุณ เพื่อให้เจ้าหน้าที่โอนเงินเข้าบัญชี
  • กดยืนยัน และพิมพ์เอกสาร “ใบนัดรายงานตัว” เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ข้อควรระวัง : คุณจำเป็นต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงาน ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลาออก หากดำเนินการล่าช้าเกินกว่ากำหนด อาจส่งผลให้คุณเสียสิทธิในการรับเงินทดแทนย้อนหลังในช่วงที่เกินกำหนดไปได้

 

ไขข้อข้องใจ ลงทะเบียนแล้วกี่วันได้เงิน และต้องทำอะไรต่อ ?

 ลงทะเบียนว่างงาน กี่วันได้เงิน

หลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเงินจะโอนเข้าทันที แต่ในความเป็นจริง ต้องรอให้มีการรายงานตัวครั้งแรกก่อน ซึ่งหลังจากรายงานตัว และได้รับการอนุมัติแล้ว เงินจะโอนเข้าบัญชีภายใน 5-7 วันทำการ (ไม่รวมวันหยุดราชการ)

 

ต้องรายงานตัวกี่ครั้ง ถึงจะได้เงิน ? 

การลงทะเบียนครั้งแรกเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพื่อให้ได้รับเงินครบตามสิทธิ คุณต้องเข้าไป “รายงานตัวออนไลน์” เดือนละ 1 ครั้ง ตามวันที่ระบุในใบนัดรายงานตัว โดยสามารถรายงานตัวก่อนหรือหลังวันนัดได้ไม่เกิน 7 วัน หากลืมรายงานตัวในเดือนไหน ก็จะไม่ได้เงินในงวดนั้น

 

ได้งานใหม่แล้ว ยังต้องรายงานตัวไหม ?

หากคุณโชคดีได้งานใหม่ระหว่างที่ยังรับเงินชดเชยไม่ครบ คุณยังต้องเข้าระบบไปรายงานตัวเป็นครั้งสุดท้าย โดยเลือกสถานะว่า “ได้งานทำแล้ว” เพื่อให้ข้อมูลในระบบเป็นปัจจุบัน และเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายของคุณเอง

เงินชดเชยประกันสังคม กรณีลาออก ไม่ใช่เงินฟรี แต่เป็นสิทธิประโยชน์ที่คุณได้สะสมไว้ตลอดการทำงาน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนผ่าน อย่าลืมรักษาสิทธิของตัวเองด้วยการลงทะเบียนให้ถูกต้อง และทันเวลา เงินจำนวนนี้แม้จะดูไม่มากเมื่อเทียบกับเงินเดือนเดิม แต่ก็เพียงพอที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และเป็นเสบียงสำรองให้คุณก้าวเดินต่อไปยังเป้าหมายใหม่ได้อย่างมั่นใจ และไร้กังวล