ข่าว

"บิ๊กโจ๊ก"  โผล่กองปราบ ประกาศจุดยืนชัดเจน ไม่หนี พร้อมสู้ทุกคดี

"บิ๊กโจ๊ก" โผล่กองปราบ ประกาศจุดยืนชัดเจน ไม่หนี พร้อมสู้ทุกคดี

02 ธ.ค. 2568

"บิ๊กโจ๊ก" โผล่กองปราบ หลังถูกกล่าวหา หมิ่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลั่น! ไม่หนี พร้อมสู้ทุกคดี ระบุ เตรียมแฉ "ข้อมูลครั้งใหญ่" สัปดาห์หน้า

2 ธ.ค. 2568 เมื่อเวลา 10.50 น. ที่ด้านหน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" อดีตรอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อชี้แจงกรณีมีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ระบุ พร้อมสู้คดี ไม่คิดหลบ

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เผยว่า เช้าวันเดียวกันทราบว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช. เข้าแจ้งความเอาผิดตน แต่ยืนยันว่า "ยังไม่มีหมายเรียก ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแม้แต่ข้อหาเดียว" การเดินทางมาที่ บก.ป. จึงเป็นการมาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ยืนยันว่ายินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมต่อสู้คดีทุกประเด็น

คดีนี้เป็นลักษณะ "แจ้งความเพื่อปิดปาก" เพราะตนเพียงแสดงความเห็นโดยอ้างอิงข้อมูลที่มีอยู่จริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ พร้อมย้ำถ้อยคำที่เป็นกระแสว่า "ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด" ซึ่งมาจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏแล้วว่า มีตำรวจจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวพันกับส่วยเว็บพนัน ทั้งระดับนายตำรวจ 30 กว่าราย รวมถึงกลุ่ม 200 กว่ารายที่ถูกเปิดเผย และมีชื่อระดับ ผบ.ตร. อยู่ในนั้น

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ชี้ว่า หากย้อนกลับไปดูคลิปเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมาในรายการหนึ่ง จะเห็นว่าตนไม่ได้เอ่ยพาดพิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการเฉพาะ แต่สะท้อนปัญหาเชิงระบบที่ประชาชนรับรู้มานาน พร้อมท้วงติง ผบ.ตร. ว่า ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนฟ้องร้อง เพราะข้อกล่าวหานี้อาจย้อนกลับไปสู่ผู้กล่าวหาเอง พร้อมย้ำว่า สาเหตุที่ถูกเล่นงานเพราะ "เป็นตัวจี๊ด รู้ข้อมูลมากที่สุด" พร้อมประกาศว่าจะเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างตามลำดับในเร็ว ๆ นี้

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากมีหมายเรียก จะมาทันที เพราะคดีนี้ไม่มีสิทธิคุมตัวหรือออกหมายจับ เนื่องจากอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี "เต็มที่คือหมายเรียก" แต่ขอสิทธิรับรู้ข้อกล่าวหาก่อนให้ปากคำ พร้อมเผยว่าตนได้ประสานผู้บังคับการกองปราบแล้วว่าจะเข้าพบในวันใดบ้าง ส่วนกรณีที่มีตำรวจบางนายระบุว่า หาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ตนจะหลบหนีว่า "คนที่จะหนีไม่ใช่ตน" พร้อมระบุว่ารู้ข้อมูล "พิกัดบ้านที่อังกฤษ" ของบุคคลสำคัญบางราย และเชื่อว่า "ความจริงจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเอง"

 

ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาแม้จะเงียบ แต่เป็นช่วงเวลาที่ใช้เก็บข้อมูลอย่างละเอียด "เหมือนนักมวยซ้อมทุกวัน วันนี้ถึงเวลาชกจริงแล้ว" ขณะเดียวกันยืนยันว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานสอบสวนรายใดทำถูก ทำผิด และเตรียม "รวมยอดเปิดข้อมูลครั้งใหญ่" ภายในสัปดาห์หน้า

 

"บิ๊กโจ๊ก"  โผล่กองปราบ ประกาศจุดยืนชัดเจน ไม่หนี พร้อมสู้ทุกคดี  

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ในส่วนกระแสว่าการปรากฏตัววันนี้เหมือนเป็นการเหยียบถิ่น ของผู้ที่เคยกล่าวหาว่าตนจะหลบหนีออกนอกประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า บุคคลเหล่านั้นก็เพียงทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณของตนเอง ไม่ว่าจะถูกหรือผิด เพราะได้รับ "ตั๋วช้าง" มาแล้ว พร้อมย้ำว่าการต่อสู้ทั้งหมดนี้ต้องยืนอยู่บนหลักกฎหมาย ส่วนความขัดแย้งส่วนบุคคลให้ไว้ทีหลัง

ต่อมาเวลา 11.45 น. ภายเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้ง ว่า พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ได้สอบถามเบื้องต้นว่าการเดินทางมาวันนี้ มีความประสงค์จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ถ้อยคำ หรือเพียงต้องการลงบันทึกประจำวันยืนยันว่าตนยังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตนจึงแจ้งชัดว่าต้องการพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามให้แน่ชัดว่าประเด็นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งความดำเนินคดีตนนั้นคือข้อหาใดบ้าง และมีเนื้อหาหรือถ้อยคำส่วนใดที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย

ซึ่งทางพนักงานสอบสวน ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งไว้มีเพียง ความผิดฐานหมิ่นประมาท เท่านั้น ส่วนสื่อมวลชนที่ร่วมสัมภาษณ์ในวันที่เกิดเหตุ ไม่ถูกดำเนินคดีหรือเกี่ยวข้องในสำนวนแต่อย่างใด ซึ่งตนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่า ข้อมูลที่เคยแสดงความคิดเห็นเป็นข้อเท็จจริงที่สาธารณชนควรได้รับรู้ และเป็นการตรวจสอบเพื่อประโยชน์ต่อองค์กรตำรวจเอง ก่อนเตรียมเดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อดำเนินภารกิจตามกำหนดการต่อไป