
เปิดประวัติ "มานพ ชมชื่น" อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
เปิดประวัติ "มานพ ชมชื่น" อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถูกสั่งเด้ง! เปิดทางสอบสวน เอื้อสิทธิพิเศษ นักโทษจีนวีไอวี
อัปเดตความคืบหน้า "การจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร" จนมีการสั่งย้าย นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. เป็นต้นไป
โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าว ว่า จากการเข้าจู่โจม และตรวจค้นดังกล่าว พบว่า มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการควบคุมและปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง จึงได้ดำเนินการย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และย้ายผู้บัญชาการเรือนจำฯ ไปปฏิบัติหน้าที่ยังกรมราชทัณฑ์
พร้อมกันนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรม เจ้าหน้าที่กองทัณฑวิทยา เจ้าหน้าที่กองบริหารทรัพยากรบุคคล กลุ่มงานวินัยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นโดยละเอียด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ซึ่งจากการตรวจสอบ
เบื้องตัน พบว่ามีผู้ต้องขังชาวจีนบางรายที่มีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังรายอื่นภายในเรือนจำฯ จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ต้องขังชาวไทย จึงมีผู้แจ้งเบาะแสมายังกรมราชทัณฑ์ให้ทราบถึงพฤติการณ์ดังกล่าว
อนึ่ง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ลดความคลาดเคลื่อนของข้อมูล กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า ได้เร่งรัดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฎโดยเร็ว กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการจัดระเบียบเรือนจำตาตามนโยบาย 5 ก้าวย่างแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยยึดหลักความโปร่งใส ยุติธรรม และปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ พร้อมดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องหากพบการกระทำผิดจริง เพื่อรักษามาตรฐาน การบริหารงานราชทัณฑ์ให้เป็นที่เชื่อมั่นของสังคมต่อไป
มีรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากย้ายผู้บัญชาการเรือนจำแล้ว กรมราชทัณ์ได้สั่งย้าย เจ้าหน้าที่ผู้คุมมากกว่า 14 คนที่เกี่ยวข้องในการควบคุมผู้ต้องขัง ใน 3 แดนคุมขังนักโทษกลุ่มจีนเทาด้วย
จู่โจมค้น "เรือนจำพิเศษกรุงเทพ" เจออะไรบ้าง?
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2568 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยังชี้แจงผลการจู่โจมตรวจค้น พบสิ่งของต้องห้าม และสิ่งของไม่อนุญาตให้มีครอบครองหรือใช้ในเรือนจำ ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 72 และมาตรา 73 นอกจากนี้ ยังพบสิ่งของเกินความจำเป็น เช่น ต้เย็น ไม่โครเวฟ แอร์เคลื่อนที่ และอีกหลายรายการ รวมถึงพบว่าผู้ต้องขังบางรายมีการครอบครองสิ่งของแบรนด์เนม
และจากการตรวจค้นห้องเจ้าหน้าที่ยังพบกาแฟซองจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ใช้แทนการพนันของผู้ต้องขังชาวจีนบางรายในเรือนจำ
อนึ่ง กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการย้ายผู้ต้องขังชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปยังเรือนจำที่เหมาะสม เพื่อความมั่นคง ปลอดภัย และจะจะเร่ดดำเนินการสอบสวนต่อไป
กรมราชทัณฑ์ ยังคงกำชับเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ ให้ยึดมั่นในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ด้วยความเสมอภาค อีกทั้ง เรือนจำฯ เป็นสถานที่ที่ควบคุมดูแลผู้กระทำผิดให้ได้รับความปลอดภัย ซึ่งดำเนินการเป็นไปตามหลักนิติธรรรม และกฎหมายที่กำหนดไว้
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ชุดเฉพาะกิจเข้าจู่โจมตรวจค้น 3 แดนขังนักโทษกลุ่มจีนเทา นอกจากพบสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งใช้วิธี ระบุเป็นของบริจาคเข้าไปในเรือนจำแล้วขอใช้ก่อน นอกจากนี้ยังพบของมีคม มีด ไฟแช็ก ซึ่งเป็นของต้องห้ามในเรือนจำ เพราะใช้เป็นอาวุธได้ และไฟแช็กบ่งชี้ได้ว่า มีการสูบบุหรี่ภายใน
ขณะเดียวกันเพจดัง "Drama-addict" ยังเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตอนเจ้าหน้าที่บุกตรวจเรือนจำ ค้นเจอถุงยาง และทิชชู่ใช้แล้วจำนวนมาก ถูกซ่อนอยู่ในห้องลับใต้บันไดของเรือนจำ และได้เอาหลักฐานเป็นถุงยางใช้แล้วทั้งหมด ไปตรวจ DNA ยืนยันตัวตนต่อไป ว่าเป็นของนักโทษคนใดบ้าง
ตามข่าวระบุว่า ห้องลับใต้บันได จะมีทางเชื่อมกับอาคารเรือนจำ ตรงไปที่ห้องของ ผบ.เรือนจำพิเศษ ซึ่งห้องนี้สามารถเข้าข้างในเรือนจำได้เลย ไม่ต้องผ่านประตู 1 ดังนั้นจึงมีการพานางแบบสาวสวยชาวญี่ปุ่นเข้าไปในเรือนจำผ่านช่องนี้
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนางแบบชาวญี่ปุ่น ที่สามารถเล็ดลอดเข้าไปด้านในได้ เนื่องจากหากเป็นชาวต่างชาติ เรือนจำฯ ติดปัญหาตรวจสอบความเป็นญาติได้ยาก เมื่อเห็นเป็นต่างชาติด้วยกันก็ให้เข้าเยี่ยม
เปิดประวัติ "มานพ ชมชื่น" อดีตผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
สำหรับนายมานพ ชมชื่น บรรจุรับราชการที่กรมราชทัณฑ์ ก่อนไปเติบโตที่สำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม และกลับมาเป็นเลขานุการกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กระทั่งล่าสุดถูกสั่งย้าย ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการ กรมราชทัณฑ์



