
"ฮุนเซน" คุยโว สร้างโรงงานผลิตเสื้อเกราะ จนมีมากเกินพอ เตรียมส่งออกนอก
"ฮุนเซน" บอก ตัวเองเป็นคนผลิตเสื้อเกราะ DSS ตอนนี้มีมากเกินพอแล้ว เตรียมส่งออกไปต่างประเทศ พร้อมประกาศไม่ควรขอไทยเปิดด่าน เพราะไทยปิดเอง ต้องเปิดเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าว The Phnom Penh Post รายงาน สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ระบุว่า กัมพูชาไม่ได้คาดหวังว่าไทยจะทำสงครามกับกัมพูชาในเดือนกรกฎาคม ซึ่งนำไปสู่ความประมาทเลินเล่อ เช่น การขาดแคลนเสื้อเกราะกันกระสุน
อย่างไรก็ตาม เขาตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้กัมพูชามีเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกเกราะอยู่จำนวนมาก จนถึงขั้นที่กำลังพิจารณารับคำสั่งซื้อส่งออก
ฮุนเซน ยังได้กล่าวในการประชุมสมัชชาสงฆ์แห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ว่า เขาได้อธิบายถึงปัญหาและวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“ก่อนและหลังการสู้รบ กองทัพของเรามีเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกเกราะกันกระสุนเพียงพอหรือไม่? เราประมาทเลินเล่อเพราะคิดว่าจะไม่มีสงคราม แต่ตอนนี้เรามีสต็อกมากเกินพอแล้ว ผมหวังว่าจะส่งออกเสื้อเกราะเหล่านี้ไปยังประเทศอื่นๆ แบรนด์นี้คือ DSS และผมเป็นผู้ผลิต” เขากล่าว
คำพูดของฮุนเซนเป็นการตอบโต้คำวิจารณ์ของบุคคลสำคัญฝ่ายค้านบางคน ซึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างการปะทะด้วยอาวุธเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม แม้ว่ากัมพูชาจะมีเสื้อเกราะกันกระสุนและหมวกเกราะเพียงพอแล้ว แต่เขาก็ตั้งข้อสังเกตว่ากัมพูชาต้องการสันติภาพ และความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ถือเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายเสียประโยชน์เกี่ยวกับการที่ไทยปิดพรมแดนฝ่ายเดียว
ฮุนเซน กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วจะไม่อนุมัติคำขอใดๆ ที่จะเปิดพรมแดนกับไทย โดยระบุว่าไทยปิดพรมแดนแล้ว และไทยต้องเป็นผู้เปิดพรมแดนเอง
“ผมคัดค้านข้อเสนอใดๆ จากฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการเปิดพรมแดนกัมพูชา-ไทยอย่างสิ้นเชิง เพราะพวกเขาปิดพรมแดนแล้ว เราไม่ควรขอให้พวกเขาเปิดพรมแดน ” ฮุนเซนกล่าว
ในขณะที่ประชาชนกัมพูชาจำนวนมากยังคงคว่ำบาตรสินค้าไทย ฮุนเซนได้แนะนำให้ประชาชนแยกแยะระหว่างสินค้าที่นำเข้าจากไทยและสินค้าจากบริษัทไทยที่ผลิตในกัมพูชา โดยบอกว่า สินค้าจากบริษัทไทยที่ผลิตในกัมพูชาเป็นสินค้าของกัมพูชา แม้ว่าเจ้าของจะเป็นคนไทยก็ตาม ซึ่งไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติ



