อัปเดต ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิล ย่านบางพลี ชาวบ้านเริ่มได้รับผลกระทบ
ไฟไหม้มาราธอน โรงงานรีไซเคิลยางรถยนต์ ย่านบางพลี ชาวบ้านเริ่มได้รับผลกระทบ ด้าน อุตสาหกรรมจังหวัด จ่อเอาผิดผู้ประกอบการ ให้นายทุนจีนเช่าประกอบกิจการผิดประเภท
12 พ.ย. 2568 เมื่อเวลา 04.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดังโรงงานรีไซเคิลยางเก่าจากรถยนต์ ท้ายซอยธนสิทธิ์ หรือซอยบางปลา ซอย 2 หมู่ที่ 12 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงจาก อบต.บางปลา และพื้นที่ใกล้เคียง เกือบ 10 คัน เข้าควบคุมสถานการณ์
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะโกดังชั้นเดียว บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมาก พบอุปสรรคมีกองยางรถยนต์เก่ากองถมกันจำนวนมาก รวมถึงเศษยางต่าง ๆ จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และลุกติดไฟอย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผ่านไปกว่า 10 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ยังคงต้องช่วยกันคอยฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ยังลุกไหม้อยู่ด้านในโรงงาน และยังคงกินพื้นที่ด้านใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเดินเท้าลุยเข้าไปยังฐานเพลิงได้ เนื่องเป็นกองยางเก่าจำนวนมาก อีกทั้งการฉีดน้ำไม่สามารถฉีดลงพื้นล่างของกองยางได้ ทำให้ต้องปรับแผน และใช้รถแบ็คโฮขนาดเล็ก เข้าด้านในเพื่อคุ้ยกองยางและใช้น้ำฉีดไล่ที่ละจุดเข้าไปด้านใน ซึ่งคาดว่าอาจจะใช้เวลาจนถึงช่วงเย็นวันนี้
เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทำบันทึกรายงานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมหลังพบว่า โรงงานดังกล่าวมีคนไทยได้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการทำแบบพิมพ์โลหะ และชิ้นส่วนโลหะ ซึ่งจากการมาตรวจสอบพบว่าเป็นการประกอบกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาตไว้
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบจากผู้โดยแลโรงงานดังกล่าว ระบุว่า มีนายทุนชาวจีนมาเช่าประกอบกิจการอีกทอดหนึ่ง ซึ่งมีการนำเอาวัตถุดิบต่างๆ โดยเฉพาะยางรถยนต์เก่านำเข้ามาจากจีนเพื่อมาคัดแยกเส้นเหล็กและลวดยางรถยนต์
เบื้องต้นจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาตั้งประกอบกิจการไม่ตรงตามใบอนุญาตที่กำหนดไว้หรือประกอบกิจการไม่มีใบอนุญาต ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 12 ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 50 จะมีโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือจำคุกไม่เกินสองปี
ทั้งนี้ จะต้องเรียกผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตเดิมรวมถึงนายทุนจีนมาสอบปากคำเพิ่มเติมและขยายผลแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่นำมาใช้ยังโรงงานแห่งนี้ นอกกจากนั้นยังจะต้องไปไล่ตรวจสอบโรงงานในลักษณะคล้ายกันอีกหลายโรงที่อยู่ในละแวกดังกล่าว ว่าประกอบกิจการตรงตามที่ได้รับอนุญาตไว้หรือไม่ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่พักอาศัยใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนเองและคนในชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบจากควันไฟไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งมีทั้งกลิ่นเหม็นฉุดและแสบตา จนอาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้ต้องออกมาหาที่สูดอากาศด้านนอก
