
เปิดสาเหตุ "จ.อ.อภิชาติ" สส.เพชรบุรี อารมณ์ขึ้น ปะทะคารม นายอำเภอ
เปิดสาเหตุ "จ.อ.อภิชาติ" สส.เพชรบุรี อารมณ์ขึ้น ปะทะฝีปาก นายอำเภอเขาย้อย ระหว่างยืนรอต้อนรับ รมช.ว่าการอุตสาหกรรม
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะเดินทางมายังพื้นที่ หมู่ 4 ต.ทับคาง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เพื่อเข้ารับหนังร้องเรียนและรับฟังปัญหาจากชาวบ้านหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4 ต.ทับคาง อ.เขาย้อย กรณีคัดค้านการตั้งโรงงานผลิตน้ำมัน pyrolise จากยางเก่า พลาสติกเก่าสายพานลำเลียงเก่าและน้ำมันเครื่องเก่า ของบริษัทฯ ที่จะดำเนินงานก่อสร้างในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทับคาง เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมมลภาวะเข้าสู่ชุมชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ได้ยืนรอต้อนรับ รมช.ว่าการอุตสาหกรรม
จู่ๆ นายนฤนาท เมืองแสน นายอำเภอเขาย้อย ได้เดินเข้ามาหา จ.อ.อภิชาติ และชักสีหน้าใส่ พร้อมพูดจาด้วยอารมณ์เสียว่า "สส.ช่วยบอกลูกน้องให้ไปเรียกไอ้พวกนั้น (คาดว่าหมายถึงชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ที่ยืนอยู่ริมถนนหน้าทางเข้าสถานที่โรงงาน) ให้เข้ามานั่งในเต็นท์"
ทำให้ จ.อ.อภิชาติ เริ่มเกิดอารมณ์ไม่พอใจ และถามกลับไปยังนายอำเภอเขาย้อย ว่าอารมณ์เสียมาจากที่ไหน พูดดีๆ ก็ได้ อย่ามาใช้อารมณ์กับผม ผมเอาชาวบ้านเป็นหลัก มันเป็นสิทธิ์ของชาวบ้านจะยืนตรงไหนก็ได้ ผมรู้ทุกขั้นตอน จะให้ผมลุยทุกเรื่องเอาหรือไม่ จะได้รู้ถึงข้างบนเลย เดี๋ยวผมจะเอาเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ไปขู่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่ให้นำชาวบ้านมาพบรัฐมนตรีในวันนี้ด้วย
เมื่อจ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.ว่าการอุตสาหกรรม และคณะเดินทางมาถึง จ.อ.อภิชาติ ได้นำคณะรัฐมนตรีช่วยเดินเข้าไปทักทายชาวบ้านที่นั่งรออยู่ภายในเตนท์ พร้อมเปิดเวทีรับฟังความเดือนร้อนของชาวบ้านกรณีจะมีการตั้งโรงงานดังกล่าว โดยมี นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ นายปิยะ ท้วมเกร็ด อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังปัญหา
โดยชาวบ้านได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาว่า เนื่องจากสถานที่ก่อสร้าง อยู่ห่างจากชุมชน วัดเขาพระ ประมาณ 1 กม. อีกทั้งยังอยู่ใหล้แหล่งน้ำห้วยหนามพรม อีกทั้งโรงยังใช้ ยางเก่า พลาสติกเก่า สายพานลำเลียงเก่า และน้ำมันเครื่องเก่า เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตน้ำมันไพโรไลชีส ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุ ที่เป็นพิษต่อสุขภาพของชาวบ้าน และเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น หากโรงงานประกอบกิจการ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างแน่นอนคือมลภาวะเรื่องเสียงดังฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผา อากาศเป็นพิษ และเรื่องน้ำเสียในอนาคตอย่างแน่นอน
ด้าน นายปิยะ ท้วมเกร็ด อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี กล่าวชี้แจงกับชาวบ้านว่า ตามที่บริษัทฯ ที่ถูกพูดถึง ได้มายื่นขออนุญาตตั้งโรงงานผลิตน้ำมัน pyrolise จากยางเก่า พลาสติกเก่าสายพานลำเลียงเก่า และน้ำมันเครื่องเก่าในพื้นที่แห่งนี้ ขอยืนยันว่ายังไม่มีการพิจารณาอนุญาตแต่อย่างใด และได้จำหน่ายคำขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



