
นายกหนูว่ายังไง! เริ่มกฎหมาย "ดื่มนอกเวลาขาย" ปรับ 1 หมื่น ชาวต่างชาติ ลั่น! ไม่เที่ยวไทย
นายกหนูว่ายังไง! สะเทือนการท่องเที่ยว! เริ่มกฎหมาย "ดื่มนอกเวลาขาย" ปรับ 1 หมื่นบาท ชาวต่างชาติลั่น! "ไม่เที่ยวไทย" หวั่น! ผลกระทบเศรษฐกิจ
หลังจากที่ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ได้ถูกประกาศออกมาอย่างชัดเจน ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมและความกังวลครั้งใหญ่ให้กับภาคประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย ประเด็นที่สร้างความตื่นตระหนกที่สุดคือ การขยายขอบเขตความรับผิดชอบไปยังผู้บริโภคโดยตรง โดยมีการตีความและประกาศเตือนจากหน่วยงานรัฐว่า ผู้ที่ "นั่งแช่" หรือ "ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์" ภายในร้านอาหารนอกเหนือจากเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ขายได้ (คือ 11.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 24.00 น.) อาจมีความผิดและต้องชำระ ค่าปรับเป็นพินัยไม่เกิน 10,000 บาท
ความเข้มงวดของกฎหมายใหม่ โดยเฉพาะการปรับผู้บริโภคที่กำลังดื่มนอกเวลาขาย ได้กลายเป็นประเด็นที่ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานเตือน ไปยังนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังประเทศไทยทันที ซึ่งส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาเชิงลบอย่างรุนแรงบนโลกออนไลน์
- ผู้ประกอบการร้อง: ธุรกิจสถานบันเทิงและร้านอาหารในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ต่างแสดงความกังวลว่ากฎหมายนี้จะสร้างอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ลูกค้าซื้อเครื่องดื่มก่อนเวลาห้ามขาย (เช่น ก่อน 14.00 น.) แต่นั่งดื่มต่อเพียงไม่กี่นาที ก็อาจถูกปรับได้
- เสียงวิจารณ์จากต่างชาติ: นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นในบทความข่าวและบนโซเชียลมีเดียในเชิงตำหนิความไม่สมเหตุสมผลของกฎหมาย โดยหลายคนระบุชัดเจนว่า จะไม่เลือกเดินทางมาประเทศไทย แต่จะหันไปประเทศอื่นในภูมิภาคที่มีกฎระเบียบที่ยืดหยุ่นกว่าแทน
"กฎหมายนี้ทำให้คนสับสนและไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ ยิ่งทำให้การท่องเที่ยวของไทยลำบากมากขึ้น" เสียงสะท้อนจากความกังวลของภาคธุรกิจร้านอาหาร แม้ว่ากฎหมายใหม่นี้จะมีข้อยกเว้นสำหรับสถานบริการที่ได้รับอนุญาต โรงแรมที่มีใบอนุญาต และท่าอากาศยานนานาชาติ แต่การขยายความรับผิดไปยังตัวผู้ดื่มโดยตรงสำหรับร้านอาหารทั่วไป ได้สร้างความไม่มั่นใจในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง และถูกมองว่า เป็นการตีกรอบการใช้ชีวิตในวันหยุดที่มากเกินไป ซึ่งอาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยในช่วงไฮซีซันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงมหาดไทย ไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อการยกเลิกการกำหนดพื้นที่ หรือโซนนิ่งสถานบริการในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถจำหน่ายและเปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น. รวมทั้งปลดล็อคช่วงเวลาการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเดิมที่กำหนดให้จำหน่ายได้เฉพาะในเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น.ด้วย
“ได้มีการเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุมครม. โดยนายกฯ ได้รับทราบและมอบหมายให้ปลัดมหาดไทย ในฐานะที่ดูกฎหมายเก่าที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดโซนนิ่ง ซึ่งไม่ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันออกไป โดยคาดว่ารัฐบาลจะผลักดันออกมาให้ได้ภายในเดือนมกราคม 2569”
ทั้งนี้ที่ผ่านมาจากการออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 ซึ่งขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด/พื้นที่ ทั้งกรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้พบว่ามีปัญหาในด้านการขึ้นทะเบียนของร้านค้าจำนวนมาก
“ในเร็ว ๆ นี้ กระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้รับไปดำเนินการจดทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ เพื่อให้ร้านขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สามารถขายได้ถึงตี 4 รวมทั้งยังปลดล็อคการกำหนดระยะเวลาห้ามขายด้วย คาดว่าจะทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้นหลายแสนล้านบาท”



