
ราชกิจจาฯประกาศ กฎหมาย "หวยเกษียณ" ฉบับ 2 ได้เงินคืน อายุ 60 ปี
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกฎหหมาย กองทุนการออมแห่งชาติ ฉบับ 2 ขายคนไทย 15 ปีขึ้นไป และได้เงินคืนตอนอายุ 60 ปี หาก 60 ปีขึ้นซื้อได้ คืนเมื่อครบคราว 5 ปี
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ "พระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568" ซึ่งมีสาระสำคัญในการเพิ่มอำนาจให้ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สามารถ "ออกและขายสลากออมทรัพย์เพื่อดำรงชีพในยามชราภาพ" หรือที่เรียกว่า "สลาก กอช." หรือ "หวยเกษียณ" เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของประชาชนสำหรับการดำรงชีพในยามชราภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น โดยกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 60 วันนับจากวันที่ประกาศ คาดว่าจะเริ่มขายงวดแรกในเดือน ม.ค.2569
โดย จำหน่ายให้คนไทย อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี เมื่อผู้ฝากอายุครบ 60 ปี ให้กองทุนคืนเงินออมทรัพย์ทั้งหมดแก่ผู้ออม ส่วนผู้ออมที่อายุเกิน 60 ปี ซื้อสลาก กอช. ได้เป็นคราวๆ โดยแต่ละคราวมีกำหนดเวลา 5 ปี นับแต่วันซื้อสลาก กอช. ครั้งแรกในคราวนั้น และให้กองทุนคืนเงินออมทรัพย์ทั้งหมดในคราวนั้นแก่ผู้ออม เมื่อครบ 5 ปี ดังกล่าวทุกคราว
หากต้องการซื้อให้แสดงความจำนงต่อกองทุน สำหรับ ราคา จำนวน รูปแบบ สลาก กอช. การออกรางวัล ลำดับรางวัล จำนวนรางวัล จำนวนเงินรางวัล และ เงื่อนไขอื่นๆ ทั้งการออกและขายสลาก ให้รัฐมนตรีออกกฎกระทรวงกำหนด อย่างไรก็ตาม หากไม่มีผู้ถูกรางวัล ให้นำเงินไปตั้งหรือสมทบงวดถัดไปได้
ทั้งนี้ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 74 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มีหรือส่งเสริมการออมเพื่อการดำรงชีพเมื่อพ้นวัยทำงาน แต่เนื่องจากในปัจจุบัน ระบบการออมเงินเพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพที่มีอยู่ของประเทศไทยยังไม่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม และประชาชนที่เข้าสู่ระบบการออมเงินดังกล่าวยังมีจำนวนไม่มาก และโดยที่กองทุนการออมแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจในการส่งเสริมการออมขั้นพื้นฐานของประเทศ
สมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อกำหนดให้กองทุนการออมแห่งชาติมีหน้าที่และอำนาจในการออกและขายสลากออมทรัพย์ เพื่อส่งเสริมการอมทรัพย์แก่ประชาชนสำหรับการดำรงชีพในยามชราภาพ โดยการออกและขายสลากให้แก่ผู้ซึ่งประสงค์จะออมทรัพย์เมื่อเริ่มต้นวัยทำงาน และนำเงิน
ที่ได้รับจากการขายสลากดังกล่าวไปหาประโยชน์ และคืนเป็นเงินออมทรัพย์ในยามชราภาพให้แก่ผู้นั้น เมื่อมีอายุตามที่กำหนด อันจะเป็นการจูงใจให้ประชาชนมีการออมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/89707.pdf



