ข่าว

สุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” ขอทำหน้าที่เพื่อชาติแม้ป่วยมะเร็ง

สุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” ขอทำหน้าที่เพื่อชาติแม้ป่วยมะเร็ง

01 พ.ย. 2568

ครอบครัวสุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” นักรบภูมะเขือ ขอทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติให้ถึงที่สุด แม้จะป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 237 ม.9 ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ จ.ส.อ.พลพร  ทาบรรหาร อายุ 42 ปี ทหารสังกัดกองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 16 ( ร.16 พัน.2 ร้อย.1) ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว (มะเร็งตับ) หลังปฏิบัติหน้าที่ทหารกล้าที่ภูมะเขือ เหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจนวินาทีสุดท้าย แม้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็ไม่ยอมลงมารักษาตัว ยังปฏิบัติหน้าที่รักษาผืนแผ่นดินของชาติ และอยู่คู่เคียงบ่า เคียงไหล่ทีมงานจนสถานการณ์คลี่คลาย จึงกลับมารักษาตัว ก่อนจะเสียชีวิต เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านเกิดใน จ.กาฬสินธุ์  ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน นายจีรศักดิ์ จราฤทธิ์ กำนันตำบลนามะเขือ นายอำคา โทรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านนามะเขือ ม.9 พร้อมด้วยเพื่อนข้าราชการทหารมาช่วยงานและแสดงความเสียใจ

สุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” ขอทำหน้าที่เพื่อชาติแม้ป่วยมะเร็ง

นางหนูพลอย ทาบรรหาญ แม่ของจ.ส.อ.พลพร ทาบรรหาร กล่าวว่า  ลูกชายรับราชการทหารมา 20 กว่าปีแล้ว มีภรรยา และลูกชาย 1 คน ทั้งนี้เดิมจับสลากได้ใบแดงเป็นทหาร ก่อนจะสอบได้นายสิบ เป็นทหารที่ จ.ยโสธร ซึ่งช่วงก่อนหน้าที่จะมีการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ลูกชายได้ไปตรวจที่โรงพยาบาล พบก้อนเนื้องอกที่ตับ แพทย์บอกว่าเป็นมะเร็งตับระยะที่ 3-4 หรือระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งมีอาการปวดท้องบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้ยินลูกชายบ่น หรือบอกว่าปวดท้อง เนื่องจากลูกชายมีความอดทนมาก และจะไม่ยอมแสดงอาการอ่อนแอให้ใครเห็นง่ายๆ

สุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” ขอทำหน้าที่เพื่อชาติแม้ป่วยมะเร็ง

นางหนูพลอย เล่าว่า กระทั่งช่วงระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค. 2568 ซึ่งเกิดการปะทะกัน จ.ส.อ.พลพร บอกแม่ว่า จะขอทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติให้ถึงที่สุด และจะขอทำหน้าที่ดูแลทีมงานที่สู้รบด้วยกันให้ถึงที่สุดที่ภูมะเขือ แม้แม่จะพยายามบอกลูกชายให้เดินทางกลับมารักษาตัว แต่ลูกชายก็ไม่ยอมลงมาทำการรักษาต่อ และบอกว่าหากตายก็จะยอมตายในชุดทหารออกรบ พร้อมกับได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ภูมะเขือต่อไปจนเหตุการณ์สงบคลี่คลายลง และได้เดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ และได้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ด้วยอาการสงบ

สุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” ขอทำหน้าที่เพื่อชาติแม้ป่วยมะเร็ง

นางหนูพลอย เล่าต่อว่า แม้การจากไปของลูกชายจะสร้างความเสียใจให้กับตน และครอบครัวอย่างมาก แต่ตนก็ภูมิใจที่ลูกชายทำหน้าที่เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัยจนถึงวินาทีสุดท้าย ไม่ห่วงตัวเอง เห็นประเทศชาติมาก่อน ไม่ยอมทิ้งเพื่อนร่วมทีม แม้ตัวเองจะเจ็บปวดจากโรคภัย ซึ่งหลังจากนี้ทางครอบครัวก็จะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป  และจะมีพิธีฌาปนกิจวันที่ 3 พ.ย. 2568

สุดอาลัย “จ.ส.อ.พลพร ” ขอทำหน้าที่เพื่อชาติแม้ป่วยมะเร็ง

 

นางหนูพลอย กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดงานศพก็ได้รับการดูแล จากหน่วยทหารต้นสังกัด ผู้บังคับบัญชาของ จ.ส.อ.พลพร เพื่อนทหาร รุ่นน้อง เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองอำเภอสหัสขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก และจัดงานพิธีงานศพ จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ความช่วยเหลือดังกล่าว

 

ด้านสิบเอกธีระพงษ์ ประทุม อายุ 28 ปี ทหารรุ่นน้องในทีม กล่าวว่า ภูมิใจและภาคภูมิใจมากที่ได้ร่วมงาน และร่วมสู้รบกับพี่ จ.ส.อ.พลพร ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จ.ส.อ.พลพร เป็นทั้งพี่ชาย เป็นทั้งหัวหน้าทีม เป็นทั้งเพื่อนรุ่นพี่ที่ดูแลน้องๆร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน และที่สำคัญได้ทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง และทีมงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่ยอมทิ้งเพื่อน ไม่ยอมทิ้งน้อง ไม่ยอมทิ้งพี่แม้ตัวเองจะเจ็บป่วย  ซึ่งตนและรุ่นน้อง พร้อมด้วยเพื่อนๆ จะไม่มีวันลืมความดีและไม่มีวันลืมจ.ส.อ.พลพรตลอดไป