"สุชาติ" ถกแนวทางพาช้างไทยกลับบ้าน เตรียมบินต้น พ.ย. นี้ | คมชัดลึก

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หารือการทวงคืนช้างไทยทูตสันถวไมตรี 2 เชือก คือ "พลายประตูผา" และ "พลายศรีณรงค์" จากประเทศศรีลังกา

 

โดยการประชุมวันนี้ 28 ต.ค มีกลุ่มทวงคืนช้างไทย มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา สถานเอกอัครทูต ณ กรุงโคลัมโบ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เพื่อวางแผนเจรจาและเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

 

โดยมีข้อสรุปให้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ขึ้นมาดำเนินการ มีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นรองประธาน เพื่อกลั่นกรองแนวทางการเจรจาที่ดีที่สุดและนำช้างทั้งสองเชือกกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุด

 

​นายสุชาติ เผยว่า ได้หารือกับนายพจน์ หาญพล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคลัมโบ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางเจรจา โดยได้รับข้อมูลสำคัญว่า ช้างทั้งสองเชือกเป็นช้างที่พระราชทานให้แก่ประธานาธิบดีศรีลังกาในสมัยนั้น ซึ่งมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวงมานานแล้ว โดยถูกส่งไปประจำตามวัดต่างๆ ในศรีลังกา เพื่อนำไปใช้งานแห่พระเขี้ยวแก้ว เนื่องจากช้างไทยมีงาที่สวยงาม ซึ่งช้างของศรีลังกาส่วนใหญ่มักไม่มีงา

นายสุชาติ ยืนยันหนักแน่นว่า จะต้องเดินทางไปยังศรีลังกาด้วยตนเองในต้นเดือน พ.ย. นี้ โดยจะนำทีมสัตวแพทย์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ และอธิบดีกรมอุทยานฯ ร่วมคณะไปด้วย เพื่อตรวจสุขภาพช้าง และใช้ผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเจรจา

 

​"แม้จะเป็นการเจรจาที่ยาก แต่เราก็ต้องให้เหตุผลไปว่าในเรื่องของการใช้งาน ที่อายุของการใช้งานได้อีกไม่นาน ก็ต้องปลดระวางการใช้งาน จะให้ได้หรือไม่ โดยเฉพาะ 'พลายประตูผา' ที่มีอายุถึง 50 ปีแล้ว ซึ่งใช้งานได้อีกไม่นาน เราก็จะขอเขาตรงๆ" 

 

 

นายสุชาติย้ำถึงความจำเป็นในการนำช้างกลับมาดูแลรักษาในช่วงบั้นปลายชีวิตในมาตุภูมิ ปฏิบัติการทวงคืนช้างไทยครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายทางการทูตครั้งสำคัญ ที่รัฐบาลไทยและภาคประชาชนกำลังร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ "พลายประตูผา" และ "พลายศรีณรงค์" ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด

​