คมจบให้สรุปคดี  "เจ้าของเพจดัง" จ้างแม่บ้านวางยาพิษผัวหวังปลิดชีพ | คมชัดลึก

 

คมจบให้สรุปคดีสะเทือนขวัญ เจ้าของเพจดัง  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับบุกเข้าจับกุม น.ส.นันทวรรณชยา ภาจิตประพันธ์ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาในคดีอุกฉกรรจ์ "เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" โดยรวบตัวได้ที่คอนโดมิเนียมหรู ย่านราชเทวี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ต.ค. 2568

 

 

น.ส.นันทวรรณชยา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "พี่แหม่ม" เจ้าของเพจดังสายสุขภาพที่ใช้ชื่อว่า "พี่แหม่ม หัวใจใหญ่กว่ามะเร็ง" ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร โดยจบการศึกษาด้านแพทย์แผนไทยและกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก

 

 

พฤติการณ์สุดโหด: จ้างวานฆ่าสามีด้วยยาพิษ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 สามีของ น.ส.นันทวรรณชยา ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา ว่าถูกผู้ต้องหาซึ่งเป็นภรรยาวางแผนปองร้ายถึงชีวิตจากการสืบสวนพบว่า ระหว่างช่วงเดือนตุลาคม ถึง ธันวาคม 2567 ผู้ต้องหาได้ "ใช้ให้แม่บ้านวางยาพิษ" เพื่อพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.มานพ เกิดประโคน สว.สส.สน.บางชื่อ ได้ติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหามาปรากฏตัวที่คอนโดมิเนียมหรูย่านราชเทวี จึงเข้าตรวจสอบและแสดงหมายจับต่อผู้ต้องหา น.ส.นันทวรรณชยา ได้ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2568 เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงหลังจากมีการนำเสนอข่าวดังกล่าวโดยระบุว่า....ถึงลูกเพจของพี่แหม่ม​จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ​"ตามหลักกฎหมาย พี่แหม่มยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด" ​การแสดงความคิดเห็น, การแชร์ หรือการส่งต่อข้อมูลใด ๆ ที่มีลักษณะเป็นการใส่ความ ยืนยันข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ หรือกล่าวโทษพี่แหม่มโดยขาดความชอบธรรม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและเกียรติยศ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

 

​ขณะนี้ แอดมินได้เก็บหลักฐานข้อความและข้อมูลการเผยแพร่ต่าง ๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว และพี่แหม่มได้มอบหมายให้ฝ่ายทนายความเข้าดูแลและดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อผู้ที่กระทำผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หรือการกระทำอื่นใดที่ก่อให้เกิดความเสียหาย จึงขอให้ทุกท่านยุติการกระทำดังกล่าวทันที และขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดในการแสดงความคิดเห็นบนพื้นที่สาธารณะ