ข่าว

พระราชดำริ 'พระพันปีหลวง' สู่โขนไทย มรดกโลก เอกลักษณ์วัฒนธรรมชาติ

พระราชดำริ 'พระพันปีหลวง' สู่โขนไทย มรดกโลก เอกลักษณ์วัฒนธรรมชาติ

27 ต.ค. 2568

พระราชดำริ '"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง"' สู่โขนไทย มรดกโลก เอกลักษณ์วัฒนธรรมชาติ

"โขน"นาฏกรรมชั้นสูงของไทย ที่มีบันทึกไว้ว่า สืบสาน ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่ "สมัยกรุงศรีอยุธยา"เป็นราชธานี ใช้แสดงในราชสำนัก งานพิธีหลวง และถ่ายทอดคติคุณธรรมผ่านบท "รามเกียรติ์" ผ่านยุคสมัยมาจวบจนปัจจุบัน ที่ "โขน"ประเทศไทย ได้ขึ้นทะเบียนเป็น "มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ"

 

พระราชดำริ \'พระพันปีหลวง\' สู่โขนไทย มรดกโลก เอกลักษณ์วัฒนธรรมชาติ

ในช่วงหนึ่ง "การแสดงโขน" เกิดภาวะซบเซา มีคนแสดงน้อย ผู้ชมลดลง งานหัตถศิลป์ที่เกี่ยวข้องก็อ่อนแรงลง ภายใต้ความห่วงใยนี้ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ทรงมีพระราชดำริว่า "ถ้าไม่มีใครดู ฉันจะดูเอง" เพื่อฟื้นฟูศิลปะการแสดงโขนขึ้นใหม่ 

  • พระองค์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 300,000 บาท ให้ กรมศิลปากร เพื่อค้นคว้าและพัฒนาเครื่องแต่งกายโขนตามแบบโบราณขึ้นมาใหม่
     
  • พระองค์ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้มีการคัดเลือกนักแสดงรุ่นใหม่ให้เข้ามามีส่วนร่วม สร้างโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้ศิลปะโขนอย่างจริงจัง
     
  • ด้วยพระราชกรณียกิจอันทรงคุณค่านี้ การแสดงโขนที่อยู่ภายใต้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงมีชื่อเรียกว่า "โขนพระราชทาน หรือ โขนศิลปาชีพ" 

 

พระราชดำริ \'พระพันปีหลวง\' สู่โขนไทย มรดกโลก เอกลักษณ์วัฒนธรรมชาติ  

จุดเด่น และ ความสำคัญ

 

  • โขนพระราชทานไม่เพียงแค่การแสดงโขนแบบเดิม แต่ผสมผสานงานหัตถศิลป์และวิจิตรศิลป์ไทยอย่างครบถ้วน ทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ฉากเวที ดนตรีไทย ฯลฯ 

 

  • มีการใช้ผ้าทอไทยชั้นสูง เช่น "ผ้ายกเมืองนคร(นครศรีธรรมราช)" ที่ถูกฟื้นขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของพัสตราภรณ์โขน เพื่อเชิดชูงานหัตถศิลป์ไทยให้ยั่งยืน 

 

  • เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ในการประชุมของ องค์การยูเนสโก ณ สาธารณรัฐมอริเชียส โขนไทยภายใต้ชื่อภาษาอังกฤษ Khon, masked dance drama in Thailand ได้ขึ้นทะเบียนเป็น "มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ" (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) ซึ่งเป็นรายการแรกของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน 

 

การขึ้นทะเบียนดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าโขนไม่ใช่แค่ "การแสดง" แต่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมไทยทั้งมวล ที่มีคุณค่าในระดับนานาชาติ โครงการโขนพระราชทานช่วยให้มีการคัดเลือกนักแสดงรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น แสดงถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น งานหัตถศิลป์ที่เกี่ยวข้องได้รับการฟื้นฟู มีชีวิตชีวาขึ้น มีคนสนใจศึกษาและฝึกฝนเพิ่มมากขึ้น

 

ทำไมจึงถือว่าเป็น “เอกลักษณ์ไทยที่จับต้องไม่ได้”

เพราะโขนรวมเอาองค์ความรู้หลายแขนง ทั้งนาฏศิลป์ ดนตรี บทเจรจา วรรณคดีไทย งานหัตถศิลป์ และอัตลักษณ์ไทยแบบแท้ ซึ่งไม่สามารถจับวัตถุเดียวได้ แต่เป็นกระบวนการ และประสบการณ์ ที่ต้องสืบทอด

การขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกทำให้โขนได้รับการยอมรับถึงระดับ “มรดกของมนุษยชาติ” มากไปกว่าวัตถุหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ 

 

สรุปสำหรับผู้สนใจ

หากคุณอยากสัมผัสความงดงามของศิลปะไทยอย่างแท้จริง ลองชมการแสดงโขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ไม่เพียงเป็นความบันเทิงแต่ยังเป็นบทเรียนวัฒนธรรมไทย ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปวัฒนธรรมไทยไม่สูญหาย และขึ้นเป็นมรดกโลกที่เราทุกคนควรภาคภูมิใจ

 

พระราชดำริ \'พระพันปีหลวง\' สู่โขนไทย มรดกโลก เอกลักษณ์วัฒนธรรมชาติ