
"หม่อมหลวงวันรัชดา" ฝากความหวัง "สุชาติ" พาช้างไทยในศรีลังกากลับบ้าน
"หม่อมหลวงวันรัชดา" โพสต์ถึง 2 ทูตสันถวไมตรี ถาม ทูตหรือทาสในคราบศาสนา พร้อมฝากถึง "สุชาติ" ขอบคุณเข้าใจอารมณ์คนไทย ไม่รอช้า เตรียมเจรจาทูตศรีลังกา
"คุณจ๊ะโอ๋" หรือ หม่อมหลวง วันรัชดา วรวุฒิ อีก 1 บุคคลที่ออกมาเรียกร้องนำพา "พลายศรีณรงค์" และ "พลายประตูผา" กลับประเทศ ด้วยการโพสต์และแท็กถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรฯ ฝากความหวังนำพา 2 ทูตสันถวไมตรี กลับบ้านเรา
“ทูตของเรา…ถูกทรมานมากี่ปีแล้ว?”
พลายศรีณรงค์ - ช้างทูตไทย ที่ถูกส่งไปศรีลังกาในนาม “มิตรภาพระหว่างประเทศ” แต่สิ่งที่โลกเห็นทุกวันนี้ คือโซ่ที่ล่ามเท้า เหล็กที่บาดหลัง
และดวงตาที่ไม่มีแววเหลือของคำว่า “มิตรภาพ” อีกต่อไป
ถ้านี่คือสิ่งที่เรียกว่า “การให้เกียรติ” เราคงต้องถามกลับว่า - ศักดิ์ศรีของชาติไทยอยู่ตรงไหน?
ช้างไทยไม่ใช่ของฝาก ไม่ใช่ของตกแต่งพิธี แต่คือชีวิตที่มีหัวใจ มีความทรงจำ และมีความรู้สึก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - กรมอุทยานแห่งชาติฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ กระทรวงการต่างประเทศ ต้องไม่เพียง “รับรู้” แต่ต้อง “ลงมือ” เพราะการนิ่งเฉยคือการยอมให้ความทรมานดำเนินต่อไป
ไม่ใช่เพื่อภาพลักษณ์ แต่เพื่อ “ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์” ที่ไม่ยอมให้สัตว์ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของชาติ ต้องร้องไห้อยู่ไกลบ้าน
เพราะช้างคือ “มรดกทางวัฒนธรรม” ไม่ใช่ของเล่นทางการทูต หรือเหยื่อของความนิ่งเฉยจากผู้มีอำนาจ
ถ้าช้างคือสัญลักษณ์ของชาติ หน่วยงานรัฐก็ควรเป็นสัญลักษณ์ของ “ความรับผิดชอบ” อย่าปล่อยให้คำว่า “มิตรภาพ” แปลว่า “ความทรมาน” ของช้างไทยอีกต่อไป
ฉันติดตามเรื่องของ “พลายศรีณรงค์” ทุกวัน
หวังว่าสักวัน…เขาจะได้กลับบ้านจริง ๆ
โคตรสงสาร
ทูตหรือทาสในคราบศาสนา
ขณะที่ความเคลื่อนไหวฟากฝั่งรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย อนุมัติให้นายสุชาติ เดินทางไปยังศรีลังกา เพื่อเจรจาขอนำ "พลายศรีณรงค์" และ "พลายประตูผา" กลับมา ซึ่งหม่อมหลวงวันรัชดา ได้ขอบคุณนายสุชาติ ระบุว่า เป็นรัฐมนตรีที่เข้าใจอารมณ์ของประชาชนจริงๆ เห็นปัญหาแล้วขยับทันที ไม่รอ ไม่ผลัดวัน การลงมือเร็วแบบนี้ น่าชื่นชมและน่าสนับสนุน เพราะเรื่องของ “ชีวิต” รอไม่ได้ วันนี้ท่านกำลังทำในสิ่งที่หัวใจคนไทยทั้งประเทศเฝ้ารออยู่จริง ๆ
จากช้างพระราชทาน…สู่ช้างที่ต้องอยู่ไกลบ้าน
พลอากาศเอก อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เล่าไว้ว่า ในปี 2545 ประธานาธิบดีศรีลังกาได้ทำหนังสือถึง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เพื่อขอช้างพลายที่สง่างามจากประเทศไทยไปใช้ในพิธีอัญเชิญ “พระบรมสารีริกธาตุ” ตามประเพณีที่ช้างเป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธาในพระพุทธศาสนา
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเห็นว่าเป็นการเชื่อมความศรัทธาระหว่างสองประเทศ จึงโปรดให้กรมป่าไม้จัดหาช้างสองเชือกจากจังหวัดสุรินทร์ คือ “พลายศรีณรงค์” และ “พลายประตูผา” พร้อมควาญช้างไทยประจำเชือกละสองคน เดินทางไปกับเครื่องบิน C-130 โดยมี นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นหัวหน้าคณะ ทั้งสองพลายเป็นช้างเชื่อง ฉลาด และผ่านการฝึกอย่างดี สามารถหมอบ คลาน ทำความเคารพ และทำท่าทางตามคำสั่งได้
สมเด็จพระนางเจ้าฯ ยังพระราชทานทุนให้ควาญช้างไทยอยู่ประจำกับช้างแต่ละเชือกเป็นเวลา 3 ปี เพื่อถ่ายทอด “ภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างแบบไทย” - ที่ใช้เสียง ใช้ใจ และใช้ความอ่อนโยน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุปสรรคด้านภาษาและวัฒนธรรมทำให้การถ่ายทอดไม่สำเร็จ ควาญช้างไทยไม่สามารถสื่อสารกับควาญท้องถิ่นได้ดีนัก เมื่อครบ 3 ปีจึงต้องกลับประเทศไทย เหลือเพียงสองพลายที่ต้องอยู่ในระบบการเลี้ยงแบบศรีลังกา ซึ่งต่างจากวิถีไทยโดยสิ้นเชิง



