ให้ออกจากราชการ! ฟันวินัยซ้ำ "ครูวอลเลย์บอล" ล่วงละเมิดนักเรียน
สพฐ. สั่งลงดาบ "ครูวอลเลย์บอล" ล่วงละเมิดนักเรียน ให้ออกจากราชการ-ฟันวินัยซ้ำ ย้ำ ลงโทษเด็ดขาด
20 ต.ค. 2568 นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์ กรณีครูสอนวอลเลย์บอลของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ถูกผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีพฤติกรรมล่วงละเมิดนักเรียนจำนวนหลายราย ซึ่งทาง สพฐ. ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัดแล้ว
โดยขณะนี้ครูคนดังกล่าวได้ถูกดำเนินการทางวินัยโดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว หากพบว่ามีมูลความผิดเป็นไปตามข้อกล่าวหาจริง จะดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด ส่วนทางด้านการดำเนินคดีทางกฎหมาย ได้ให้นิติกรของ สพฐ. ไปดูข้อกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด โดยทางโรงเรียนและเขตพื้นที่ฯ จะติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้ให้ ศสป.สอ.ประสานคณะทำงานสหวิชาชีพด้านจิตวิทยาลงพื้นที่เยียวยาสภาพจิตใจนักเรียนอย่างเร่งด่วน โดยดำเนินการตามมาตรการคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน มาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และให้นักจิตวิทยาเขตพื้นที่ฯ ประเมินสภาพจิตใจนักเรียนที่ถูกกระทำ และให้ขวัญกำลังใจนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน
พร้อมทั้งกำชับเน้นย้ำเรื่องสิทธิการคุ้มครองเด็ก โดยจะต้องไม่มีการละเมิดสิทธิและโรงเรียนจะต้องไม่เพิกเฉยต่อเหตุความรุนแรงในสถานศึกษาทุกมิติ เนื่องจากประเด็นเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษาโดยเฉพาะนักเรียนและครู เป็นเรื่องที่ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญและกำชับมาโดยตลอด
"การที่ครูแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อนักเรียน เป็นการกระทำที่ขัดต่อจรรยาบรรณวิชาชีพและนโยบายของ สพฐ. อย่างร้ายแรง เนื่องจากโรงเรียนต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ สพฐ. ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับ ติดตาม สถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยและแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด หากเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวต้องคำนึงถึงสภาพจิตใจของนักเรียนเป็นสำคัญ และดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาด รวมถึงเอาใจใส่ ตรวจตราความปลอดภัยในโรงเรียนอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว