
พม. จัดงาน Job and Market Fair เปิดตลาดสร้างงาน-อาชีพช่วยคนพิการ
พม. ดึงเครือข่ายจัดงาน Job and Market Fair เปิดตลาดสร้างงาน-อาชีพช่วยคนพิการ เตรียมแก้ประกาศกระทรวง เพิ่มโอกาสเข้าถึงสิทธิสวัสดิการมากขึ้น
20 ต.ค. 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดโครงการ Job and Market Fair : “มหกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพคนพิการ” เพื่อส่งเสริมศักยภาพและสร้างโอกาสให้คนพิการมีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน ด้วยการมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะอาชีพและทักษะดิจิทัล ด้วยการเปิดพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการ เชื่อมโยงกับสถานประกอบการเพื่อการจ้างงานคนพิการ
โดยมี นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) คณะผู้บริหารกระทรวง พม. คนพิการพร้อมครอบครัวคนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ อาสาสมัคร เครือข่ายคนพิการทั้งภาครัฐ ธุรกิจเอกชน และประชาสังคม รวมถึงสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน รวมทั้งสิ้น จำนวน 5,000 คน ณ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา กรุงเทพมหานคร
นายอัครา กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลด้วยการ "สร้างรายได้ ลดรายจ่าย" ให้กับพี่น้องกลุ่มเปราะบางและประชาชน ใช้ชีวิตประจำวันผ่านนโยบาย "พม.ใกล้คุณ" ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิต
ซึ่งการจัดงาน Job and Market Fair : “มหกรรมสร้างงาน สร้างอาชีพคนพิการ” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 21 ตุลาคม 2568 นอกจากนี้ยังมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการอย่างยั่งยืน , พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัล ภายใต้โครงการ WE CAN DO เพื่อยกย่องคนพิการต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจและความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนพิการ , ตลาดอาชีพและสินค้าคนพิการกว่า 300 ร้านค้า , เวทีเสวนาและเวิร์กชอปสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพ , การสาธิตอาชีพเชิงสร้างสรรค์ ตอบโจทย์เศรษฐกิจยุคใหม่ , การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง อาทิ เก่ง ธชย, นัน อนันต์ ไมค์ทองคำ และไรอัล กาจบัณฑิต และการแสดงความสามารถของคนพิการ วงดนตรีคนพิการ S2S ถ่ายทอดบทเพลงแห่งแรงบันดาลใจ ภายใต้แนวคิด "ความพิการไม่ใช่อุปสรรคของความสามารถ"
งานดังกล่าวเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามนโยบาย “พม.ใกล้คุณ” ด้วยการสนับสนุนการสร้างงานและอาชีพให้กับครอบครัวเปราะบาง โดยเฉพาะคนพิการในประเทศไทย ที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านร่างกาย เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อทำให้คนพิการเข้าถึงตลาดแรงงานและรายได้ที่มั่นคง โดย พม.มีแผนระยะเร่งด่วนมุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจ “เร่งสร้างคุณภาพชีวิตคนพิการ” ซึ่งมีความท้าทายสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ ใน 3 ประเด็น
1) เร่งทบทวนหลักเกณฑ์การประเมินความพิการให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงโอกาสในการเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และบริการของรัฐ รวมถึงการทำงานและประกอบอาชีพ
2) การปรับเปลี่ยนแนวคิดในการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการ โดยพิจารณาศักยภาพของคนพิการเป็นลำดับแรก เพื่อนำไปสู่การกำหนดตำแหน่งงานที่เหมาะสม
3) บูรณาการทำงานร่วมกับท้องที่ - ท้องถิ่น “พม.ใกล้คุณ พก.ใกล้บ้าน” โดยการเชื่อมโยงกับศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัดและศูนย์บริการคนทั่วไปบนฐานการทำงานแบบมุ่งเป้า
นายอัครา กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 68 ตนได้มอบนโยบายในเรื่องการให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงคนพิการ ที่จะต้องเร่งในการให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการสังคม และวันนี้ก็เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้โอกาสคนพิการ ทั้งการช่วยเหลือเรื่องการให้อาชีพ สู่การลดรายจ่าย สร้างรายได้ โดยวันข้างหน้า จะมีอาชีพเป็นของตัวเอง
ด้านกระทรวง พม. และรัฐบาลจะเข้ามาส่งเสริมเรื่องการเพิ่มพื้นที่ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าจากฝีมือคนพิการ ซึ่งต้องดำเนินการร่วมกับหลายๆ กระทรวง และจะนำผลิตภัณฑ์สินค้าคนพิการมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี แล้วจะเชิญชวนให้รัฐมนตรีทุกท่านถ่ายภาพ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ในเพจของตนเองต่อไป นอกจากนี้มอบนโยบายให้กระทรวงแก้ไขเรื่องกฎหมาย ระเบียบ ประกาศของกระทรวง เพื่อคนพิการที่ยังไม่มีโอกาสสามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการสังคมต่อไป
นายอัครา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการขับเคลื่อนมาตรการสำคัญ Quick win ในช่วง 4-6 เดือน นั้น กระทรวง พม. โดยกรม พก. จะมีการขับเคลื่อนเรื่องการปรับเบี้ยยังชีพความพิการ 1,000 บาทถ้วนหน้า ซึ่งภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ จะมีการประชุมคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์ความพิการที่จะมีการปรับสำหรับคนพิการทางสายตาข้างเดียวในการเข้าถึงสิทธิมากขึ้นนั้น ที่ผ่านมาเราเคยอิงในเรื่องการประเมินทางด้านการแพทย์หรือสาธารณสุขมากเกินไป ซึ่งกระทรวง พม. เราดูแลทั้งกายภาพและจิตใจ โดยสิ่งแรกที่เราต้องทำเร่งด่วนคือ ลดอัตราความพิการทางใจของคนพิการ ด้วยการให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการสังคมมากขึ้น ซึ่งเกณฑ์ความพิการดังกล่าวเป็นประกาศกระทรวง พม. ที่ทางคณะผู้บริหารกระทรวง สามารถที่จะแก้ไขได้ โดยไม่ต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการสังคมมากขึ้น