
คืนที่ 3 จัดให้เบิ้มๆ ฉายสารคดี "แคมป์ 511" ค่ายอพยพบ้านหนองจาน
คืนที่ 3 จัดให้เบิ้มๆ ฉายสารคดี "แคมป์ 511" ไทยเปิดค่ายอพยพบ้านหนองจาน รับกัมพูชา หนีภัยสงครามกลางเมือง เมื่อครั้งในอดีต
จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชา ได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านโจกเจยและหมู่บ้านเปรยจัน เพื่อสังเกตการณ์ ตรวจสอบ การปิดเครื่องเสียงผ่านลำโพงของฝ่ายไทย อ้างเป็นการข่มขู่และคุกคามทางจิตใจและสร้างความรำคาญแก่ชาวกัมพูชาในพื้นที่
12 ต.ค. 2568 กองทัพภาคที่ 1 ระบุว่า ทีมงานของฝ่ายไทย ได้ทำการกระจายเสียงเกี่ยวกับสารคดีประวัติศาสตร์ในค่ายอพยพ เมื่อประชาชนกัมพูชาหนีภัยสงครามกลางเมืองมาพึ่งพาอาศัยในพื้นที่ประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบรถแห่ เครื่องเสียงขนาดใหญ่ จำนวน 4 คัน ขับเข้ามาตัวบริเวณลานจอดหน้าด่าน คาดว่า เตรียมใช้แสดงออกเชิงจิตวิทยา เปิดเสียงผี เสียงสยองขวัญต่าง ๆ เหมือนกับช่วง 2 คืนที่ผ่านมา
ส่วนบรรยากาศฝั่งกัมพูชา ชาวกัมพูชาบริเวณด้านหน้าแนวใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 มีทหารเขมรคุมพื้นที่อยู่ พร้อมกับชาวบ้านบางส่วนประมาณ 10 คนเท่านั้น ขณะที่บริเวณหน้าแนวลวดหนามหีบเพลงและแนวผ้าสแลนดำ ไม่มีชาวกัมพูชามารวมตัวแต่อย่างใด
มีรายงานด้วยว่า กรณีเสียงผี ทำให้ฝั่งกัมพูชาต้องนิมนต์พระสงฆ์ มาพรมนํ้ามนต์ให้กับทหารเขมรที่จะไปสับเปลี่ยนกำลังที่ชุมชนบ้านเปรยจันทร์ ตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว และอีกส่วนหนึ่งไปประจำการที่แนวหน้าด้วย
ด้าน "กัน จอมพลัง" โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า คืนที่ 3 วันนี้เตรียมรับชมเทศกาลภาพยนตร์ริมชายแดนครั้งที่ 1 ภาพชัดเครื่องเสียงดังเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง มีหนังฉายตั้งแต่หัวค่ำยันเช้า หนังไฮไลท์เป็นหนังเขมรหนีตายขอพึ่งใบบุญประเทศไทย
บ้านหนองจาน : “สะพานชีวิต” แห่งมนุษยธรรมไทย
เพจ SMART Soldiers Strong ARMY เผยข้อมูล ค่ายผู้อพยพ "หนองจาน" หรือ "Camp 511" อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว คือหนึ่งในค่ายพักพิงแรก ๆ ที่ไทยเปิดรับผู้ลี้ภัยกัมพูชาหลังสงคราม ภายใต้การดูแลของรัฐบาลไทยและ UNHCR ปี 2522–2523 มีผู้อพยพกว่า 40,000 คน ได้รับอาหาร ยารักษาโรค เมล็ดพันธุ์ และความปลอดภัยจากทหารไทย
หนองจานจึงไม่ได้เป็นเพียง “ค่ายผู้ลี้ภัย” แต่คือ “สะพานชีวิต (Land Bridge)” ที่ยื่นมือจากไทยไปสู่มนุษยธรรมโลก และครั้งหนึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังได้เสด็จฯ มาทรงเยี่ยมผู้ลี้ภัยด้วยพระองค์เอง
“หนองจาน” คือสัญลักษณ์ของการให้ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน ไทยแบ่งปันข้าวปลา อาหาร และที่พักพิง เพื่อให้เพื่อนบ้านที่หนีตายได้มีชีวิตรอด
จากที่พึ่งชีวิตสู่วิกฤติอ้างสิทธิ์ดินแดน เมื่อสงครามสงบ ชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งกลับ ไม่ยอมกลับประเทศ เลือกตั้งถิ่นฐานถาวรในเขตฝั่งไทย และต่อมากลับอ้างสิทธิ์ว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา
ฝ่ายกัมพูชาเอง ยังเพิกเฉยต่อการประท้วงของไทย แต่กลับส่งเสริมให้ราษฎรมาปลูกสร้างถาวรในพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ทั้งในและนอกเขตที่ไทยดูแล จนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสิทธิอธิปไตย
กองทัพยืนยันการใช้สันติวิธี และ หลักมนุษยธรรม มาโดยตลอด แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อม “ปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้วของผืนแผ่นดินไทย”
ไทยไม่เคยรุกรานใคร แต่ไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกล้ำ ประวัติศาสตร์บันทึกไว้แล้วว่า “เมื่อเขมรหนีตายไทยคือผู้ให้ แต่เมื่อเขมรฟื้นตัว กลับลืมผู้มีพระคุณ”