ข่าว

"สุชาติ" ลั่น ผมไม่ยอมแน่นอน กัมพูชาบุกรุกพื้นที่กรมป่าไม้บ้านหนองจาน

"สุชาติ" ลั่น ผมไม่ยอมแน่นอน กัมพูชาบุกรุกพื้นที่กรมป่าไม้บ้านหนองจาน

04 ต.ค. 2568

"สุชาติ" ยอมรับ สั่งให้ปักป้ายแสดงสิทธิ์ ให้กัมพูชาออกจากบ้านหนองจาน หากครบกำหนด ไม่ออก มีกฎหมายจัดการ พร้อมเผยภารกิจ เตรียมลุยเชียงราย ปมสารหนูในแม่น้ำกก

4 ต.ค. 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ติดป้ายเพื่อบังคับให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยยืนยันว่า เป็นพื้นที่ป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และได้มอบหมายให้กรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีเพื่อรักษาสิทธิ์ของรัฐ พร้อมทั้งให้ติดป้ายแสดงสิทธิ์ชัดเจน


ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดอยู่ภายใต้การกำกับของผู้ว่าฯ ซึ่งตนได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายความมั่นคง รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แล้ว โดยต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงดำเนินการก่อน

 

เรื่องนี้ผมไม่ยอมแน่นอน เพราะเป็นคนสั่งให้ปักป้ายแสดงสิทธิ์ และดำเนินคดีกับผู้บุกรุกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนสัญชาติใด หากเข้าครอบครองพื้นที่ป่าโดยผิดกฎหมาย ก็อยู่ไม่ได้

\"สุชาติ\" ลั่น ผมไม่ยอมแน่นอน กัมพูชาบุกรุกพื้นที่กรมป่าไม้บ้านหนองจาน

 

นายสุชาติ กล่าวว่า การแสดงสิทธิ์ของรัฐในพื้นที่ป่า โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีเหตุปะทะ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง สถานการณ์อาจลุกลาม


ส่วนประเด็นที่ใกล้ครบกำหนดให้ออกจากพื้นที่วันที่ 10 ต.ค. ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วจะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เพื่อขอให้ชาวกัมพูชาย้ายออกจากพื้นที่บ้านหนองจาน นายสุชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่กระทรวงฯ แล้ว โดยย้ำว่าเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้มีการประกาศกฎอัยการศึก ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ส่วนกระทรวงฯ จะสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กฎหมายในความรับผิดชอบของตนเป็นหลัก

 

การบังคับใช้กฎหมายต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด หากละเลยจะเข้าข่ายผิดมาตรา 157 เนื่องจากคนไทยยังต้องปฏิบัติตามกฎหมาย คนต่างชาติก็ต้องเช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติ และกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ พร้อมกำชับข้าราชการให้ดำเนินการอย่างเต็มที่และเต็มอัตราศึก
 

ขณะเดียวกันภารกิจนายสุชาติ วันที่ 5-6 ต.ค. ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อตรวจเยี่ยมการบริการจัดการพื้นที่ป่ามรดกโลกและการให้บริการนักท่องเที่ยวในจุดต่าง ๆ และในวันที่ 9 ต.ค. ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในลำน้ำกก จ.เชียงราย


นายสุชาติ กล่าวว่า การลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกในฐานะรองนายกฯ และ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และย้ำงานของอุทยานฯ ที่สำคัญคือ การให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาธรรมชาติ เราต้องทำตัวเป็นผู้ให้บริการที่ดีด้วย ไม่ใช่ใช้ความเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่เพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลพิทักษ์รักษาผืนป่า สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงเขตป่าต่าง ๆ ที่ต้องอนุรักษ์ไว้ให้ดีด้วยเช่นกัน 

 

เน้นย้ำเป็นอย่างยิ่ง คือ "การห้ามข้าราชการและเจ้าหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายเป็นอันขาด ถ้าพบเจอการเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะไม่เอาไว้เด็ดขาด"


สำหรับการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาในลำน้ำกกนั้น มีความตั้งใจที่จะไปลงพื้นที่เพราะเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ ถ้าไม่ไปรีบแก้ปัญหา เกรงว่าจะลุกลามจนเอาไม่อยู่ และจากการสอบถามอธิบดีกรมควบคุมมลพิษแล้วพบว่า การแก้ปัญหามีวิธีอยู่ สำหรับช่วงนี้ที่ตรวจแล้วไม่เจอสารหนูเกินมาตรฐานเพราะช่วงนี้มีน้ำฝนเยอะ ทำให้สารหนูเจือจาง จึงตรวจแล้วไม่เกินค่ามาตรฐาน 

 

แต่ถ้าวันหนึ่งที่ฝนแล้ง แล้วมีสารพิษมาจากฝั่งเมียนมาอีกจะแก้ไขอย่างไร จึงต้องลงไปดู เดี๋ยวจะขึ้นฮอไปดูว่า น้ำมาจากทางไหนที่ปล่อยลงมา เราจะดักสารตัวนี้อย่างไร แต่เบื้องต้นทราบว่าทางกรมควบคุมมลพิษ มีการเตรียมการวางแผนรับสถานการณ์ไว้แล้ว มีวิธีการอยู่ 


"การมารับหน้าที่ในครั้งนี้ ผมมีความตั้งใจที่จะมาทำงานกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมดของกระทรวงทรัพยากรฯ เพราะมีความเกี่ยวพันกับชีวิตของประชาชนไม่ใช่แค่ตั้งแต่เกิดจนตาย แต่เกี่ยวพันถึงตั้งแต่ยังอยู่ในท้องด้วย อีกปัญหาที่สำคัญในช่วงต่อจากนี้คือ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษต่าง ๆ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด รวมถึงการผลักดันการแก้ปัญหาโลกร้อน และการดำเนินการตาม พ.ร.บ. อากาศสะอาด หลังกฎหมายผ่านสภาฯ แล้วต้องรีบดำเนินการ เพราะท่านนายกรัฐมนตรี ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล ได้มอบหมายให้ดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ จะต้องทำให้เร็วที่สุด"


กระทรวงทรัพยากรฯ เป็นกระทรวงที่ภารกิจเยอะมาก แต่สนุก ข้าราชการกระทรวงและอธิบดีมีคนเก่งเยอะ ทำงานไม่ยาก เพราะเรามาระยะสั้น 4 เดือน ระยะกลาง 8 เดือน ระยะยาว 12 เดือน ถ้าเรามีโอกาสกลับเข้ามาใหม่อยู่กระทรวงนี้สามารถทำงานต่อได้เลย ฝากให้กำลังใจด้วย