อาการล่าสุด ลูกจ้างสาว ถูกลูกนายจ้าง เอาน้ำร้อนราดหัว เผยปมเหตุ | คมชัดลึก

จากกรณีเพจ "บ้านเฮียชาญ อุ้ยอุบล" โพสต์ภาพภาพหญิงสาวหน้าตาดี อายุ 22 ปี มีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก บริเวณท้ายทอยไปถึงหลัง มีผ้าพันแผลที่มือ และแขน พร้อมระบุข้อความ สรุปได้ว่า ผู้บาดเจ็บถูกน้องสาวของเจ้าของร้านจำหน่ายรถ จยย. ที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ ถือกาน้ำร้อนมาราดใส่ตั้งแต่ต้นคอจนถึงพื้น แล้วเดินกลับไปนั่งโต๊ะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

2 ต.ค. 2568 นางสาวเก๋ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี พี่สาวของ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 1 ต.ค. 2568 ขณะที่น้องสาว ทำงานอยู่ภายในร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ในตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีนางสาวบี (นามสมมุติ) ลูกสาวเจ้าของบริษัท นำน้ำร้อนที่ต้มเดือดใหม่มาราดศีรษะของน้องสาว จนร้องดิ้นลงกับพื้น 

ตนเองพอได้ยินเสียงน้องสาวร้อง จึงได้วิ่งออกไปดู พบว่านางสาวบี กำลังราดน้ำร้อนใส่น้องพอดี ตนและเพื่อนร่วมงานจึงได้วิ่งเข้าไปอุ้มน้อง แล้วนำส่งโรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำเข้าห้องผ่าตัดเพื่อลอกผิวหนังที่เสียหายออก ก่อนส่งเข้าไปสังเกตอาการที่ห้องปลอดเชื้อ

นางสาวเก๋ เล่าอีกว่า น้องสาวของตนทำงานที่บริษัทแห่งนี้มาประมาณ 3 ปี กับนางสาวบี ก็รู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะลูกสาวเจ้าของบริษัท ไม่เคยมีปัญหาหรือทะเลาะอะไรกัน จนกระทั่งประมาณ 2 เดือนก่อน ตนเพิ่งทราบจากน้องสาว ว่ากำลังคบหากับลูกชายเจ้าของบริษัท ซึ่งเป็นพี่ชายของนางสาวบี ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างเงียบ ๆ 

ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน พี่ชายของนางสาวบี เล่าให้ฟังว่า มีปากเสียงกับทางครอบครัวเรื่องมาคบหากับน้องสาวตน แต่ตอนนั้นก็ไม่มีความผิดปกติใด วันเกิดเหตุก็ไม่มีความผิดปกติ หรือสิ่งบอกเหตุใดๆ จนนางสาวบี เอาน้ำร้อนมาราดดังกล่าว ตนมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสาเหตุน่าจะมาจากการที่น้องสาว ไปคบหากับพี่ชายผู้ก่อเหตุ
 

สำหรับทางด้านคดี ล่าสุด พ่อของนางสาวบี พาลูกสาวมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ สาหัส เบื้องต้น นางสาวบี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวพิมพ์มือตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่นางสาวบี ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุไว้ในสำนวนแล้ว ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการรวบรวมเอกสารทางการแพทย์และจะนำตัวฝากขังต่อศาล