ข่าว

"แม่ทัพกุ้ง" เผย กัมพูชาป่วนช่วงสับเปลี่ยนตำแหน่ง แต่เชื่อมือแม่ทัพคนใหม่

"แม่ทัพกุ้ง" เผย กัมพูชาป่วนช่วงสับเปลี่ยนตำแหน่ง แต่เชื่อมือแม่ทัพคนใหม่

26 ก.ย. 2568

"พลโทบุญสิน" เผย รับเรื่องกัมพูชาเคลื่อยย้ายอาวุธ ช่วงสับเปลี่ยนตำแหน่ง แต่เชื่อไม่กระทบ มือแม่ทัพคนใหม่ ย้ำแม้เกษียณฯ ยังเป็นที่ปรึกษาอยู่

ความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชา ที่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทธโธปกรณ์เข้าพื้น ประชิดชายแดนไทย-กัมพูชา 

 

26 ก.ย. 2569 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการถอนกำลัง ยังไม่ทราบว่า ในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งกำลังทหารก็ต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้ว 

 

ส่วนที่ปรากฏภาพเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าพื้นที่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่ พลโทบุญสิน กล่าวว่า เป็นสิ่งบอกเหตุ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต เรื่องความขัดแย้งด้วยอาวุธ ยอมรับว่าผิดข้อตกลงอยู่แล้ว ก็ประท้วงไป 

 

ถือเป็นการก่อกวนในช่วงที่จะมีการรับมอบตำแหน่งของแม่ทัพภาคที่ 2 และตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ในกองทัพ แต่เชื่อว่า คงไม่มีผล ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ก็ทำหน้าที่อำนวยการยุทธก่อนหน้านี้อยู่แล้ว  ซึ่งรู้ขั้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว และหลังเกษียณตนก็ยังอยู่เป็นที่ปรึกษาของผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ก็เคยเป็นรองแม่ทัพ และอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด ในขณะที่การทำงานร่วมกับรัฐบาลก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันอยู่แล้ว โดยเตรียมจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ และจะอยู่ในพื้นที่จนกระทั่งวันสุดท้าย ซึ่งหลังจากเกษียณก็ยังไม่ไปไหน ยังอยู่กับประชาชน และทำงานตามที่ ผบ.ทบ.มอบหมาย
 

ส่วนที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กและขว้างระเบิดเข้ามานั้น ไทยก็ต้องใช้ความอดทน ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงมาโดยตลอด ส่วนเสียงปืนหรือเสียงระเบิด ก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกันอีกครั้ง ซึ่งผู้นำทางทหารของทั้ง 2 ประเทศต้องไปพูดคุยกัน

 

เมื่อถามว่า การตอบโต้เป็นอำนาจการตัดสินใจของทหารหรือรัฐบาล พลโทบุญสิน ระบุว่า ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันและต้องพิจารณาให้ครบถ้วนว่า ข้อดี ข้อเสีย ที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศชาติและความมั่นคง สิ่งที่จะได้มาคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งหากการปะทะมีเหตุผลน้อยและไม่เพียงพอ อาจจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติ แต่ถ้ามีเหตุผลเราก็พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย 

 

เมื่อถามย้ำว่า ทหารมีอำนาจเต็มใช่หรือไม่ พลโท บุญสิน ระบุว่า ถ้าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้ามีอำนาจเต็มอยู่แล้ว 
 

ส่วนกรณีพนักงานขนส่งพัสดุของบริษัทหนึ่ง โพสต์ภาพที่ตั้งของรถถังที่ประจำอยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา พลโทบุญสิน กล่าวว่า เราขอความร่วมมือเผยแพร่ภาพการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทธโธปกรณ์หรือพิกัดทางการทหาร ซึ่งในห้วงนี้ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายอะไร อาจจะเป็นภาพเก่า เพราะเราได้หยุดการเคลื่อนไหวตามข้อตกลงหยุดยิงอยู่แล้ว มองว่า เป็นภาพเก่าที่นำมารีวิวใหม่ จึงขอฝากประชาชนไม่ให้ดำเนินการดังกล่าว ให้ลดการโพสต์ เพื่อรักษาความลับทางราชการ

 

เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าว มีระเบิดลงที่เนิน 498 ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี พลโทบุญสิน กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่เราต้องเก็บรวบรวมไว้ เพื่อนำไปประท้วงกับคณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT 

 

กองทัพจะต้องเป็นสุภาพบุรุษในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีเหตุ หรือเงื่อนไข สถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เราก็ต้องทำหน้าที่ เพราะเราเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว และไม่ควรทำตามกระแส ซึ่งจะทำอะไรก็ต้องมีเหตุ และผล รวมถึงความมั่นคงของประเทศชาติ และภาพรวม


เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ทหารสามารถตัดสินใจได้ทันทีนั้น พลโทบุญสิน ระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. โดยเฉพาะเรื่องที่กระทบกับความมั่นคงในภาพรวม เพราะการตัดสินใจฝ่ายเดียวอาจจะสูญเสียบางอย่าง 

 

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ. ได้ฝากอะไรไว้หรือไม่เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ตึงเครียด แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เราก็ร่วมกันแก้ปัญหานำพาประเทศให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมทั้งยืนยันว่า แม้ฝ่ายกัมพูชา จะใช้อาวุธเล็ก ก็ยังไม่สามารถใช้อาวุธใหญ่ได้ จนกว่ากัมพูชาจะนำอาวุธใหญ่ออกมาใช้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นรังแก