หลักเกณฑ์ "นักโทษ" แบบไหนออกมาลอกท่อนอกเรือนจำได้บ้าง | คมชัดลึก

ภายหลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร และออกมาเปิดเผยว่า "ผบ.เรือนจำฯ บอกว่าเดี๋ยวจะให้คุณพ่อไปช่วยคุมการลอกท่อ" 

 

หลักเกณฑ์นักโทษที่ถูกคุมขัง ใครที่สามารถออกมาปฏิบัติภารกิจลอกท่อข้างนอกเรือนจำได้

 

สถานะนักโทษ

• ต้องเป็น นักโทษเด็ดขาด ที่คดีถึงที่สุดแล้ว ไม่ใช่นักโทษระหว่างพิจารณาคดีหรือมีคดีอื่นอยู่ระหว่างการดำเนินงาน

 

ชั้นนักโทษ

นักโทษเด็ดขาดนอก ซึ่งเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี อาจได้รับการพิจารณาคัดเลือกออกไป โดยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

•  ชั้นเยี่ยม : ได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 5
•  ชั้นดีมาก : ได้รับโทษจำคุกแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 4
•  ชั้นดี : ได้รับโทษจำคุกแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3
•  ชั้นกลาง ได้รับโทษจำคุกแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 2

ระยะเวลาการรับโทษ

• ต้องรับโทษมาแล้วตามสัดส่วนที่กำหนด เช่น 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 2 ของกำหนดโทษ
• ต้องเหลือระยะเวลาจำคุกไม่นานเกินไป

 

พฤติกรรม

• ต้องมีประวัติความประพฤติดีเยี่ยม
• ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด
• ไม่แสดงพฤติการณ์ว่าอาจจะหลบหนี
• ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ
• ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นนักโทษชั้นกลางที่มีความประพฤติดีและมีความอุตสาหะในการทำงาน

 

สำหรับ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ หรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ ปี 2563 ได้ระบุใจความสำคัญ อยู่ในหมวดที่ 1

 

ข้อที่ 5 นักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป ที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และต้องโทษเพียงคดีเดียว และต้องรับโทษแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ที่ระบุไว้ในหมายแจ้งโทษเด็ดขาดฯ
 

กลุ่มนักโทษที่ถูกตัดสิทธิ์จากโครงการ

 

แม้จะมีความประพฤติที่ดี แต่ผู้ต้องขังบางกลุ่มจะถูกตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ เนื่องจากความร้ายแรงของคดีหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น 

• คดีอุกฉกรรจ์: นักโทษที่กระทำความผิดในคดีร้ายแรง เช่น คดีเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ คดีความผิดทางเพศ คดีฉ้อโกงประชาชน หรือคดียาเสพติด
• ประวัติหลบหนี: นักโทษที่มีพฤติกรรมหลบหนีหรือเคยพยายามหลบหนี
• ปัญหาสุขภาพ: ผู้ต้องขังที่มีโรคติดต่อร้ายแรงหรือมีปัญหาสุขภาพที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงานนอกเรือนจำ

 

การคัดเลือกที่เข้มงวดนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสให้นักโทษได้กลับตัวกลับใจ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมว่านักโทษที่ออกไปทำงานนั้นจะไม่ก่อปัญหาใด ๆ และสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชุมชนได้จริง