ข่าว

เช็ก! เงื่อนไขใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว”

เช็ก! เงื่อนไขใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว”

03 ก.ย. 2568

สปสช. แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์เข้ารับบริการ ใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว” พร้อมระบุชัด 4 กรณี ที่ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

 

สปสช. เปิดเผยว่า ในการเข้ารับการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขโดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง 30 บาท” เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่ผ่านมา สปสช. ได้มีการพัฒนาเพื่อเชื่อมต่อระบบบริการโดยลดขั้นตอนการเข้ารับบริการให้กับประชาชน โดยเฉพาะกรณีการใช้ “ใบส่งตัว” อย่างไรก็ดีในด้านของข้อมูลและความจำเป็นทางการแพทย์ ทำให้ในการให้บริการทางหน่วยบริการยังต้องขอใบส่งตัวนี้อยู่ ส่งผลให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่งส่วนหนึ่งได้สอบถามมายัง สายด่วน สปสช. 1330 ดังนั้น เพื่อความชัดเจนและลดความสับสนกรณีของการใช้ใบส่งตัว สปสช. จึงขอให้ข้อมูลและทำความเข้าใจ กับประชาชนดังนี้

 

เช็ก! เงื่อนไขใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว”

ใช้ใบส่งตัว

เมื่อไหร่ที่ “ต้องใช้ใบส่งตัว” โฆษก สปสช. ระบุว่า โดยหลักแล้ว ผู้ใช้สิทธิบัตรทองจะต้องเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลประจำตัวที่ลงทะเบียนไว้เป็นอันดับแรก เช่น โรงพยาบาลชุมชน หรือคลินิกชุมชนอบอุ่นในพื้นที่ แต่หากแพทย์พิจารณาแล้วว่าอาการมีความซับซ้อน ต้องการการวินิจฉัยหรือการรักษาที่เฉพาะทางมากขึ้น แพทย์จะออก “ใบส่งตัว” ให้ผู้ป่วยนำไปยืนยันสิทธิที่สถานพยาบาลปลายทาง ซึ่งมีศักยภาพสูงกว่า เช่น โรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ใบส่งตัวนี้จึงเป็นเอกสารสำคัญที่ยืนยันว่า ผู้ป่วยได้รับการตรวจประเมินเบื้องต้นแล้ว และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในระดับที่สูงขึ้นตามความเหมาะสม

 

เช็ก! เงื่อนไขใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว”

 

ไม่ใช้ใบส่งตัว

ส่วนในกรณีที่ “ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว” นั้น ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า สปสช. ได้มีการกำหนดเงื่อนไขพิเศษในหลายสถานการณ์ที่ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ทันที โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว เพื่อทำให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิการเข้ารับบริการได้สะดวกเพิ่มขึ้น ได้แก่

- เจ็บป่วยต้องเข้ารับบริการที่หน่วยบริการต่างถิ่น (กรณีไม่ฉุกเฉินวิกฤติ): หากประชาชนเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วมีอาการเจ็บป่วยทั่วไป เช่น เป็นไข้หวัด ปวดท้อง หรือท้องเสีย สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ รวมถึงคลินิกชุมชนอบอุ่น และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมระบบบัตรทองได้เลยทันที

- เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (UCEP) หากอยู่ในภาวะฉุกเฉินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ตามเกณฑ์ 6 อาการวิกฤติที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กำหนด เช่น หมดสติ ไม่รู้สึกตัว หายใจหอบเหนื่อยรุนแรง เจ็บหน้าอกรุนแรง แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก หรือมีอาการชักต่อเนื่องไม่หยุด ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุดได้ทันที ทั้งรัฐและเอกชน โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว

- “30 บาทรักษาทุกที่” ในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อย : เป็นทางเลือกใหม่ที่เพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการปฐมภูมิ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ครอบคลุมการเข้ารับบริการ ที่ร้านยาคุณภาพและคลินิกพยาบาล ( 32 กลุ่มอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย) คลินิกเวชกรรม รวมถึงผ่านแอปพลิเคชันหาหมอออนไลน์ ตู้ห่วงใยตามจุดชุมชน (42 กลุ่มอาการ) และบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ เช่น ทำฟัน กายภาพบำบัด เจาะเลือด ตรวจแล็บตามแพทย์สั่ง

- โรคมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere): ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลอื่นได้ โดยใช้เพียงใบสรุปการรักษาหรือใบส่งข้อมูลผู้ป่วยในการเข้ารับบริการครั้งแรก หลังจากนั้นไม่ต้องใช้ใบส่งตัวอีกจนกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการรักษา

 

 

เช็ก! เงื่อนไขใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว”

 

สาเหตุที่ สปสช. ต้องออกมาอธิบายอย่างละเอียด เนื่องจากการเข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวกและถูกต้องมีผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยตรง หากเข้าใจเงื่อนไขการใช้สิทธิ จะช่วยลดปัญหาความล่าช้า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางกลับไปสถานพยาบาลประจำเพื่อขอใบส่งตัวโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังช่วยให้สถานพยาบาลทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น “ขอย้ำว่าใบส่งตัวยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคที่ซับซ้อนซึ่งต้องรักษาต่อเนื่อง แพทย์ที่ให้การดูแลจะต้องมีข้อมูลประวัติผู้ป่วย อาการและการรักษาก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยเอง แต่หากเป็น “กรณีเจ็บป่วยต่างถิ่น” “กรณีฉุกเฉินวิกฤติ” “30 บาทรักษาทุกที่ เจ็บป่วยเล็กน้อย” และ “โรคมะเร็งรักษาทุกที่ ตามนโยบาย Cancer Anywhere” ผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิบัตรทองที่หน่วยบริการได้เลย ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว” ทั้งนี้ หากยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิบัตรทอง สามารถสอบถามสายด่วน สปสช. โทร. 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

เช็ก! เงื่อนไขใช้ “สิทธิบัตรทอง” แบบไหน “ต้อง - ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว”