ข่าว

แม่ "พลทหารอดิศร" เผยคำพูดลูกชาย ลางบอกเหตุ ก่อนเหยียบกับระเบิด

แม่ "พลทหารอดิศร" เผยคำพูดลูกชาย ลางบอกเหตุ ก่อนเหยียบกับระเบิด

28 ส.ค. 2568

แม่ "พลทหารอดิศร" เผยคำพูดลูกชาย ลางบอกเหตุ ก่อนเหยียบกับระเบิด ภูมิใจลูกทำหน้าที่รักษาผืนแผ่นดินไทย

จากกรณี เกิดเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิด PMN-2 ขณะออกไปเดินลาดตระเวนในเขตปฏิบัติการ ณ บริเวณพื้นที่ด้านขวาของปราสาทตาควาย เป็นเหตุให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย โดย พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด ร.23 พัน.1 ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวาท่อนล่างขาด ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

27 ส.ค. 2568 เมื่อเวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของ พลทหาร อดิศร พื้นที่หมู่ 5 บ้านบุไท ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เพื่อพูดคุยกับ นายไหล ป้อมกลาง อายุ 56 ปี และนางเสาวลักษณ์ ป้อมกลาง อายุ 46 ปี พ่อและแม่ของพลทหารอดิศร โดยพบว่ามีญาติพี่น้องเดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นางเสาวลักษณ์ บอกว่า ตนมีลูกชาย 2 คน พลทหารอดิศร เป็นลูกชายคนเล็ก เมื่อปี 2567 ลูกชายไปเกณฑ์ทหารและจับได้ใบแดงและเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการผลัด 2 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ต่อมาลูกชายได้ไปประจำการอยู่ที่ชายแดน จ.สุรินทร์ โดยก่อนไปเป็นทหารลูกชายได้แต่งงานกับแฟนสาว มีลูกสาว 1 คน อายุ 3 ขวบ 

แม่ \"พลทหารอดิศร\" เผยคำพูดลูกชาย ลางบอกเหตุ ก่อนเหยียบกับระเบิด

นางเสาวลักษณ์ เล่าต่อว่า ก่อนลูกชายจะเดินทางไปชายแดน จ.สุรินทร์ ตนได้ตัดชายผ้าถุงให้ลูกพกติดตัวไว้ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อประมาณ 3 ที่ผ่านมา ลูกชายโทรศัพท์มาหาบอกว่าทำชายผ้าถุงแม่หล่นหาย ขณะออกลาดตระเวน แม่เลยบอกว่าไม่เป็นไรหรอกแม่เป็นกำลังใจให้ลูก ให้ลูกเข้มแข็งนะ จนเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. มีโทรศัพท์โทรมาหาแม่ 3 สาย แต่แม่ไม่ได้รับเพราะกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพ จนครั้งที่ 4 แม่จึงตัดสินใจรับสาย ปลายสายแจ้งว่าลูกชายแม่ เหยียบกับระเบิดขาขาด ให้แม่ทำใจดี ๆ

ตอนแรกแม่ก็ไม่เชื่อ เช็คข้อมูลจนแน่ชัดว่าเป็นเรื่องจริง แม่กับพ่อและทุกคนในครอบครัวตกใจมาก แต่ก็ยังดีใจที่ลูกชายยังมีชีวิตอยู่ และปลื้มใจที่ลูกชายทำหน้าที่ทหารไทยได้อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ ซึ่งครอบครัวจะเดินทางไปเยี่ยมลูกชาย ช่วงเช้ามืดวันที่ 28 ส.ค. 2568