ข่าว

"ฮุน เซน" ลั่นปริญญาไทย ไม่มีคุณค่า สติ-ความรู้ เกิดขึ้นจากกัมพูชา

"ฮุน เซน" ลั่นปริญญาไทย ไม่มีคุณค่า สติ-ความรู้ เกิดขึ้นจากกัมพูชา

23 ส.ค. 2568

"ฮุน เซน" เดือดจัด โพสต์ทิ้งใบปริญญาไทยไปนานแล้ว ไม่มีคุณค่า ไม่เคยขอ แต่ไทยเสนอให้เอง บอกสติและความรู้ของเขา เกิดขึ้นคนและโรงเรียนในกัมพูชา

กรณีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประกาศเพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ที่มอบให้ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา 


กลางดึก 22 ส.ค. 2568 สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟสบุ๊กเดือด ระบุว่า 

 

“ผมทิ้งมันไปนานแล้ว มันไม่มีคุณค่าอะไรที่ผมจะต้องเก็บไว้ 

วันนี้ผมเห็นว่าสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งของไทย ได้ประกาศเพิกถอนปริญญาบัตรที่เคยมอบให้กับผม ผมขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า ปริญญาบัตรทั้ง 3 ฉบับ จากสถาบันการศึกษาของไทยที่เคยมอบให้ผมนั้น ผมได้ทิ้งมันไปนานแล้ว มันไม่มีคุณค่าสำหรับผมเลยแม้แต่น้อยที่จะเก็บรักษาไว้

 

(แฟ้มภาพ) รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญา สาขาวิชาการสื่อสารทางการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก

 

ปริญญาฉบับแรกได้รับในปี 2001 ฉบับที่สองในปี 2006 และฉบับที่สามในปี 2019 ผมไม่ได้รู้สึกภูมิใจอะไรกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่มาจากพวกคุณเลย

 

สติปัญญาและความรู้ของผม ไม่ได้เกิดจากปริญญาของคุณ หรือจากโรงเรียนในประเทศไทย แต่เกิดจากประชาชนกัมพูชาและโรงเรียนในประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้ให้การศึกษาแก่ผม
 

ผมควรจะบอกพวกคุณกลับไปว่า หากลองพิจารณาช่วงเวลาที่พวกคุณเสนอจะมอบปริญญาให้กับผม ซึ่งผมไม่เคยร้องขอจากพวกคุณเลย เทียบกับช่วงเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งในภารกิจระดับชาติ จะเห็นได้ชัดเจนว่าปริญญาของพวกคุณไม่ได้ช่วยอะไรในความสำเร็จของผมเลย เพราะปริญญาเหล่านั้นมอบให้ผม ‘หลังจาก’ ที่ผมประสบความสำเร็จแล้ว ดังนี้:

 

ปี 1979 ขณะอายุ 27 ปี ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ปี 1981 ขณะอายุ 29 ปี ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ปี 1985 ขณะอายุ 32 ปี ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

ผมคิดว่าพวกคุณควรจะรู้สึกละอายใจ หากได้กลับไปทบทวนการประเมินคุณสมบัติของผมในตอนที่พวกคุณเสนอให้ผมรับปริญญาเหล่านั้น ผมจะให้สำนักงานของผมเผยแพร่เอกสารการประเมินของพวกคุณที่มีต่อคุณสมบัติของผม เพื่อให้เป็นเครื่องเตือนความจำ ไม่ให้พวกคุณลืม

 

อดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และผมขอย้ำว่า คนที่มาขอให้ผมรับปริญญาเหล่านั้นก็คือ ‘พวกคุณ’ พร้อมด้วยคำชื่นชมต่างๆ การตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับ ขึ้นอยู่กับตัวผมเอง และผมก็ไม่เคยเป็นคนที่รับอะไรโดยไม่คิด